[vc_row el_position=”first”] [vc_column] [vc_column_text el_position=”first last”]
Flèche Wallonne รายการคลาสสิควันเดียวเก่าแก่ หนึ่งในไตรภาคของศึก Ardennes Classic เป็นสนามที่น่าติดตามและพลาดไม่ได้สำหรับแฟนๆ นักไต่เขาระเบิดพลังปีนเนินครับ ด้วยเส้นชัยบนยอดเนิน Mur de Huy ที่บางช่วงชันกว่า 26% การันตีความมันส์ในช่วงท้ายเกมการแข่ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ความเป็นมา | History of Flèche Wallonne
เช่นเดียวกับสนามคลาสสิครายการอื่นๆ Flèche Wallonne เป็นการแข่งขันจักรยานที่จัดขึ้นเพื่อโปรโมทหนังสือพิมพ์ครับ จัดมาตั้งแต่ยุค 1930s โดย นสพ Les Sports สมัยก่อนนั้นระยะทาง Flèche Wallonne ยาวกกว่า 300 กิโลเมตร และจัดวันอาทิตย์ (ในขณะที่ Liege-Bastonge-Liege แข่งกันวันพุธ ปัจจุบันนี้สลับกัน Liege มาแข่งวันอาทิตย์แทน) ตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา ผู้จัดรายการเปลี่ยนมาที่เนิน Mur de Huy อันโด่งดังซึ่งพิชิตนักปั่นขาแรงมานักต่อนัก ในอดีตมีนักปั่นแค่สี่คนที่ชนะรายการนี้สี่ครั้ง (มากที่สุด) นั่นคือ Marcel Kint, Eddy Merckx, Moreno Argentin และ Dvide Rebellin อย่าลืมว่าสมัยก่อนเสือหมอบมีเกียร์ให้ใช้อย่างมากก็ 4-5-6 เกียร์ ยากกว่าสมัยนี้ซึ่งเกียร์สมัยนี้มีให้เลือกถึง 10/11 speed ปั่นขึ้นเขาง่ายขึ้นเยอะครับ
Flèche Wallonne แปลง่ายๆ ว่า The Wallonne Arrow – Wallonia เป็นแคว้นในประเทศเบลเยี่ยมซึ่งประชากรพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าเขาและเนินชันในเขตป่า Ardennes ซึ่งกินพื้นที่ไปถึงบางส่วนของฝรั่งเศสและลักแซมเบิร์ก ถ้าใครเรียนประวัติศาสตร์มาจะรู้ว่าบริเวณป่า Ardennes นั้นเป็นสนามรบของทหารในสมัยสงครามโลก โดยเฉพาะใน Battle of the Bulge ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันนี้เป็นเขตที่อุดมไปด้วยธาติเหล็กและถ่านหินครับ
เส้นทาง | The Route
ระยะทางวันนี้ปั่นกันแค่ 204 กิโลเมตร เริ่มจากเมือง Binche ไปจบที่เมือง Huy ซึ่งนักปั่นจะต้องขึ้นๆ ลงๆ เนินหลายลูกในเมืองนี้ โดยเฉพาะ Mur de Huy ที่ต้องขึ้นกันถึึงสามครั้ง (Mur แปลว่า “กำแพง ซึ่งเป็นคำเปรียบเทียบความชันของเนินพวกนี้ ราวกับปีนขึ้นกำแพง) ปรกติแล้วศึกนี้จะตัดสินกันที่เนิน Mur de Huy รอบสุดท้ายครับ ยากที่ breakaway จะหนีไปได้ เหมือนใน Amstel Gold เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทุกทีมรู้ดีว่าทางรอดเดียวที่จะเอาชนะการแข่งได้ก็คือพาหัวหน้าทีมไปให้ถึงตีนเนิน Mur de Huy แล้วปล่อยให้ตัวเต็งเขาซัดกันเอง
เมือง Huy เป็นเมืองเล็กๆ ติดกับแม่น้ำ Meuse เมือง Huy ถูกขนาบข้างโดยเนินชันหลายลูก เนิน Mur de Huy ที่เส้นชัยนั้นยาว 1300 เมตร และชันเฉลี่ย 9.3% ฟังดูง่ายใช่ไหมครับ… แต่ความชันเฉลี่ยไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด เพราะจุดที่ชันที่สุดชันกว่า 19-26%! ที่สำคัญทางขึ้นเส้นชัยนั้นแคบมาก ถ้าตัวเต็งของวันไม่สามารถขึ้นตีนเนินได้ก่อนคนอื่นก็หมดสิทธิคว้าแชมป์ทันที เนินชันๆ แบบนี้นักปั่นจะนิยมใช้เกียร์ 39×25-27 และผู้ชนะจะต้องเลือกผ่อนแรงในการปีนเนินให้สมดุลที่สุด ถ้าจัดเต็มตั้งแต่ปลายเนิน ขึ้นมาถึงยอดก็หมดก๊อกแน่นอน ถ้าขึ้นมากลางเนินแล้วแต่ไม่มีแรงทีบรอบสุดท้ายเพื่อไล่ตามคนอื่น ก็หมดสิทธิอีกเช่นกัน สองนาทีสุดท้ายของการแข็งจึงเป็นเวลาที่สำคัญมากเพราะนักปั่นต้องพยายามรักษาสมดุลอ๊อกซิเจนและไม่ออกแรงจนกรดแลคติคสะสมจนมากเกินไป (เดี๋ยวเป็นตะคริว/ หทดก๊อกเสียก่อน) ที่แน่ๆ เราจะได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดทรมานของผู้เข่าแข่งขันกันในนาทีสุดท้ายมากกว่าสนามอื่นๆ อย่างแน่นอนครับ
Km 76.5 – Côte de Naninne – 2.6 km climb to 3.7 %
Km 90.0 – Côte de Groynne – 2.0 km climb to 3.5 %
Km 108.5 – Mur de Huy – 1.3 km climb to 9.3 %
Km 127.5 – Côte d’Ereffe – 2.1 km climb to 5.9 %
Km 146.0 – Côte de Peu d’Eau – 2.7 km climb to 3.9 %
Km 151.0 – Côte de Bellaire – 1.0 km climb to 6.8 %
Km 158.5 – Côte de Bohisseau – 1.3 km climb to 7.6 %
Km 161.5 – Côte de Bousalle – 1.7 km climb to 4.9 %
Km 173.5 – Mur de Huy – 1.3 km climb to 9.3 %
Km 190.0 – Côte d’Amay – 1.5 km climb to 6.7 %
Km 196.5 – Côte de Villers-le-Bouillet – 1.2 km climb to 7.5 %
Km 205.0 – Mur de Huy – 1.3 km climb to 9.3 %
ผู้ท้าชิง | The Contenders
วันนี้เป็นนัดล้างตาสำหรับตัวเต็งทั้งหลายที่พลาดท่าให้ Roman Kreuziger สอยถ้วย Amstel Gold ไปนอนกอดที่บ้านเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว แน่นอนว่าสนามที่เนินเยอะๆ และชันๆ แบบนี้มีผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คน แชมป์เก่าปีที่แล้วคือ Joaquim Rodriguez ★★★★ หรือพี่โรดี้จากทีม Katusha แต่แกล้มใน Amstel Gold เข่ากระแทกไป ไม่รู้ว่าวันนี้จะไหวหรือเปล่า
รองลงมาคือ Philippe Gilbert ★★★★ (BMC) แชมป์โลกคนเก่งที่ถึงแม้จะคำนวนพลาดเล็กน้อยไล่จับ Kreuziger ไม่ทันแต่ก็เป็นคนเดียวที่โชว์ฟอร์มการระเบิดพลังขึ้นเนินได้แน่นอนที่สุดใน Amstel Gold ถ้าวันนี้ฟอร์มดีขึ้นก็มีสิทธิลุ้นครับ พูดถึงจิลแบร์แล้วก็จะลืม Alejandro Valverde ★★★★ เสียไม่ได้ เพราะเป็นนักปั่นไสตล์เดียวกัน และมีแรงปลายเท้าดีกว่าจิลแบร์ กับโรดี้เล็กน้อย สามคนนี้มีสิทธิลุ้นโพเดียมมากที่สุด ใครจะขึ้นอันดับหนึ่งก็ต้องรอดูกัน
ทีม Sky ก็หวังแก้เกมครับหลังจากที่ไม่มีผลงานในสนามคลาสสิคเลย ส่งแพะภูเขามาลุยกันครบๆ ทั้ง Sergio Henao ★★★ Richie Porte ★★★ Riguberto Uran ★★★ แถมด้วยหัวลากแรงช้างสารอย่าง Vasil Kiryienka และ Salvatore Puccio Sky ไม่เคยชนะรายการแบบนี้มาก่อน ต้องดูว่าแรงปีนเขาของหนุ่มโคลัมเบียทั้งสองคนและ Richie Porte เองจะไหวหรือเปล่า
ทีมอื่นๆ ก็มีม้ามืดมากันพอสมคววรไม่ว่าจะเป็น Carols Betancur ★★ ของ AG2R และ Nairo Quintana ★★ (Movistar) ที่ซัดกันไปแล้วหนึ่งยกในศึก Tour of the Basque Country ในขณะที่ Saxo-Tinkoff มี Alberto Contador ★★★ ที่โดนเรียกตัวมาแข่งกระทันหันเพราะผลงานที่ผ่านมาไม่ค่อยดีเท่าไรครับ GreenEdge ส่ง Simon Gerrans ★★★ มาท้าชิงและ Cannondale จัด Peter Sagan ★★★ มาปิดฤดูกาลคลาสสิคก่อนที่น้องแกจะพักยาว Garmin ก็มี Dan Martin ★★ที่โชว์ผลงานดีมาตลอดตั้งแต่เริ่มฤดูกาล ส่วน Euskatel ส่ง Igor Anton ★★ นักไต่เขาแรงดีมาร่วมแจม
ถ่ายทอดสดและบรรยายสด
วันนี้มีการแข่งสองรายการครับ หนึ่งคือ Giro Del Trentino รายการเสตจเรซสำหรับนักไต่เขา เริ่มตั้งแต่ 17:30 ตามด้วย Flech Wallone ตอนสองทุ่มตรง มีจักรยานแข่งให้ดูกันทั้งเย็นเลยทีเดียว สามารถรับชมถ่ายทอดสดผ่านอินเตอร์เน็ตได้ที่ลิงก์ข้างล่างครับ
วันนี้ Ducking Tiger จะมี Liveblog เหมือนเคย คงเริ่มบรรยายตั้งแต่สองทุ่มเป็นต้นไปครับ แล้วแวะมาชมกัน :)
Video Highlight 2012
[/vc_column_text] [/vc_column] [/vc_row] [vc_row el_position=”last”] [vc_column] [vc_button title=”ลิงก์ถ่ายทอดสด” href=”http://www.sportlemon.tv/c-9.html” color=”btn-success” size=”wpb_regularsize” icon=”none” target=”_self” el_position=”first”] [vc_separator el_position=”last”] [/vc_column] [/vc_row]