รีวิว Giro d’Italia Week 1: เดือดยิ่งกว่าเดือด

[dropcap letter=”ถ้”]าจะให้สรุป Giro d’Italia สัปดาห์แรกในรูปๆ เดียว รูปข้างบนนี้น่าจะเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดครับ ฟาบิโอ้ อารู ดาวรุ่งไฟแรงและหัวหน้าทีม Astana กำลังออกสปรินต์ที่หน้าเส้นชัยในสเตจ 9 ด้านหลังคือผู้นำเวลารวมคนปัจจุบัน อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Tinkoff-Sax) และ คนสุดท้ายที่เราเห็นแค่เสี้ยวหมวก Kask สีน้ำเงินใบนั้นคือ ริชีย์ พอร์ท หัวหน้าทีม Sky

ภาพนี้สะท้อนอารมณ์การแข่งสัปดาห์แรกได้ทั้งหมด ฟาบิโอ้ อารูคือนักปั่นที่เกรี้ยวกราดที่สุด สั่งทีม Astana ออกรุกทุกสเตจ แม้แต่สเตจที่ไม่ใช่สเตจภูเขาทีมยังเดินเกมหนัก คอนทาดอร์ด้านหลังสีหน้าเหนื่อยหอบ กับภาระผู้นำเวลารวมที่ทีมต้องรับผิดชอบป้องกันตลอดเวลา และริชีย์ พอร์ทที่เราเห็นแค่หมวกนั้นก็เหมือนกับทีม Sky ที่แทบจะไม่มีบทบาท ดูเหมือนจะรอนั่งดูรายใหญ่ต่อยกันจนอ่วมแล้วรอเก็บกวาดในสัปดาห์หลัง

จะอย่างไรก็ดี สัปดาห์ opening Giro ปีนี้ต้องบอกว่าเดือดยิ่งกว่าเดือด ผิดธรรมเนียมแกรนด์ทัวร์ที่ปกติสัปดาห์แรกกลุ่มตัวเต็งจะยังไม่รีบร้อนรุกหนัก เลือกออมแรงไว้ไต่เขาชันในสัปดาห์หลัง สำหรับผู้ชมแล้วมันเป็นการแข่งที่ตื่นตาตื่นใจครับ เราเรียนรู้อะไรจากสัปดาห์แรกบ้าง? มาดูกันทีละด้านเลยดีกว่า

***

1. ตัดตัวตั้งแต่สัปดาห์แรก

  • ธีมหลักของสัปดาห์แรกคงจะไม่พ้นการฟาดฟันกันของ Astana และ Tinkoff เมื่อทั้งสองทีมพยายามตั้งตัวเป็นผู้คุมกฏ รุกหนักทั้งส่งเบรคอเวย์ ทั้งคุมว่าใครจะอยู่ในกลุ่มหนี และเป็นสองทีมที่ตั้งความเร็วในสเตจภูเขาทั้งหมด สิ่งที่เราเห็นคือทีม Astana ดูจะเกรี้ยวกราดกว่ามาก ออกโจมตีหลายครั้ง ทั้งหัวหน้าทีมเองและลูกทีม
  • กลับกัน Tinkoff ทำได้แค่คุมสถานการณ์ เพราะต้องทำหน้าที่ทีมที่นำเวลารวมอยู่ด้วย และลูกทีมส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า Astana คำถามคือทั้งสองทีมยังจะปั่นหนักแบบนี้ได้ถึงสัปดาห์ที่สามหรือเปล่า?

  • ชัดเจนว่า Tinkoff เดิมพันทุกอย่างกับคอนทาดอร์ ในสเตจ 5 โรมัน ครอยซิเกอร์ มีโอกาสที่จะทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่ง Tinkoff แต่ทีมไม่ยอมให้ลูกทีมตัวเองหนี เร่งเครื่องไล่จับกลุ่มเบรคอเวย์ ซึ่งแน่นอนว่าตัดแรง Astana และ Sky แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการไล่จับครอยซิเกอร์ด้วย เมื่อเทียบกับ Astana ที่ยอมให้มิเคล แลนด้าหนีกลุ่มทำเวลาตีตื้น GC ขึ้นมาในสเตจ 8 แล้ว แผนของ Astana ดูจะรัดกุมกว่าพอสมควร เพราะมีไพ่ GC ให้เล่นได้หลายใบ
  • อีกมุมหนึ่งที่น่าคิดคือ อารูและ Astana ที่ปั่นกันหนักนั้นจริงๆ แล้วอยากสลัดคอนทาดอร์กับพอร์ท หรือตัดความเสี่ยงอย่างริกโอเบอร์โต้ อูรานออก? อูรานมีสิทธิที่จะไล่คืนสองนาทีที่เขาเสียไปในสเตจ Time Trial เพราะเขาปั่นจับเวลาได้ดีกว่าอารูพอสมควรครับ

 

2. แล้วตัวเต็งเป็นยังไงบ้าง?

อารู-พอร์ท-คอนทาดอร์ มีเวลาห่างกัน 22 วินาที (คอนทาดอร์นำอารู +2 วินาที และนำพอร์ท +22 วินาที) โพเดี้ยมรายการอาจจะจบด้วยสามคนนี้ ถึงเวลาจะห่างกันไม่มากแม้จะซัดกันหนัก แต่ผลลัพธ์คือทั้งสามคนกำจัดเสี้ยนหนาม GC ได้จนหมด ตัวเต็งคู่แข่งตอนนี้ตามพวกเขาในหลักนาที อูรานตาม +2:10 นาที จิโอวานนี่ วิสคอนตี้ (Movistar) ตาม +2:02 นาที ดามิอาโน่ คารูโซ​ (BMC) ตาม 2:20 นาที เมื่อดูสเตจเขาที่เหลือแล้ว ยากมากที่จะสู้ได้

  • Alberto Contador: ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าอาการไหล่หลุดของคอนทาดอร์นั้นเป็นแต่ ‘Partial Dislocation’ ไม่ใช่ไหล่หลุดแบบเต็มๆ ที่ต้องดันหัวไหล่กลับเข้าเบ้ากระดูก ซึ่งก็อธิบายได้ว่าทำไมเขาดูไม่ได้อาการแย่อย่างที่คิด ลูกทีม Tinkoff บ่นอยากให้คอนทาดอร์เสียเสื้อไปสักสองสามวัน ทีมจะได้ไม่ต้องคุม peloton ตลอด ซึ่งเหนื่อยและเปลืองแรง แต่คอนทาดอร์ดูจะไม่ยอมครับ
  • Richie Porte: อาจจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด ทีม Sky ตั้งใจไม่รวมวงตะลุมบอนกับ Astana และ Tinkoff และเลือกเก็บแรงไว้ใช้สัปดาห์ 2/3 เขารับการโจมตีของคอนทาดอร์และอารูได้หมด และไม่ค่อยจะให้สัมภาษณ์สื่อด้วย เห็นเงียบๆ แบบนี้อาจจะกินเรียบก็ได้…
  • Fabio Aru: ปั่นเดือดสมกับที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาตัวเต็ง อารูเป็นคนที่โจมตีเยอะที่สุดในรายการนี้ก็ว่าได้ครับ นอกจากจะได้ใจแม่ยกอิตาลีแล้วยังแสดงถึงความทะเยอทะยานของเขาด้วย
  • Rigoberto Uran: คนที่น่าจะเครียดที่สุดตอนนี้ ในสเตจ Time Trial เขามีโอกาสไล่ทวงคืนสองนาทีที่เสียให้อารู แต่อาจจะลำบากเมื่อต้องขึ้นเขา เพราะ EQS ไม่มีนักไต่เขามาช่วยเลย โดเมสติกคนสำคัญ ปีเตอร์ เซอร์รีย์ก็ถอนตัวไปตั้งแต่สเตจสองเพราะอุบัติเหตุ อูรานอาจจะหวังอันดับสามได้ แต่ยากแน่นอน

 

3. The Winner and The Losers

  • Orica-GreenEdge กลับบ้านได้อย่างมีความสุขถึงต่อจากนี้ทีมจะไม่ชนะอะไรเลย เพราะนอกจากจะได้แชมป์สเตจมาสองครั้งแล้วยังถือเสื้อชมพูถึง 4 วัน เวียนให้นักปั่นใส่กันเกือบครึ่งทีม
  • เช่นเดียวกับ Lampre-Merida ที่ได้แชมป์สองสเตจ โชว์ผลงานดาวรุ่ง แยน โพลแลงค์ และคอนเฟิร์มความสามารถของดีเอโก้ อูลิซซี่ ในสนามถิ่นตัวเอง (Lampre เป็นทีมอิตาลีทีมเดียวในดิวิชัน 1)
  • Cannonondale-Garmin อาจจะพึ่งไรเดอร์ เฮซเชดาลไม่ได้ แต่ก็ยังมีผลงานกลับบ้านเมื่อดาวิเด้ ฟอร์โมโล่ที่ชนะสเตจ 4 โซโล่เดี่ยวหนีตายทีมตัวเต็งได้แบบไม่น่าเชื่อ
Lampre ไม่ใช่ทีมที่ชนะบ่อย ผมว่าทีมนี้ยังคงบริหารแบบ “เก่า” อยู่ คือยังเป็นทีมแบบอิตาเลียนจริงๆ เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา การฝึกซ้อมอาจจะยังไม่ทันสมัยเท่าทีมอย่าง Sky และ Tinkoff แต่กระนั้นก็ยังมีผลงานให้เราเห็นในแกรนด์ทัวร์ทุกปีครับ น่าเสียดายว่า 10 ปีที่ผ่านมาฝากความหวังไว้กับดามิอาโน คูเนโก้มากไปหน่อย ได้แชมป์ Giro มาหนึ่งครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เแตะโพเดี้ยมแกรนด์ทัวร์อีกเลย Lampre เป็นหนึ่งในทีมที่สปอนเซอร์ทีมเก่าแก่ที่สุด Lampre ซัพพอร์ททีมนี้มาแล้ว 24 ปีเต็ม
  • Lotto-Soudal เองก็คงพอใจกับแชมป์สเตจของอังเดร ไกรเปิล ถึงจะเฟดไปบ้างแต่เจ้ากอริลล่านี่น่าทึ่งครับ เขาได้แชมป์สเตจอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุกแกรนด์ทัวร์ที่เขาลงแข่งตั้งแต่ปี 2008
  • AG2R เสียพอซโซวิโว่ไปตั้งแต่สเตจแรก และคาร์ลอส เบทันเคอร์ดูจะพยายามแก้มือให้ทีมด้วยการเบรคอเวย์ แต่ฟอร์มยังดูไม่ดีพอจะทำได้ครับ เขาโดนนักปั่นโนเนมแซงหน้าในสเตจ 8 แบบสบายๆ และคงพึ่งไม่ได้ในสเตจ Time Trial อย่างไรก็ดี สัปดาห์หลังๆ เขาอาจจะฟอร์มดีขึ้นเล็กน้อย แชมป์สเตจยังพอมีหวัง
  • Movistar ขโมยสเตจวินได้เรียบร้อยบรรลุเป้าหมาย ทีมไม่มีเอซอย่างวาวเวอเด้หรือคินทาน่า แต่มีผลงานกลับบ้านแล้ว สัปดาห์ถัดๆ ไปน่าจะมีลุ้นกว่านี้อีกเพราะเรื่องไต่เขาและเบรคอเวย์ ทีมนี้ก็มีดีไม่แพ้ใครครับ

 

4. Week 2: พักรบ?

สัปดาห์ที่สองโปรไฟล์การแข่งขันดูจะเบามือลงนิดนึงครับ เพราะจากหกสเตจ เป็นทางราบซะสองสเตจและทางโรลลิ่งสำหรับเบรคอเวย์อีกสองสเตจ ไคลแมกซ์จริงๆ จะอยู่ที่ช่วงสุดสัปดาห์ในสเตจ 14 ที่เป็น Time Trial เดี่ยวและสเตจ 15 ที่เส้นชัยจบบนยอดเขา เพราะงั้นตั้งแต่สเตจ 10-13 ทีม GC คงวางมือได้ ถ้าไม่มีทีมไหนเล่นบทโหดเหมือนสัปดาห์แรก ทีมรับเชิญดิวิชัน 2/3 เองก็ยังไม่มีผลงาน ถ้าจะกอบโกยก็ต้องเป็นสัปดาห์นี้หละครับ

Screen Shot 2558-05-18 at 11.16.03 AM
General Classification

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *