ตามหาเสื้อเหลือง #1: คริสโตเฟอร์ ฟรูม

ในบรรดาคนที่เคยได้แชมป์ Tour de France เกิน 3 สมัย ไม่มีใครเคยได้แชมป์ที่ 4 ตอนอายุ 32 ปี ซึ่งเป็นอายุของคริส ฟรูมในปีนี้ คริส ฟรูมอยู่ในจุดที่สูงและหนาว กับการเป็นแชมป์เก่าที่มีคู่แข่งนับสิบคนที่อาจจะปั่นได้ดีกว่าเขาในตูร์ปีนี้

แต่การประเมิณฟอร์มของฟรูมคงทำเหมือนคู่แข่งคนอื่นไม่ได้ครับ จริงว่าเขายังไม่มีผลงานน่าเตะตาเลยในฤดูกาลนี้ ว่ากันตามตัวเลขก็จัดว่าแย่ที่สุดเทียบกับปีที่เขาเคยได้แชมป์ตูร์ทั้งสามครั้งที่ผ่านมา แต่ฟรูมคือนักปั่นคนเดียวในเปโลตองที่ได้แชมป์ตูร์ 3 ครั้ง เขารู้ดีว่าต้องทำยังไงถึงจะชนะ และมีความมั่นใจของแชมป์เก่าในแบบที่คู่แข่งคนอื่นไม่สามารถมีได้ ลองอ่านที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ นสพ. L’Equipe ซึ่งเขาบอกถึงฟอร์มตัวเอง เป้าหมาย คู่แข่ง และเส้นทางครับ

ฟอร์ม

“ผมว่าฟอร์มผมอยู่ในจุดที่มันควรจะเป็นนะ จริงว่าผมแข่งน้อยก่อนที่จะลง Dauphine แต่ในมุมกลับมันทำให้ผมสดและไม่ล้าก่อนลงสนามใหญ่ และถ้าดูจากตัวเลขในการฝึกซ้อมแล้ว ผมพร้อมรับมือสามสัปดาห์ข้างหน้าครับ”​

เป้าหมาย

“เอาจริงๆ ตอนนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ห่างสถิติแชมป์ตูร์ 5 สมัย (เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์) ก็จริงที่ผมคิดอยากลองทำผลงานให้ถึงจุดนั้น แต่ก่อนจะได้ 5 สมัย ผมต้องชนะสมัยที่ 4 ก่อน ผมคิดว่าผมน่าจะรักษาฟอร์มระดับนี้ได้อีก 5-6 ปีนะ ส่วนตัวแล้วผมไม่ใช่คนบ้าสถิติ แต่มันก็เป็นกำลังใจที่ดี ว่ากันแค่ตอนนี้ผมพอใจแล้วถ้าผมจะลงแข่งตูร์ด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดไปจนกว่าผมจะรีไทร์”

คู่แข่ง

“คนที่ทำให้ผมเจ็บช้ำได้มากที่สุดคือคินทานา เขาชนะผมได้เหมือนใน Vuelta ปีที่แล้ว คอนทาดอร์เป็นคนที่ผมจะไม่วางใจเด็ดขาดตราบเท่าที่เขายังอยู่ในเปโลตอง เขามีทั้งประสบการณ์ พละกำลังและความมุมานะ และการย้ายทีมใหม่ก็ดีสำหรับเขา เพราะตอนอยู่ Tinkoff ก็ดูจะวุ่นวายไม่น้อย ส่วนบาค์เดต์ก็ชัดเจนว่าเขาฟอร์มดีขึ้นทุกปี และท้ายสุดผมรู้ดีว่าริชีย์ พอร์ทแข็งแกร่งมาก (ย้ำ) ทำไมจะไม่รู้เพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมตั้งหลายปี”

เส้นทาง

“ปีนี้มีเส้นชัยบนยอดเขาแค่ 3 สเตจ ซึ่งถือว่าน้อยครับ แล้วสเตจ Time Trial ก็สั้น รวมๆ แล้วสเตจที่ตัวเต็ง GC จะได้ชิงกันมีไม่เยอะ แต่หมายความว่าคุณต้องพร้อมที่จะหาโอกาสในสเตจอื่นๆ ที่จะทำเวลานำคู่แข่ง ซึ่งมันอาจจะทำให้การแข่งขันสนุกขึ้นอีก ผมดีใจที่สเตจที่จบบนยอดเขาสเตจแรกมาตั้งแต่สเตจ 5 แล้วมันยังเป็นที่ๆ ผมได้แชมป์สเตจในตูร์ครั้งแรกด้วย (La Planche des Belles Filles)”

ภาพรวม

โดยรวมแล้ว ฟรูมเป็นนักปั่น GC แบบรอบด้านคนเดียวในรายการนี้ ทุกคนรู้ว่าเวลาเขาฟอร์มดีฟรูมไต่เขาได้น่ากลัวขนาดไหน จริงว่าฟรูมถนัดเล่นเกมคอนโทรล ใช้ลูกทีมตั้งเทมโปที่คู่แข่งไม่อยากจะเปลืองแรงโจมตีแล้วปิดเกมด้วยการขึ้นเชือดหนีห่างคู่แข่งที่ใกล้ๆ ยอดเขา และอาจจะโดนสวนทีเผลอแบบที่คอนทาดอร์ใช้ แต่จะทำอย่างนั้นได้ก็ต้องตัดแรงทีม Sky ให้ได้เสียก่อน แม้แต่ทีมที่ลูกทีมแข็งแกร่งอย่าง Movistar ก็ยังทำไม่สำเร็จตลอดสามปีที่คินทานาลงปะทะฟรูม

ในปี 2016 ทีม Sky และฟรูมโชว์สไตล์การแข่งที่มากกว่าแค่จ้องพาวเวอร์มิเตอร์ ฟรูมโชว์ฟอร์มลงเขาคว้าแชมป์สเตจและเสื้อเหลืองในสเตจ 8 ปีที่แล้ว ดและยังมีสเตจที่แอบหนีไปกับปีเตอร์ ซากานในจังหวะลมตีข้าง หาจังหวะทำเวลาเพิ่มได้ทั้งการขึ้น+ลงเขา และในสเตจทางราบ

เรื่อง Time Trial ถ้าไม่นับฟอร์มปีนี้ (ซึ่งยังไม่ดีเท่าพอร์ท) ฟรูมเป็นคนที่ผลงาน TT ดีที่สุดในบรรดาตัวเต็ง GC

และท้ายสุดสมาชิกทีม Sky ซึ่งปีนี้มี – THOMAS Geraint, LANDA Mikel, KIRYIENKA Vasil, FROOME Christopher, KNEES Christian, ROWE Luke, HENAO Sergio Luis, KWIATKOWSKI Michal, NIEVE Mikel

นอกจากจะเป็นทีมที่ชนะตูร์เยอะที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาแล้ว (ได้แชมป์ 4 ครั้งโดยนักปั่นสองคน) Sky ยังเป็นทีมที่รวยที่สุดด้วย ความรวยนี้ช่วยให้เลือกซื้อนักไต่เขาเก่งๆ มาช่วยได้หลายคนครับ โดเมสติกสายเขาสำหรับฟรูมมี โทมัส, เนียเว่, เฮนาว, แลนด้า, คิริเยงก้า, และเควียทคอฟสกี้ – 6 คน (โอเค คิริเยงก้ากับเควียทคอฟสกี้อาจจะช่วยบนเขาสูงๆ ไม่ได้ แต่ก็แกร่งอยู่ดี)​ เยอะกว่าโดเมสติกสายเขาของทีมอื่นทุกทีม ในสเตจทางราบก็มีสายคลาสสิคอย่างลุค โรว์ (ที่ 8 Paris-Roubaix 2015) และคริสเตียน คนีส์ตามประกบ

น่าเสียดายว่าไม่มีเวาท์ โพลส์ที่หยุดแข่งไปเพราะอาการบาดเจ็บ จนฟื้นฟอร์มไม่ทันคัดตัวทีมชุดตูร์ แต่ก็ยังเป็นทีมที่แกร่งอยู่ดีครับ

ว่าตามตรง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฟรูมจะแพ้ตูร์ปีนี้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาให้สัมภาษณ์และโชคดี ไม่ล้ม ไม่เจ็บ เขามีโอกาสชนะตูร์มากกว่าตัวเต็งทั้ง 9 คนที่เรากล่าวมาในบทวิเคราะห์ก่อนหน้าครับ

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *