Giro สเตจ 10: โบมชนะสเตจ แต่ทำไมริชีย์ พอร์ทโดนปรับ 2 นาที?

[dropcap letter=”ต้”]องบอกว่ามีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้ทุกวันใน Giro d’Italia ปีนี้ครับ ในสเตจทางราบที่เราคิดว่าจะจบด้วยการสปรินต์กลุ่ม ไม่มีอะไรหวือหวากลับเป็นสเตจที่มีการพูดถึงและถกเถียงที่สุดตั้งแต่เริ่มการแข่งขันมา

นิโคล่า โบม (Bardiani) พากลุ่มเบรคอเวย์หนีทีมสปรินเตอร์ใน peloton คว้าแชมป์สเตจแบบเหนือความคาดหมายในขณะที่ริชีย์ พอร์ท เอซทีม Sky โดนปรับฟาวล์จากการที่ไซมอน คลาร์ค (GreenEdge) เพื่อนร่วมชาติแต่ต่างทีมเอาล้อของตัวเองให้พอร์ท เมื่อพอร์ทยางรั่วในช่วง 10 กิโลเมตรสุดท้าย มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นในสเตจนี้

เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 10

ก่อนจะพูดถึงเคสพอร์ทและคลาร์ค เรามาดูกันก่อนว่าสเตจ 10 จบยังไงครับ สเตจ 10 เป็นทางราบเกือบ 100% และ peloton กะคำนวนว่าจะจับกลุ่มหนีที่ฉีกออกมาตั้งแต่ต้นสเตจในช่วงสุดท้ายเพื่อชิงชัยสเตจกันด้วยการสปรินต์ เบรคอเวย์ของเรามี Oscar Gatto (Androni-Giocattoli), Nicola Boem, Alessandro Malaguti (Nippo-Vini Fantini), Matteo Busato (Southeast) และ Alan Marangoni (Cannondale-Garmin) กลุ่ม peloton ไม่ปล่อยให้เบรคอเวย์หนีไปได้ไกลเกิน 5 นาที โดยเฉพาะ Giant-Alpecin และ Lotto-Soudal ที่ช่วยกันขึ้นมาผลัดนำกลุ่มเพื่อไล่จับกลุ่มหนี

ทว่าที่ 30 กิโลเมตรสุดท้าย ระยะห่างของเบรคอเวย์กลับไม่ลดลงตามที่คาดเมื่อกลุ่มหนีได้กระแสลมส่งช่วยหนุนความเร็ว ขณะเดียวกันไม่มีทีมไหนสนใจช่วย Lotto-Soudal ของอังเดร ไกรเปิล ไล่จับเบรคอเวย์ที่ดูจะหนีห่างได้มากขึ้นเรื่อยๆ 10 กิโลเมตรสุดท้าย เบรคอเวย์มีระยะห่าง 1:30 นาที ทว่าหัวลากของ Lotto ที่ทำงานมาหลายสิบกิโลเมตรก็ไม่สามารถไล่จับเบรคอเวย์ที่สามัคคีช่วยกันขึ้นนำได้ สุดท้าย เป็นมารานโกนี้ (Cannondale) ที่พยายามชงเกมหนีกลุ่มเบรคอเวย์ที่ 1400 เมตรสุดท้าย เบรคอเวย์ที่เหลือตามมาจับม้ามืดจาก Cannondale ได้ก่อนที่นิโคล่า โบม (Bardiani) จะเปิดสปรินต์ คว้าแชมป์สเตจ 10 เก็บผลงานแรกให้ Bardiani ได้สำเร็จ, แมทเทโอ บูซาโต้ (SouthEast) ตามมาเป็นอันดับสองและอลาน มาลากกูตี้ (Nippo) ได้ อันดับสาม กลุ่ม peloton ตามเข้ามาหลังโบม +18 วินาที นำโดยจิอาโคโม่ นิซโซโล่ ที่คว้าอันดับ 5 ให้ Trek Factory Racing

วิดีโอไฮไลท์

พอร์ท, คลาร์ค และกฏการช่วยระหว่างทีม?

ในช่วง 10 กิโลเมตรสุดท้าย ริชีย์ พอร์ท (Sky) ยางรั่ว จนเขาต้องจอดรอรถทีมหวังเปลี่ยนจักรยานคันใหม่ แต่ขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมชาติต่างทีม ไซมอน คลาร์ค หวังช่วยพอร์ทเพื่อไม่ให้เสียเวลาให้คู่แข่งไปมากกว่าเดิม เปลี่ยนล้อของตังเองให้พอร์ท จากนั้นทีม Sky พาพอร์ทซิ่งกลับเข้ากลุ่มสุดชีวิต แต่ก็ไม่ทันครับ พอร์ทเสียเวลาให้ตัวเต็งอย่างคอนทาดอร์ และอารู ไป +43 วินาที ซึ่งก็ถือว่าไม่แย่และยังไม่หมดหวังรวบแชมป์รายการ

ทว่าสเตจจบลงไม่นาน กรรมการจาก UCI ที่เป็นผู้คุมกฏการแข่งขันก็ประชุมกันก่อนที่จะประกาศว่า ริชีย์ พอร์ท และไซมอน คลาร์คทำผิดกฏการแข่งขันของ UCI ตามข้อ 2.3.012 ซี่งบอกว่า

แปลอย่างง่ายๆ คือ “ผู้เข้าแข่งขันสามารถช่วยเหลือผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ เช่นการแลกเปลี่ยนอาหาร เครื่องดื่ม หรือเสื้อผ้า ผู้เข้าแข่งขันที่ประสบอุบัติเหต โดนกลุ่มทิ้ง แลกเปลี่ยนยาง Tubular หรือจักรยาน จะใช้อุปกรณ์ได้จากผู้เข้าแข่งขันในทีมเดียวกันเท่านั้น ถ้าผู้เข้าแข่งขันทีมอื่นช่วยผลักเพื่อนต่างทีม โทษคือตัดสิทธิจากการแข่งขันโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ”​

สรุปคือกฏบอกว่า ห้ามไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันต่างทีมแลกเปลี่ยนอุปกรณ์กันระหว่างแข่ง 

ผลลัพธ์ก็คือทั้งริชีย์ พอร์ท และไซมอน คลาร์คถูกกรรมการปรับเวลาคนละ +2:00 นาที ทำให้พอร์ทตกไปอยู่อันดับ 12 ในตารางผู้นำเวลารวม ตอนนี้เขาตามหลังอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ ผู้นำเวลารวมคนปัจจุบัน 3:09 นาที!

จากพฤติกรรมที่ได้ใจแฟนๆ จักรยานกันไปถ้วนหน้าที่เพื่อนร่วมชาติยอมช่วยเพื่อนต่างทีม (จริงๆ GreenEdge ไม่มีตัวเต็ง GC ด้วย เลยถือว่าไม่ขัดแย้งผลประโยชน์กับ Sky) เป็นน้ำใจนักกีฬาที่หาดูได้ยากยิ่ง แม้แต่ทวิตเตอร์ Official ของ Giro ยังเอารูปมาลง (ฝ่ายสื่อน่าจะคนละฝ่ายกับผู้ตัดสิน และรูปข้างล่างนี้มาก่อนที่พอร์ทจะโดนตัดเวลา)

กรรมการแฟร์หรือเปล่า?

ในทวิตเตอร์ก็มีการบ่นกันอื้ออึงครับว่ากรรมการไม่แฟร์กับพอร์ท อะลุ่มอล่วยในบางเรื่อง เช่นยอมให้นักปั่นที่ยางรั่วมีแต่สามารถตามรถทีมที่ช่วยบังลมไล่กลับเข้าไปในกลุ่มได้แต่ปราณีไม่ปรับหรือตัดแต้ม และอีกหลายๆ เรื่องที่ UCI เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ จนเกิดคำถามที่ว่า UCI บังคับใช้กฏด้วยมาตรฐานเดียวกันทุกครั้งหรือเปล่า? (Consistency)

อย่างไรก็ดี DT คิดว่าเราต้องแยกเรื่องอารมณ์และความงดงามของน้ำใจนักกีฬาจากกฏการแข่งขันครับ จริงว่า UCI อาจจะไม่มีมาตรฐานในการบังคับใช้กฏหลายๆ ครั้ง (Astana มีคดีโด้ป 3 เคส เมื่อปีที่แล้วแต่ไม่โดนทำโทษอะไรเลย?) ในกรณีของคลาร์คกับพอร์ท ความผิดขั้นแรกคืออาจจะไม่รู้กฏการแข่งขัน จริงว่านักกีฬา UCI น้อยคนที่จะรู้กฏทั้งหมดจากหนังสือ Rule Book แต่ก็เหมือนเวลาเราทำผิดกฏหมายเราจะอ้างว่าไม่รู้กฏหมายไม่ได้ ถ้าดูในรูปใกล้ๆ จะเห็นว่ามีเพื่อนนักปั่นทีม Sky อยู่ข้างๆ พอร์ทด้วย ถ้าทุกคนในที่เกิดเหตุรู้กฏ พอร์ทควรจะรับล้อจากเพื่อนแทนไซมอน คลาร์คที่อยู่ต่างทีม

https://twitter.com/niclashaslum/status/600735283223605248

ในยุคสมัยที่ภาพการแข่งขันนั้นออกสู่สาธารณะแบบนาทีต่อนาที กรรมการเองก็ต้องพิจารณาสถานการณ์อย่างเข้มงวด ถ้าเกิดสาธารณะเห็นภาพว่านักปั่นต่างทีมช่วยกัน แล้วรู้ว่าผิดกฏหมายก็อาจจะตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรรมการไม่บังคับใช้กฏ? ทำให้มันไม่แฟร์กับนักปั่นทีมอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า? สปิริตของการแข่งขันนั้นเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนักกีฬาทุกคนเคารพกฏและแข่งขันอย่างเท่าเทียม จริงว่าคลาร์คแสดงออกถึงน้ำใจ แต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่แฟร์กับทีมอื่นที่ลงแข่งด้วยเพราะ กฏการแข่งขันจักรยานกำหนดให้หนึ่งทีมมีนักปั่นได้ 9 คน ไม่ใช่ 10 คน

ผลการตัดสินน่าจะทำให้พอร์ทและคลาร์คเครียดไปอีกหลายวัน โดยเฉพาะคลาร์คที่ยอมรับว่า รู้เท่าไม่ถึงการ จากน้ำใจที่จะช่วยให้เพื่อนมีลุ้นอันดับต้นๆ กลายเป็นทำลายโอกาสของทั้งคู่ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ามีน้ำใจนักกีฬาเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องถูกสถานที่และถูกสถานการณ์ด้วยเช่นกัน สุดท้ายทีม Sky และพอร์ทก็ให้สัมภาษณ์ว่ายังจะสู้เต็มที่ ซึ่งอาจจะทำให้เกมการแข่งขันดุเดือดขึ้นอีกขั้นก็ได้ครับ เพราะเราเห็น Sky นอนนิ่งซุ่มมาตลอดสัปดาห์แรก แต่เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ Sky ต้องรุกให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเสียไปร่วม 3 นาทีนี่ไม่ง่ายที่จะไล่ตาม หวังรอทีมคู่แข่งหมดแรงคงไม่พอซะแล้ว

***

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *