[dropcap letter=”ที”]ม Lampre-Merida กลายเป็นทีมที่มียอดชัยชนะเยอะที่สุดใน Giro d’Italia ปีนี้ เมื่อสปรินเตอร์ ซาช่า โมโดโล่คว้าแชมป์สเตจเป็นครั้งที่สอง เอาชนะจิอาโคโม่ นิซโซโล่ (Trek) และลูค่า เมซเกต (Giant-Alpecin) หน้าเส้นชัยในเมืองลูกาโน่ สวิสเซอร์แลนด์
จัดได้ว่าเป็นสเตจที่ “ปกติ” สำหรับ Giro d’Italia ปีนี้ครับ เพราะไม่มีดราม่าเหมือนในหลายๆ สเตจที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีเนินเล็กน้อยคอยตัดกำลังสปรินเตอร์ที่ 7 กิโลเมตรหน้า เส้นชัยกับโปรไฟล์สเตจที่เป็นทางราบเกือบทั้งหมด
เบรคอเวย์ในครึ่งแรกของการแข่งขันมีนักปั่น 3 คนจากทีม Androni, Nippo-Vini Fantini, Etixx-Quickstep แต่ก็โดนทีมสปรินเตอร์ที่นำโดย Giant และ Lampre รวบเข้ากลุ่มที่ 26 กิโลเมตรสุดท้าย แต่เบรคโดนจับได้ไม่นาน อดัม แฮนเซ็น (Lotto-Soudal) ก็ลองเสี่ยงโชคหนีออกไปลุ้นแชมป์สเตจ เมื่อกัปตันทีม อังเดร ไกรเปิลชิงถอนตัวไปก่อนทำให้ทีมขาดสปรินเตอร์
แฮนเซ็นถูกกลุ่มรวบที่ 9 กิโลเมตรสุดท้าย จนถึงทางขึ้นเนินเบรคอเวย์ชุดใหม่ เปิดโดยทอม เยลท์ สแลกเตอร์ (Cannondale-Garmin) ก็ออกชิงหนีบ้าง ตามด้วย ฟิลลิป จิลแบร์ (BMC) และลูค่า พาวลินี (Katusha) ที่หนีไปจนเกือบถึงกิโลเมตรสุดท้าย แต่ก็ถูกหัวลาก Lampre และ Giant รวบในที่สุด
ลีดเอาท์ Lampre ตั้งความเร็วสูง นำทางให้โมโดโล่ และปล่อยตัวเขาสปรินต์ที่ 200 เมตรสุดท้าย เอลิอา วิวิอานี (Sky) พยายามขึ้นไล่แซงแต่ก็ไม่สำเร็จ โมโดโล่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก นิซโซโล่ (Trek) อันดับสอง และปิดท้ายด้วยลูค่า เมซเกต (Giant-Alpecin) ส่วนอันดับเวลารวมไม่มีการเปลี่ยนแปลง อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ยังคงนำเวลารวมครับ
วิดีโอไฮไลท์
ผลการแข่งขัน
Photo Credit: RCS Sport / Giro d’Italia Official
***
พรีวิวสเตจ 18
ดูโปรไฟล์ก็รู้แล้วว่าเป็นสเตจที่สนุกครับ ระยะทางไม่สั้นไม่ยาวง 170 กิโลเมตร กับทางราบ 3/4 ของการแข่งแต่ไปโหดช่วงสุดท้ายที่เป็นการขึ้นเขาระดับ Category 1 และดิ่งลงเขายาวจนถึงเส้นชัย! เหมาะทั้งกับนักไต่เขาและตัวเต็งเบรคอเวย์เสียนี่กะไร
เขา Monte Ologno ลูกนี้ยาว 10% และชันเฉลี่ย 9% การันตีได้ว่านักปั่น GC ต้องมีออกหนีกันแน่นอน เพราะถ้าทิ้งคู่แข่งขึ้นเขาได้แล้ว ทางลงก็ไล่จับกันยากครับ เพราะลงค่อนข้างยาวและยาก มีสิทธิหนีไปชิง Time Bonus ก่อนเพื่อน 5 กิโลเมตรสุดท้ายเป็นทางราบแต่มีวงเวียนกวนใจเล็กน้อย
ตัวเต็ง
สเตจนี้น่าจะจบได้สองรูปแบบ คือ 1. ตัวเต็ง GC ไล่กวดกันขึ้นเขาจนกลุ่มแตกกระจายหมด
Case A GC Victory: ถ้าจะจบแบบนี้ทีม GC ต้องจับเบรคอเวย์ให้ได้ทุกคนระหว่างทางขึ้นเขา สมมติจบแบบนี้จริง อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo) มีลุ้นคว้าแชมป์สเตจวินครั้งแรก เพราะเขามีทักษะการลงเขาที่ดีกว่าเพื่อน แต่ก็น่าสนใจว่าฟาบิโอ้ อารู (Astana) อาการจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เสียเวลาให้คู่แข่งไปหลายนาทีในสเตจ 16 ผมว่ายากที่ตัวเต็งเบอร์รองๆ อย่างเลโอ โคนิก (Sky) อามาดอร์ (Movistar) โทรฟิมอฟ (Katusha) จะหนีคอนทาดอร์กับแลนด้าได้ ถ้าจะหนีได้ก็แสดงว่าคอนทาดอร์ปล่อย เพราะเวลา GC กลุ่มนี้ห่างไปเยอะจนไม่น่าเป็นอันตรายแล้ว
Case B Breakaway Victory: แบบที่สองคือกลุ่มหนีชนะ เคสนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเบรคอเวย์ช่วยกันทำงานดีก่อนที่ขึ้นเขา คือหนีด้วยกันมาตั้งแต่แรกไม่ยอมให้กลุ่มจับ หรือพากันหนีระหว่างทางขึ้นเขา ซึ่งคนที่จะหนีได้อันดับ GC ต้องหลุดไปไกล (ตัวเต็งถึงจะยอมปล่อย) แล้วช่วยกันนำทิ้งลงเขาไปเข้าเส้นชัยก่อนเพื่อน เคสนี้น่าลุ้น ดิเอโก้ อูลิซซี (Lampre), เบนญัท อิงฌอสตี้ (Movistar), อิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha), จิโอวานนี วิสคอนตี้ (Movsitar), ไรเดอร์ เฮซเชดาล (Cannondale-Garmin), คาร์ลอส เบทันเคอร์ (AG2R)
วันนี้ฝนไม่น่าตก หวังว่าจะไม่มีดราม่าอะไรครับ !
ถ่ายทอดสด 19:30-22:30 เหมือนเดิมที่ duckingtiger.com/live
***
