Giro: คิริเยงก้าชนะสเตจ 14, คอนทาดอร์ทวงเคือนเสื้อผู้นำ

[dropcap letter=”เ”]ป็นเวลาไม่ถึง 24 ชั่้วโมงที่ฟาบิโอ้ อารู (Astana) ได้เชยชมเสื้อ Maglia Rosa ที่เขาชิงมาจากคอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo) คู่แข่งคนสำคัญในสเตจ 13 แต่ก็ต้องคืนเสื้อไปเมื่อเขาเสียเวลาให้คอนทาดอร์ในสเตจ Time Trial เมื่อวานนี้เกือบสามนาทีเต็ม ขณะเดียวกัน Sky ทำผลงานโบว์แดงแต่ไม่ใช่ริชีย์ พอร์ทอย่างที่หลายๆ คนหวัง แต่กลับเป็นวาซิล คิริเยงก้าซุปเปอร์โดเมสติกของทีมที่คว้าแชมป์สเตจ

สเตจ 14 ถือเป็นจุดพลิกผันของการแข่งขัน เพราะระยะทางสเตจที่ยาวถึง 59.4 กิโลเมตรนั้นมากกว่าสเตจ Time Trial แทบทุกปีที่ผ่านมาใน Giro d’Italia เมื่อรวมกับสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจ ฝนตกหนักตลอดทั้งสเตจแล้ว อันดับ Top 10 เวลารวมหลังการแข่งก็แทบจะจัดใหม่กันยกกระดาน

ถึงจะไม่มีตัวเต็ง Time Trial มาลงแข่งเหมือนเฟเบียน แคนเชอลารา (Trek) และโทนี มาร์ติน (EQS) แต่แชมป์สเตจวันนี้ก็ถือว่าไม่น่าแปลกใจครับ วาซิล คิริเยงก้าเป็นหนึ่งในโดเมสติกที่ปั่น Time Trial ได้ดีไม่แพ้ใคร เคยคว้าเหรียญทองแดงในการแข่ง Time Trial ชิงแชมป์โลกมาแล้วในปี 2012 และแชมป์สเตจครั้งนี้เป็นแชมป์ Giro ครั้งที่สามของเขา (เคยได้ในปี 2008 และ 2011) ตามมาข้างหลังห่างไปแค่ +12 วินาที อันดับสองของสเตจคือหลุยส์ ลีออน ซานเชซจาก Astana

แต่ประเด็นหลักของวันนี้ก็คือเวลาของเหล่าตัวเต็ง GC เราคาดว่าริกโอเบอร์โต้ อูราน (EQS) น่าจะพลิกเวลา 2 นาทีที่ตามหลังอารูและคอนทาดอร์คืนได้ แต่กลับเป็นว่าเขาทำได้แย่กว่าที่คิด เข้าเส้นชัยหลังคอนทาดอร์สองนาทีเศษ ในขณะที่ริชีย์ พอร์ท (Sky) แทบจะหลุดโผไปอยู่อันดับ 55 เข้าเส้นหลังคอนทาดอร์ +4:06 นาที สรุปอันดับ GC เขาตกไปที่ 17 และตามหลังคอนทาดอร์ +8:52 นาที ซึ่งน่าจะหมดหวังแล้วสำหรับอันดับโพเดี้ยมรายการ

ส่วนเจ้าของเสื้อชมพูตอนเริ่มสเตจ ฟาบิโอ้ อารู ก็ทำเวลาได้ไม่ดีมากเช่นกัน เข้ามาเป็นอันดับที่ 29 ช้ากว่าคอนทาดอร์เกือบสามนาที ทำให้เวลารวมตอนนี้ตามคอนทาดอร์ +2:28 นาที คอนทาดอร์เองก็ดูจะปั่น Time Trial ในสภาพอากาศแย่ๆ ได้ดีกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับสาม ตามหลังแชมป์สเตจคิริเยงก้าแค่ +14 วินาทีเท่านั้น

ทางเดียวที่คู่แข่งของคอนทาดอร์จะเอาชนะเขาได้ก็ต้องเป็นสเตจภูเขาสูงชันที่เหลือในรายการ ซึ่งสเตจแรกจะเริ่มวันนี้ แต่ดูจากฟอร์มของคอนทาดอร์แล้ว อาจจะไม่ง่ายที่จะไล่ชิงเวลาคืนครับ