Gamin หวังเจาะกลุ่มนักปั่นที่ชื่นชอบการบันทึกภาพ หวังตีตลาดกล้อง Go Pro และ Contour ด้วย Garmin Virb และ Garmin Virb Elite กล้องวิดีโอพกพาสุดไฮเทคและถึกทน ถ่ายภาพความละเอียด Full HD กันน้ำกันกระเทือน มีทั้ง GPS, WIFI, และเซนเซอร์วัดความเร็วและความสูง…
กล้องทั้งสองตัวมีฟีเจอร์เด่นๆ ร่วมกันคือมีระบบ Image stabilisation ลดการสะเทือนเวลาถ่ายภาพ ความละเอียดสูง 16 Megapixel, ถ่ายภาพได้สามโหมดทั้ง Wide, Medium และ Narrow พร้อมระบบ lens distortion correction ช่วยแก้ปัญหาภาพโค้งคล้ายการถ่ายด้วยเลนส์ Fish Eye
Garmin VIRB
Garmin VIRB เป็นกล้องรุ่นประหยัด ไม่มีฟีเจอร์เด่นๆ อย่าง Accelerometer และ Wifi + GPS ใน Virb Elite น้ำหนักตัว 177 กรัม บันทึกภาพได้นานราวสามชั่วโมงต่อแบตเตอรี่หนึ่งก้อนซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ รองรับ MicroSD Card สำหรับหน่วยความจำความจุ 64Gb จะบันทึกวิดีโอได้ราวๆ 7 ชั่วโมง
- 1080p HD video recording with 16 megapixel CMOS image processor
- Chroma™ display: color, high-resolution; easier control of setup, playback and adjustments
- Long-lasting rechargeable lithium-ion battery, record up to 3 hours at 1080p
- Rugged, durable, waterproof (IPX7¹) with an aerodynamic design
Garmin Virb Elite
ส่วนกล้องตัวท๊อป Virb Elite มีฟีเจอร์เด่นๆ เยอะกว่า มีทั้ง Accelerometer เซนเซอร์วัดความเร็ว, Altimeter เซนเซอร์วัดระดับความสูง, WiFi, และ GPS ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลเหล่านี้ลงไปในวิดีโอได้ด้วย นอกจากนี้ยังรองรับ protocol ANT+ ซึ่งผู้ใช้ Smartphone อย่าง iPhone และ Android สามารถบังคับกล้องผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วย พิเศษกว่านั้นสำหรับผู้ใช้ Garmin 810 สามารถใช้ตัวคอมพิวเตอร์บังคับกล้องในกรณีที่เรายึดกล้องไว้บนหมวกจักรยานครับ
กล้อง Virb ทั้งสองรุ่นกันน้ำและจมน้ำได้นานกว่า 30 นาที
- 1080p HD video recording with 16 megapixel CMOS image processor
- Chroma™ display: color, high-resolution; easier control of setup, playback and adjustments
- High-sensitivity GPS, accelerometer and barometric altimeter
- Wi-Fi connectivity; use with free mobile applications for iPhone® and Android™
- Rechargeable, 2000 mAh lithium-ion battery, record up to 3 hours at 1080p
ราคา Garmin Virb อยู่ที่ 299 USD ส่วน Virb Elite อยู่ที่ 399 USD วางขายที่อเมริกาเดือนกันยายนนี้ ข้อมูลเพื่มเติมที่เว็บ Garmin ครับ
