Giro สเตจ 3: Quickstep ล้มโต๊ะ

เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 3?

อีกหนึ่งสเตจที่ไม่ได้จบตามบท จากที่เป็นสเตจทางราบคาดหวังว่าจะปิดเกมด้วยการสปินต์กลุ่ม ทีม Quickstep-Floors ก็เล่นเกมเบรคอเวย์ที่ 10 กิโลเมตรสุดท้าย ฉีกกลุ่มเปโลตองขาดวิ่นอาศัยช่วงที่ลมเปลี่ยนทิศ จัดฟอร์มกลุ่มหนีร่วมสิบคน ส่งเฟอร์นันโด กาวิเรียขึ้นท้าชิงสปรินต์และคว้าแชมป์สเตจได้สำเร็จพร้อมครองเสื้อผู้นำเวลารวม

สเตจ 3 จาก Tortoli ไปจบที่เมือง Cagliari เป็นวันที่เร็วเป็นพิเศษเพราะนักปั่นมีลมส่งช่วยตลอดเส้นทาง แต่เมื่อเข้าสู่ขอบชายฝั่งเกาะซาร์ดิเนีย ลมก็เริ่มเปลี่ยนทิศเป็นลมส่งเฉียง ก่อนที่จะเป็นลมตีข้างที่ช่วงสิบกิโลเมตรสุดท้าย

เป็นบ็อบ ยุงเกลส์ (Quickstep Floors) ที่ส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีม Quickstep รีบขึ้นหน้ากลุ่มเพื่อเตรียมแปรรูปขบวน เตรียมรับกระแสลมข้างจากทางขวา Quickstep ขึ้นเร่งความเร็วโดยใช้ลูกทีมทั้งหมด 6 คน แต่คู่แข่งตาไว นาธาน ฮาส (Dimension Data), รูดิเกอร์ เซลิก (Bora-Hansgrohe), จิอาโคโม่ นิซโซโล่ (Trek-Segafredo) และคานสแตนติน ซิทซอฟ (Bahrain-Merida) เกาะมาด้วย ช่วงแรกมีอังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal) วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain) และเกอเรนท์ โทมัส (Sky) ที่พ่วงท้ายกลุ่มมาทัน แต่ก็หลุดกลุ่มไปในที่สุด

เมื่อกลุ่มหน้าเริ่มนำกลุ่มหลังได้เยอะ Quickstep จัดรูปขบวนเกาะกลางถนน บังคับให้นักปั่นหลังกลุ่มโดนลมปะทะเต็มๆ ไม่นานนักเปโลตองก็ถูกตัดขาดและชัดเจนว่าแชมป์สเตจวันนี้จะมาจากกลุ่มหนีด้านหน้า

นาธาน ฮาส เปิดเกมหนีก่อนที่ 400 เมตรสุดท้าย แต่แม็กซิมิโล่ ริเคเซ่ (Quickstep Floors) ไล่ขึ้นประกบทันที เปิดโอกาสให้กาวิเรียฉีกออกสปรินต์จากทางซ้ายของกลุ่ม เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ก่อนหน้าเซลิกและนิซโซโล่ คว้าแชมป์สเตจและเสื้อผู้นำเวลารวมไปครอง

คาเล็ย ยวน (Orica-Scott) สปรินต์นำกลุ่มสองเข้าเส้นชัยแต่ก็เข้าหลังแชมป์สเตจไปถึง 13 วินาที มาพร้อมๆ กับตัวเต็ง GC คนอื่นๆ ทุกคน ยกเว้นโรฮาน เดนนิส (BMC) ที่จักรานมีปัญหาและต้องเสียเวลาไป 5:22 นาทีจนไม่น่าจะมีโอกาสขึ้นท้าชิงอันดับเวลารวมอีกแล้ว

 

ผลการแข่งขัน

DT วิเคราะห์

กาวิเรียมาแน่ๆ

ชัยชนะครั้งนี้ของกาวิเรีย เป็นแชมป์สเตจในแกรนด์ทัวร์ครั้งแรกของเขา น่าเหลือเชื่อเมื่อเขาอายุได้เพียง 22 ปีเท่านั้น ซ้ำยังได้เสื้อผู้นำเวลารวม ว่ากันแล้วก็เป็นชาวโคลอมเบียคนที่สี่ในโลกเท่านั้นที่เคยได้ใส่เสื้อผู้นำใน Giro d’Italia (คนอื่นมี เอสเตบาน ชาเวซ จาก Orica, ไนโร คินทานา จาก Movistar, และริกโอเบอร์โต้ อูราน จาก Cannondale)

ดูจากชั้นเชิงการขี่ของกาวิเรียแล้วผมว่าสไตล์การแข่งเขาดูรอบด้านทีเดียวครับ มีทั้งความเร็ว ความอึด (จะตามกลุ่มในจังหวะเจอลมข้างนั้นไม่ง่ายถึงจะมีเพื่อนช่วยก็ตาม ไกรเปิลยังตามไม่ได้)​ และในมิลาน ซานเรโม เมื่อปีก่อนที่เขาพลาดล้มหน้าเส้นชัย คู่แข่งคนอื่นถึงกับบอกว่า “เราเตรียมสปรินต์เข้าที่สอง ยังไงก็ไม่ทันกาวิเรีย”

ชัยชนะครั้งนี้น่าจะเป็นตัวกระตุ้นความมั่นใจให้เขาเป็นอย่างดี โค้ชของทีม Quickstep บอกว่ากาวิเรียนั้นอึดและเร็วกว่าคาเวนดิช อนาคตน่าจับตามองครับ อย่าลืมว่าเขาได้แชมป์สเตจ Giro ครั้งแรกในเวลาแค่ 3 วันหลังจากเริ่มลงแข่ง ในขณะที่นิซโซโล่พยายามมา 4 ปีแล้ว แต่ยังทำไม่ได้

 

ระวังบ็อบ ยุงเกลส์

นอกจากเพื่อนร่วมทีมจะได้แชมป์สเตจแล้ว บ็อบ ยุงเกลส์ ยังได้เวลารวมนำคู่แข่ง GC คนอื่นๆ ด้วย หลายคนอาจจะไม่เห็นว่าเขาเป็นตัวเต็ง GC แต่อย่าลืมว่าเขาเคยจบ Giro ด้วยอันดับ 6 overall เมื่อปีที่แล้วนี่เองครับ จากเด็กที่โตมาจากทีม Trek Development Team จนกลายเป็นแชมป์เสือหมอบลักแซมเบิร์กและหนึ่งในม้ามืดที่มีผลงานดีในหลายรายการสเตจเรซ​ ไต่เขาโอเค Time Trial ก็ดี หรือปีนี้จะเป็นปี breakthrough ของยุงเกลส์? สเตจ 4 ที่จบบนยอดเขาสูงชันน่าจะบอกอะไรเราได้เยอะทีเดียว

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *