First Touch: Focus Izalco Max 3.0

Focus อาจจะไม่ใช่แบรนด์จักรยานที่ได้รับความนิยมในไทยมากสักเท่าไรนะครับ แต่ก็เป็นแบรนด์ที่ทำจักรยานคุณภาพดีไม่แพ้ใคร วันนี้ Ducking Tiger พาไปชมจักรยาน Focus Izalco Max 3.0 หนึ่งในเสือหมอบที่เบาที่สุดในตลาดตอนนี้

กว่าจะมาเป็น Focus Bicycle

เอ่ยชื่อ Focus แล้วอาจจะนึกไม่ออกว่าแบรนด์นี้มาจากไหน แต่ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ลองนึกถึงจักรยาน Canyon ครับ ทั้งสองบริษัทนี้มาจากเยอรมันเหมือนกันและเน้นทุ่มทุนไปกับการวิจัยและพัฒนาสินค้ามากกว่าการโปรโมทโฆษณาในสื่อต่างๆ ปรัชญาของ Focusในตลาดยุโรปก็คือทำจักรยานที่ดีกว่าคู่แข่งในราคาระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีในแต่ละเฟรมและอะไหล่ก็ใช้รุ่นที่เกรดสูงกว่าเจ้าอื่นๆ

เช่นเดียวกับแบรนด์จักรยานดังจากยุโรปรายอื่นๆ เจ้าของบริษัทมักจะเป็นนักปั่นระดับแข่งขันตัวยง Mike Cluge ผู้ก่อตั้ง Focus Bicycle นั้นเคยเป็นแชมป์ไซโคลครอสเยอรมันถึง 3 สมัย เขาตัดสินใจใช้ชื่อ Focus ก็เพราะว่าอยากจะโฟกัสการพัฒนาจักรยานให้นักแข่งใช้โดยเฉพาะในราคาที่ไม่สูงมาก

ถึงจะเป็นที่ยอมรับในวงการไซโคลครอส แต่ทางจักรยานถนนโฟกัสเองก็สนับสนุนและทำงานวิจัยร่วมกับนักปั่นโปรทีมอย่าง Katusha (2011), และ AG2R (ปัจจุบัน) เมื่อถามเอซนักไต่เขาของทีมอย่างคาร์ลอส เบทันเคอร์ว่าจักรยานในฝันเป็นยังไง คำตอบคือขอเฟรมน้ำหนักเบา! และนั่นคือที่มาของ Focus Izalco Max เฟรม Izalco เจเนอเรชันล่าสุด

รุ่นที่ DT พรีวิวคือ Izalco Max 3.0 แต่เปลี่ยนขาจานจาก SRAM Red 22 เป็น Rotor Power + QRing
รุ่นที่ DT พรีวิวคือ Izalco Max 3.0 แต่เปลี่ยนขาจานจาก SRAM Red 22 เป็น Rotor Power + QRing

Focus Izalco Max 3.0

Izalco Max 3.0 ราคาตั้ง 220,000 บาท มากับชุดขับ SRAM Red 22, ล้อ Fulcrum Racing Zero, เบาะ Fizik Arione K:ium, แฮนด์ Fizik Cyrano R3 (อลูมินัม) สเต็มและหลักอานคาร์บอน รวมน้ำหนัก complete bike แกะกล่องอยู่ที่ 6.2 กิโลกรัม น้ำหนักเฟรมเปล่า 750g

ถ้าถามว่ารุ่นท๊อปเบาขนาดไหนลองดูสเป็ค Izalco Max 0.0 ที่มากับเบรค THM Fibula, ล้อ DT Swiss RRC32 และ SRAM Red 22 แล้ว เบ็ดเสร็จทั้งคันหนักที่ 5.3 กิโลกรัมเท่านั้น
DSCF1728

Clever Engineering

แล้วสูตรลับความเบาคืออะไร? ก็ต้องลงไปดูถึงขั้นกระบวนการผลิต วิศวกรของ Focus ปีเตอร์ คินเซลกล่าวว่ามันเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการพันเนื้อคาร์บอน (Carbon Layup) ที่ผ่านมาการพันคาร์บอนในจุดต่างๆ รอบเฟรมจักรยานนั้นจะใช้แผ่นคาร์บอนทรงสี่เหลี่ยมแปะทับกันซ้อนกัน แต่ Focus เลือกตัดชิ้นคาร์บอนด้วยรูปทรงที่ต่างกันไปให้เข้าเฉพาะกับบริเวณนั้นๆ เพื่อลดปริมาณคาร์บอนที่ใช้ให้ได้มากที่สุด นอกจากเฟรมแล้วตะเกียบก็ใช้กระบวนการผลิตเดียวกันซึ่งทำให้น้ำหนักเหลือเพียง 295g หนักกว่าตะเกียบของ Cervelo RCA แค่ 2 กรัม

ถึงตะเกียบจะดูบางเฉียบน่ากลัวว่าจะหักเอาง่ายๆ แต่ข้อดีของตะเกียบบางๆ ก็คือมันช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าตะเกียบหนาและน้ำหนักก็เบากว่าด้วยเพราะใช้วัสดุน้อยกว่า (เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหลายๆ แบรนด์ชอบใช้หางหลัง seat stay เป็นท่อบางๆ) ทีม AG2R อาจจะไม่มีหมอบสไตล์เอนดูรานซ์ให้เลือกใช้เหมือนทีมอื่นๆ แต่พอวิศวกร Focus ถามนักปั่นที่เอา Izalco Max ไปลงแข่งสนามคลาสสิคอย่าง Paris-Roubaix ทีมก็บอกว่าซับแรงกระแทกได้ดีไม่มีปัญหาอะไร

นอกจากฟีดแบคของนักแข่งแล้ว นิตยสารทดสอบจักรยานชื่อดังอย่าง Tour Magazine ก็ลองจับเสือหมอบเบาๆ หลายๆ รุ่นมาประชันกัน ปรากฏ Focus Izalco Max ได้รับรางวัลชนะเลิศเฉือนเอาชนะเฟรมอย่าง Cannondale SuperSix Evo และ Cervelo RCA เรื่องน้ำหนักเฟรม Focus นั้นมากกว่าเล็กน้อยแต่ชนะไปด้วยตะเกียบที่ซับแรงกระแทกได้ดีกว่าคู่แข่ง ลองดูกราฟผลทดสอบของ Tour ในรูปข้างล่างครับ

ตะเกียบ P2T บางเฉียบ น้ำหนัก 295 กรัม
ตะเกียบ P2T บางเฉียบ น้ำหนัก 295 กรัม
ตะเกียบหลังและ seat stay ก็บางไม่แพ้กัน
ตะเกียบหลังและ seat stay ก็บางไม่แพ้กัน

IMG_0751

DSCF1734

DSCF1747

DSCF1724

DSCF1717

ตะเกียบหลังและ seat stay ก็บางไม่แพ้กัน

DSCF1721

Published
Categorized as Review Tagged

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

1 comment

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *