วิเคราะห์ E3: โฉมใหม่ของทีม Sky?

[dropcap letter=”เ”]มื่อคืนนี้เกอเรนท์ โทมัส เอซสนามคลาสสิควัย 28 ปีจากทีม Sky ขึ้นครองแชมป์รายการ E3 Prijs Harelbeke — หนึ่งในสนามคลาสสิคระดับ WorldTour ที่ขึ้นชื่อว่าโหดหินที่สุดรายการหนึ่ง และเป็นชัยชนะสนามคลาสสิครายการแรกของเขา

ที่ 4 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย โทมัสออกชิงหนีกลุ่มเบรคอเวย์ ที่มีปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff-Saxo) แชมป์เก่าปีที่แล้วและชเน็ค สตีบาร์ ตัวเต็งจาก Etixx-Quickstep ด้วยความที่โทมัสไม่ใช่สปรินเตอร์ ทางออกเดียวที่จะชนะทั้งคู่ โดยเฉพาะซากาน คือการหนีให้รอด และเขาก็ทำได้สำเร็จ เมื่อทั้งสตีบาร์ และซากานไม่มีคำตอบให้กับการโจมตีของอดีตแชมป์เหรียญทองโอลิมปิก Team Pursuit

โทมัส ปั่น 4 กิโลเมตรสุดท้ายด้วยความเร็ว 49.46 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สตีบาร์ทำได้เพียงอันดับสอง ในขณะที่ซากานโดนกลุ่มรวบกลืนหายไป แมทเทโอ เทรนทิน อีกหนึ่งเอซจาก Quickstep สปรินต์เฉือนอเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha) คว้าอันดับสาม

E3: The Classic’s classic

2015 e3  (6 of 7)

สนาม E3 เมื่อคืนนี้แข่งกันได้สมฉายาสนามคลาสสิค เพราะตลอดการแข่งขันมีทั้งกลยุทธ์ชิงตำแหน่งของตัวเต็ง มีเบรคอเวย์ที่หวังลุ้นโชค และอุบัติเหตที่ตัดความหวังตัวเต็งของรายการหลายต่อหลายคน

ต่างกับ Milan-San Remo ที่สภาพอากาศย่ำแย่ เบลเยี่ยมลานประลองสนาม E3 เมื่อวานนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง นั่นหมายความว่ากลุ่มปั่นกันด้วยความเร็ซสูง ประกอบกับเส้นทางสุดแคบและช่วงถนนหินวิบากที่โปรแข่งกันแบบเต็มเหนี่ยว ผลลัพธ์คือการล้มบาดเจ็บหลายต่อหลายครั้งในช่วง 100 กิโลเมตรแรก เฟเบียน แคนเชอลารา (Trek) คือผู้เสียหายรายใหญ่ เมื่อเขาล้มในกลุ่มจนกระดูกสันหลังร้าวต้องถอนตัวจากการแข่งขัน และคงมาแข่งต่อไม่ได้อีกหลายเดือน

ถึงระยะ 50 กิโลเมตรสุดท้าย ทีมตัวเต็งเริ่มออกทำงานไล่จับกลุ่มหนี BMC, Tinkoff-Saxo, Etixx-Quickstep เร่งความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเนิน Paterberg จุดยุทศาสตร์สำคัญของสนาม เซ็บ ฟานมาร์ค (LottoNL) ออกโจมตีกลุ่ม แต่ก็ไปไม่รอดเมื่อรองเท้าปั่นเขามีปัญหา ต้องปลดรองเท้า ถัดมาไม่กี่กิโลเมตร peloton เร่ง ขึ้นเนิน Oude Kwaremont ที่มีความชันเฉลี่ย 9% และกลายเป็นลานสังหารที่โทมัส ออกโจมตีกลุ่ม peloton, สตีบาร์วิ่งขึ้นประกบ ซากานเป็นคนสุดท้ายที่ไล่ตามเอซ Sky ทัน

The Perfect Breakaway

2015 e3  (7 of 7)

แทบทุกปี แชมป์ E3 มักจะมาจากกลุ่มเบรคอเวย์ที่ออกกระชาก peloton บนเนินสำคัญ E3 ไม่ใช่สนามที่เอื้อให้สปรินเตอร์ ด้วยเส้นทางที่แคบ บวกกับเนินชันในบางช่วง หมายความว่าทีมสปรินเตอร์ออกไล่จับกลุ่มหนีได้ยาก ยิ่งมีคนน้อยในกลุ่มยิ่งหนีง่าย และก็เป็นเช่นนั้นครับ เมื่อซากาน สตีบาร์ และโทมัสทำงานร่วมกัน (ชั่วคราว) ได้ราวกับแข่ง Team Time Trial

ด้านหลัง แน่ชัดว่าตัวเต็งอีกหลายคนเดือดร้อน คริสทอฟ (Katusha), เดเกนโคลบ์ (Giant), แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC) และฟานมาร์ค (LottoNL) พลาดเบรคอเวย์ครั้งสำคัญ กลุ่มเกี่ยงกันเล็กน้อยว่าใครจะนำ แต่เป็น BMC และ Katusha ที่พยายามจะพลิกสถานการณ์ ขณะเดียวกัน กลุ่มของโทมัสหนีได้ราว 40 วินาที กับระยะทาง 25 กิโลเมตรสุดท้าย

กฏของการแข่งขันจักรยานที่เราใช้อ้างอิงได้เสมอก็คือ กลุ่มหนีที่สามัคคีกันมีโอกาสหนีรอดกลุ่มใหญ่ที่เกี่ยงกันเสมอ

และก็เป็นเช่นนั้นเมื่อทีม Lotto ของฟานมาร์ค ไม่ช่วยไล่เพราะเอซของทีมมัวแก้ปัญหารองเท้า (เปลี่ยนรองเท้าบนจักรยานระหว่างแข่ง O_O) ที่ซวยกว่านั้นคือ แวน เอเวอร์มาร์ทที่ล้มในจังหวะถนนแคบ ลอยข้ามแฮนด์ลงกระแทกพื้น BMC หยุดไล่ทันที จนกลุ่มหนีระยะห่างเพิ่มเป็น 50 วินาที และตรงนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมครับ เพราะเมื่อ BMC ไม่ไล่ ก็เหลือเพียง Katusha ที่ยังอยากจะรวบจับสามคนด้านหน้า แต่ถ้าคุณมองว่าเกมนี้เหมือนแมวจับหนู อย่าลืมว่าทีมหนูก็มีลูกเล่นเหมือนกัน เพราะเมื่อ Katusha และ BMC หวังให้ทีมอื่นช่วย Sky, และ Quickstep ได้แต่มองหน้าและฟรีขาเบาๆ ตั้งใจชะลอความเร็วกลุ่มไล่ให้จับเอซของตัวเองไม่ทัน ถึง 10 กิโลเมตรสุดท้าย กลุ่มไล่เข้าใจกันว่ายังไงวันนี้ก็คงทำได้แค่อันดับ 4… ราวกับรู้ใจ ทีมงานถ่ายทอดสดตัดกล้องไปที่เบรคอเวย์ทั้งสามคนของเราจนจบรายการ

The Final

จะบอกว่ากลุ่มหน้าหนีกันง่ายๆ ก็ไม่ใช่ ถ้ากลุ่มไล่ไม่มีปัญหา ก็ยากที่จะหนีได้ขาด โทมัส, สตีบาร์, ซากาน เราปฏิเสธไม่ได้ครับว่าโชคมีผลกับการแข่งสนามคลาสสิคมาก เพราะคุณมีโอกาสแค่ครั้งเดียว (แข่งวันเดียวจบ แก้มือเหมือนสเตตจเรซไม่ได้) ถ้ากลุ่มไล่ไม่เกิดอุบัติเหต ทั้งสามก็มีโอกาสจะหนีไม่รอด ว่ากันตามตรงแล้วทั้งสามคนช่วยกันทำงานได้ดีมาก แต่ก็เหมือนจะรู้อยู่แก่ใจว่า หนึ่งในนี้ต้องมีคนหนีแน่ๆ

ซากานคือแชมป์เก่า และเป็นสปรินเตอร์เท้าไวที่ไม่มีใครอยากพาไปเข้าเส้นชัยด้วย

สตีบาร์เองก็รอบด้าน แข็งแกร่ง ขึ้นเนินได้ไว สปรินต์ได้ดี

เหลือแค่โทมัส อดีตเอซสนามลู่ ที่ท่าไม้ตายคือการปั่นแช่ความเร็วสูงในระยะทางไกลๆ

เดาไม่ยากว่าใครจะเปิดเกมก่อน โทมัสอาศัยช่วง 4 กิโลเมตรสุดท้าย ซึ่งเป็น “ระยะทำการ” ของนักปั่นทีม เปอร์ซูต์ ออกหนีกลุ่ม อาศัยจังหวะที่สตีบาร์ผลัดลงไปหลบลมหลังซากาน และเมื่อซากานไม่ออกไล่ ความหวังแชมป์รายการของสตีบาร์ก็จบลงทันที เพราะเขาอยู่ตามล้อซากานร่วม 10 วินาทีก่อนที่จะพยายามออกจับโทมัส ซึ่งก็สายเกินไป

ชมวิดีโอไฮไลท์ 10 กิโลเมตรสุดท้ายได้ข้างล่างนี้ครับ

What’s next for Sky?

รวมๆ แล้ว E3 เป็นสนามที่สนุกมากครับ ดราม่าส่วนใหญ่มาจากอุบัติเหตเสียมากกว่า การหลบหนีของโทมัส-สตีบาร์-ซากาน เป็นจังหวะสำคัญ แต่เกมการแข่งขันของกลุ่มไล่ก็มีผลต่อชัยชนะของโทมัสเช่นกัน ถ้า GVA ไม่ล้มคว่ำ และฟานมาร์ครองเท้าไม่มีปัญหา ผลอาจจะออกมาอีกแบบก็เป็นได้

ทีม Sky เปลี่ยนภาพลักษณ์ จากทีมที่ดูจะยังไม่สุกงอมกับสนามแข่งคลาสสิค พยายามหากลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ แต่ก็พ่ายทุกปี กลายมาเป็นทีมที่น่ากลัวครับ ที่ผ่านมาทีมโฟกัสที่การแข่งแกรนด์ทัวร์เพียงอย่างเดียว และทีมที่จะชนะทั้งสนามคลาสสิคและแกรนด์ทัวร์ต้องใช้นักปั่นตัวเต็งและทีมโดเมสติกที่มีความถนัดคนละแบบ ถ้าเลือกจะชนะประเภทหนึ่งก็ต้องเสียสละอีกประเภทหนึ่ง (ลองดู Etixx-Quickstep หรือ Trek ที่เด่นในคลาสสิค แต่ก็ยังขาดผลงานในแกรนด์ทัวร์)

ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่า เป็นอีกครั้งหรือเปล่าที่ Sky ได้เปลี่ยนแนวคิดวงการการแข่งขันอาชีพ มีผลงานต่อเนื่องในสเตจเรซ แต่ก็มีนักปั่นที่เจ๋งพอจะเก็บแชมป์รายการคลาสสิคด้วย โทมัสไม่ใช่ดาวที่ดังเป็นพลุแตกเหมือนซากาน แต่เขาเป็นเด็กปั้นของ Sky ที่ทีมค่อยๆ ปั้นมาเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเก่งทุกอย่าง ทั้งเป็นโดเมสติกไต่เขา ปั่น Time Trial ปั่นลู่ก็ได้เหรียญโอลิมปิก ล่าสุดได้แชมป์สเตจเรซ Volta ao Algarve เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา จนครั้งนี้ ชนะคลาสสิครายการใหญ่จริงๆ คนที่เก่งรอบด้านแบบนี้น้อยที่จะมีผลงานสนามใหญ่ เพราะโดยมากทีมจะจับเป็นโดเมสติกเสียมากกว่า

PIC526575486

 

คุณอาจจะคิดว่า BMC ก็มีนี่ มีทั้งทีเจย์ จิลแลร์ และแวนเอเวอร์มาร์ท แต่ถามว่า มีใครชนะรายการใหญ่จริงๆ ระดับ แกรนด์ทัวร์ หรือสนามคลาสสิคตัวท๊อปในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาบ้าง? สิ่งที่ทำให้ Sky ต่างกับทีมอื่นๆ ที่อาจจะมีตัวเต็งทั้งสองประเภทสนามก็คือ Sky มีผลงานคงเส้นคงวาครับ

จะยังไงก็ดี ต้องดูผลงานทีม Sky อีกครั้งในวัน D-Day ของจริง ซึ่งก็คือ Tour of Flanders และ Paris-Roubaix ครับ โดยเฉพาะ Flanders ที่โทมัสและสแตนนาร์ดจะได้นำทีมร่วมกัน E3 ว่าใหญ่แล้ว แต่คุณจะขึ้นชื่อว่าเป็นเอซคลาสสิคไม่ได้ถ้ายังไม่ชนะ Flanders หรือ Roubaix

สำหรับ Quickstep คงต้องกลับไปคิดงานกันใหม่ ตอนนี้ทีมไม่มีทอม โบเน็น (บาดเจ็บ) แต่มีเอซมาแทนได้หลายคน — สตีบาร์, เทิร์ปสตรา, แวนเดนเบิร์ก, เมียร์สแมน และโดเมสติกตัวจี๊ดที่คุมเกมได้อยู่หมัดแทบทุกสนาม แต่อย่างที่เราเห็นใน Omloop มีคนเยอะใช่ว่าจะชนะ ก็ต้องดูกันว่าทีมจะทำยังไง

GVA ยังไม่เจ็บมากและน่าจะแข่ง Flanders ต่อได้ ปีนี้ BMC ก็คุมเกมคลาสสิคได้ดีครับ อยู่ในที่ๆ ควรอยู่ ลากในจังหวะที่ควรลาก

ฟานมาร์คก็แรง แต่เสียเปรียบเพราะทีมและตัวช่วยยังไม่ถึงขั้น และสุดท้ายจะไม่พูดถึงซากานก็ไม่ได้ เพราะตั้งแต่ย้ายทีมมาจะดูยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เมื่อวานนี้แกหมดจริงๆ เข้าเส้นชัยแบบคอตกกันเลยทีเดียว แต่นั่นหละครับ อายุยังน้อย โอกาสยังมี โดยเฉพาะวันอาทิตย์นี้ที่ Ghent-Wevelgem อีกหนึ่งสนามคลาสสิคที่อาจจะเอื้อสปรินเตอร์มากกว่า Strongman

สนามคลาสสิคที่ไม่มีโบเน็นและเฟเบียน…หลายคนบอกว่าน่าเบื่อ แต่ผมว่าไม่เลย ได้ดูหน้าใหม่ขึ้นมาซัดกันบ้างก็สนุกดี สองคนนั้นเขาหวดผลัดนำกันมาจะเป็นสิบปีแล้วนะ ☺ มีตัวเต็งหน้าใหม่เยอะๆ แบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบครับ ☺

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *