ตามหาเสื้อเหลือง #2: ริชีย์ พอร์ท

กว่าที่ริชีย์ พอร์ทจะขึ้นมาเป็นผู้นำแกรนด์ทัวร์ในทีมที่อยู่หัวแถวของดิวิชันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่เชื่อว่าฟอร์มของเขาในฤดูกาลนี้ก็เป็นสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดไว้เช่นกัน ด้วยผลงานชัยชนะ 6 ครั้งในระดับ WorldTour ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พอร์ทเป็นนักปั่นที่ฟอร์มดีที่สุดก่อนเริ่มตูร์เดอฟรองซ์ปีนี้

จากนักปั่นที่เป็นเบอร์รองของทีม Sky ตั้งแต่ย้ายเข้าไปอยู่กับ BMC พอร์ทเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับจังหวะที่ผู้นำแกรนด์ทัวร์ของทีม ทีเจย์ แวนการ์เดอเรนฟอร์มตก หมดกำลังใจและไม่มีผลงาน ปีที่ผ่านมาเขาได้รับเลือกให้นำทีมคู่กับทีเจย์ ซึ่งสุดท้ายก็ทำผลงาน overall ได้ดีกว่า พอร์ทปั่นจนจบรายการและคว้าอันดับ 5 แต่ทีเจย์ปั่นไม่จบ ต้องถอนตัวไปอย่างน่าเสียดาย

พอร์ทโชว์จิตใจทรหด เพราะถึงจะยางรั่วตั้งแต่สเตจสองและเสียเวลาไปฟรีๆ ร่วมสองนาที แต่สุดท้ายก็ไต่กลับมาอยู่ Top 10 GC ถึงจะแพ้ฟรูมที่ 5 นาทีกว่า แต่เขาแพ้อันดับสอง โรเมน บาค์เดต์แค่ +1.12 นาทีเท่านั้น ปีนี้ ทีม BMC เลยเปลี่ยนแผนใหม่ ทีเจย์ต้องเลือกว่าจะไปแข่ง Giro หรือจะลงตูร์เดอฟรองซ์ แต่ในฐานะ “ผู้ช่วย” ของพอร์ท ไม่ใช่กัปตันทีมร่วมเหมือนปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี พอร์ทคือผู้นำสูงสุดของทีม BMC ในตอนนี้

 

The Portfolio

หลายคนคงชินกับพอร์ทในฐานะ super domestic คู่หูคู่ฮาของแบรดลีย์ วิกกินส์และคริส ฟรูม เพราะเขาเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทั้งคู่คว้าแชมป์ตูร์เดอฟรองซ์รวมกันได้ถึง 4 สมัย แต่โดยเนื้อแท้แล้ว พอร์ทมีหวังอยากเป็นตัวเต็ง GC มาตั้งแต่เริ่มครับ

ในปี 2010 ที่เขาเทิร์นโปรกับทีม SaxoBank ของบิยาร์น รีส์ เขาคว้าเสื้อชมพูใน Giro d’Italia ได้ถึง 3 วันและเป็น Best Young Rider ในรายการนั้น

แต่พอร์ทกับดวงไม่ใช่ของคู่กัน หนึ่งคือเขาอยู่ในทีมที่มีนักปั่นแกรนด์ทัวร์เบอร์หนึ่งของโลก – อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ และเมื่อย้ายไป Sky ในปี 2012 ที่สร้างมาเพื่อวิกกินส์กับเป้าหมายการเป็นแชมป์ตูร์ใน 5 ปีนั้น ชะตาชีวิตพอร์ทถูกจำกัดอยู่แค่การเป็นผู้ช่วย มีอิสระได้นำสนามใหญ่สุดก็แค่สเตจเรซความยาวไม่เกิน 7 วัน ซึ่งพอร์ทก็ทำได้เต็มความสามารถครับ เพราะระหว่างที่เป็นเบ๊ให้ฟรูมและวิกกินส์ เขาคว้าแชมป์ Paris-Nice 2 ครั้ง, Volta Algarve, Giro del Trentino และ Santos Tour Down Under อย่างละหนึ่งครั้ง จะบอกว่าพอร์ทเป็นผู้ช่วยที่ค่าตัวดีที่สุดในโลกก็คงไม่ผิด และเขาจะอยู่กับ Sky ต่อจนร่ำรวยและอำลาวงการก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี

แต่ในใต้เงายักษ์ทุกตัว มันก็มีคนที่อยากจะล้มยักษ์อยู่

พอร์ทรู้ตัวดีว่าเขามีความสามารถพอจะนำทีมในแกรนด์ทัวร์ได้ และไม่ใช่ว่า Sky ไม่เคยให้โอกาสเขา พอร์ทได้นำทีม Sky ใน Giro ในปี 2015 แต่เขาก็ล้มเจ็บจนต้องถอนตัวจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

 

ผลงานปีนี้

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ฤดูกาลนี้เขาคือตัวเต็ง GC ที่ผลงานดีที่สุดครับ ได้แชมป์ 6 ครั้งในระดับ WorldTour – มีสองสเตจใน Tour Down Under และแชมป์รายการ, หนึ่งสเตจใน Paris-Nice (จบที่ 5), แชมป์ Tour de Romandie, แชมป์สเตจใน Criterium du Dauphine (จบที่ 2) เป็นฤดูกาลที่พอร์ททำผลงานได้ดีที่สุด

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดอาจจะเป็นทักษะการปั่น Time Trial ของพอร์ทครับ เรื่องการไต่เขาเรารู้อยู่แล้วว่าเขาทำได้ดีไม่แพ้ GC คนไหนๆ ในปีที่เขาเป็นผู้ช่วยฟรูม ถ้าไม่นับคินทานา พอร์ทนี่ไต่เขาได้ดีกว่าหัวหน้าทีมอื่นเสียอีก

เราพอรู้ว่าพอร์ทปั่น TT ได้ไม่เลว เขาเป็นแชมป์ Time Trial ออสเตรเลียในปี 2015 และปีนี้เขาปั่น TT ชนะฟรูมใน Tour de Romandie ทำเวลานำกว่า 38 วินาทีในระยะทางเพียง 18 กิโลเมตร และใน Criterium du Dauphine เขาปั่น TT ชนะโทนี มาร์ตินรวมถึง GC คนอื่นๆ (ทำเวลานำฟรูม 37 วินาทีในระยะทาง 24 กิโลเมตร) ได้ทั้งแชมป์สเตจและแชมป์รายการ

 

ฟังดูดีแต่พี่ไม่มั่นใจเลย

จริงว่าพอร์ทเป็นคนที่เตรียมตัวลงแข่งตูร์ได้สมบูรณ์พร้อมที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะชนะได้ง่ายๆ ครับ โดยเฉพาะเมื่อเราดูผลงานที่ผ่านมาของเขา

อันดับ GC ที่ดีที่สุดของพอร์ทคือที่ 5 ใน Tour de France (2016) ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะไม่มีโอกาสได้ขึ้นนำทีมจริงๆ จังๆ สักที พอร์ทดูจะโชคร้ายเป็นพิเศษกับการล้มและยางรั่วที่ทำให้เขาเสียเวลาจนหมดโอกาสขึ้นโพเดี้ยมรายการ ซึ่งเราก็เลยไม่รู้ว่า ถ้าพอร์ทไม่เสียเวลากับเรื่องไม่คาดคิดแบบนี้ เขาจะไต่เขาและ Time Trial สู้ฟรูม บาค์เดต์ และคินทานาได้ดีแค่ไหน

นอกจากจะยังไม่เคยติดโพเดี้ยมแกรนด์ทัวร์แล้ว พอร์ทยังไม่เคยได้แชมป์สเตจในแกรนด์ทัวร์เลยด้วย ถ้านับความสามารถในการไต่เขาแล้วพอร์ทถือว่าอยู่ในแถวหน้าของตัวเต็งรายการนี้ แต่ไต่เขาดีก็ใช่ว่าจะชนะรายการได้ง่ายๆ ครับ ถ้าพอร์ทรักษาฟอร์ม TT ได้ดีเหมือนใน Dauphine อาจจะพยายามทำเวลานำฟรูมและคู่แข่งคนอื่นๆ ให้ได้มากๆ ในสเตจ TT แล้วเกาะคู่แข่งหรือโจมตีเท่าที่มีโอกาสในสเตจภูเขา สำคัญคือห้ามหลุดกลุ่มตัวเต็ง

เอาเข้าจริงแล้วถึงฟรูมเองจะแพ้พอร์ทในสเตจ TT ก่อนเริ่มตูร์ แต่อย่าลืมว่าเขาเคยปั่น TT จนได้แชมป์สเตจตูร์ และเป็นผู้ครองเหรียญโอลิมปิก Time Trial สองเหรียญ​

 

คู่แข่ง

ในบรรดา Top 5 ตามการคาดการ์ณของ DT (คอนทาดอร์, บาค์เดต์, คินทานา, พอร์ท, ฟรูม) พอร์ทกับฟรูมมีความได้เปรียบในสกิล Time Trial

คินทานาเองนี่เป็นเคสที่ต้องคิดหนักเหมือนกัน เขาแพ้ดูโมลานใน Giro แต่เราก็เดาว่าเขาคงลง Giro แบบ undercook คือลงแข่งก่อนพร้อม กะให้ลงตูร์แบบไม่เหนื่อย ซึ่งเป็นเหมือนกล่องดำที่เราไม่รู้จริงๆ ว่าคินทานาจะแข่งตูร์แบบหมู่หรือจ่า ถ้าฟอร์มตก

ส่วนฟรูมเองก็เป็นเคสลึกลับเช่นกัน ฟรูมไม่เคยไม่ชนะสเตจเรซ​หรือได้แชมป์สเตจก่อนลงแข่งตูร์ปีที่เขาได้แชมป์เลยสักปีเดียว หมายความว่าปีนี้เป็นปีที่เขาฟอร์ม “แย่” ที่สุดก็ว่าได้ แต่นั่นอาจจะเป็นความตั้งใจของทีม ซึ่งเราไม่สามารถเกรดฟรูมด้วยผลงานการแข่งก่อนเริ่มตูร์ได้เหมือนคนอื่น เพราะเขาเป็นนักปั่นคนเดียวที่เป็นแชมป์รายการมาสามสมัย ถ้าจะมีคนไหนที่รู้ว่าต้องซ้อมยังไงถึงจะได้แชมป์ ก็เป็นคริส ฟรูมและทีม Sky นี่หละครับ

 

Team ★★★★

CARUSO Damiano, DE MARCHI Alessandro, KÜNG Stefan, MOINARD Amaël, PORTE Richie, ROCHE Nicolas, SCHAR Michael, VAN AVERMAET Greg, WYSS Danilo

ถ้าจะมีจุดอ่อนสำหรับพอร์ทก็คงเป็นเรื่องทีมและผู้ช่วยนี่หละครับ เทียบกับทีม GC ทีมอื่นๆ แล้ว BMC มี pure climber น้อยมาก คนที่พอจะช่วยพอร์ทได้จริงๆ ในสเตจภูเขาสูงชันคงมีแค่นิโคลาส โรช และโมนาร์ด ที่เหลือจะเป็นสไตล์ Rouleur ถนัดทางราบมากกว่า

แผนสำรอง:

GVA – ถ้า BMC อยากให้พอร์ทได้แชมป์จริงๆ GVA ไม่ควรได้มาลงรายการนี้ (แต่จะไม่เลือกได้ยังไงในเมื่อ GVA คือนักปั่นที่ผลงานดีที่สุดของทีมในปีนี้และเป็นแชมป์โอลิมปิกด้วย!) ที่บอกอย่างนั้นก็เพราะว่า BMC เลือกนักไต่เขาคนอื่นมาช่วยพอร์ทน่าจะดีกว่า เช่นโรฮาน เดนนิส ที่ไม่ได้ถูกเลือก

เช่นนั้นแล้ว GVA คือ Bailout plan อย่างแท้จริงครับ ถ้าพอร์ทอันดับ GC ร่วงเมื่อไร BMC ปล่อยผี GVA ออกไล่แชมป์สเตจแน่นอน ซึ่งก็มีหลายสเตจที่เขาน่าจะพอชนะหรือได้โพเดี้ยม อย่างน้อยก็พอมีลุ้นไม่กลับบ้านมือเปล่าล่ะนะ

 

จะได้เสื้อเหลืองมั้ย?

  • พอร์ทเป็นนักปั่นที่ฟอร์มดีที่สุดในฤดูกาลนี้
  • ไต่เขาและ time trial ดีกว่าทุกคน ณ​ ชั่วโมงนี้
  • มีทีมที่เข้มแข็ง (ระดับหนึ่ง) และมีประสบการณ์การอยู่ในทีมที่ชนะตูร์หลายสมัย
  • เก่งทุกด้าน แต่ไม่เด่นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ
  • อายุ (32 ปี)​ มากกว่า GC เกือบทุกคนในปีนี้
  • ยังไม่เคยขึ้นนำแกรนด์ทัวร์ด้วยตัวเอง
  • เทพีโชคชะตาไม่ชอบขี้หน้าเท่าไร
  • คู่แข่งเก่งๆ หลายคน
  • ฟรูมน่าจะฟอร์มดีไม่แพ้ฤดูกาลอื่นๆ

Photo: BMC Racing Team
Illustration: LeTour

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *