Giro เป็นผู้ผลิตหมวกกันน็อคจักรยานรายแรกๆ ที่เริ่มเทรนด์หมวกแอโร กับ Giro Air Attack ในปี 2012 ซึ่งเป็นหมวกทรงกลม ท้ายปิด และแทบไม่มีรูระบายอากาศ แถมยังมาพร้อมกับแว่น visor ในตัว
ผ่านไป 5 ปี แทบไม่มีแบรนด์หมวกกันน็อคไหนที่ไม่มีหมวกแอโรในไลน์อัป และ Giro อยากจะทวงความเป็นหนึ่งอีกครั้ง เปิดตัวหมวก Giro Vanquish ที่มั่นใจว่าเร็วกว่าหมวกแอโรทุกรุ่นในตลาด เทียบเท่าหมวก Time Trial จากหลายค่าย แก้ปัญหาเรื่องการอมเหงื่ออมร้อนจากรุ่นเก่า และมากับแว่น visor แบบใหม่ด้วย
มีอะไรใหม่ใน Giro Vanquish
ดูจากภายนอกแล้ว หมวก Giro Vanquish ใช้ดีไซน์ไม่ต่างจากหมวกแอโรร่วมสมัยเท่าไรนัก เป็นทรงกลม ท้ายตัด พร้อมฟีเจอร์ ‘aerodynamic cliff’ หรือจุดที่ช่วยการไหลผ่านของลมนั้นราบลื่นไม่เกิดลมปั่นป่วนถึงแม้หมวกจะไม่มีหางเหมือนหมวก time trial ก็ตาม ทำให้หมวกลู่ลมในหลากหลายสภาพการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องก้มปั่นในท่า time trial เพียงอย่างเดียว เหมาะกับการแข่งขันเสือหมอบที่นักปั่นต้องขยับหัวไปมา เพื่อดูทางและคู่แข่ง
แอโรไดนามิก
Giro ทดสอบความลู่ลมพบว่าหมวก Vanquish นั้นประหยัดเวลาได้ 5-10 วินาที และ 18-20 วินาที เทียบกับหมวก Air Attack และ Synth MIPS ตามลำดับ และยังเร็วกว่าหมวกคู่แข่งอย่าง Specialized S-Works Evade, Met Manta และ Bontrager Ballista ด้วย ตามตัวเลขข้างล่างนี้
ไม่ใช่แค่ด้านความลู่ลมอย่างเดียว Giro อ้างว่าหมวก Vanquish ระบายความร้อนได้ดีกว่าหมวกแอโรจากแบรนด์อื่นด้วย ระบายความร้อนได้ใกล้เคียงกับหมวก Synth MIPS ที่มีรูระบายอากาศเป็นจำนวนมาก จากรูระบายอากาศด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่และจำนวนมากกว่าในหมวก Air Attack
สำหรับคนที่ชอบใส่หมวกแอโรพร้อมแว่น Visor ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดฝ้าหรือเหงื่อออกท่วมตา หมวก Vanquish มีรูระบายลมขนาดใหญ่เหนือแว่น Visor สองจุด
เลนส์ใหม่เพิ่ม contrast
สำหรับแว่นที่ให้มานั้นออกแบบและผลิตโดย Zeiss ประกบติดกับหมวกด้วยแม่เหล็ก เลนส์ที่ให้มาเคลือบพิเศษตัดคลื่นแสงสีฟ้าเพื่อให้เห็นถนนได้ชัดเจนขึ้น และถ้าใส่แว่นไว้ตอนปั่นก็จะแอโรกว่าไม่ใส่ด้วย จุดน่าสนใจคือ Giro อ้างว่าการระบายความร้อนขณะใส่แว่นทำได้ดีกว่าตอนไม่ใส่ ซึ่งน่าจะมาจากการออกแบบการไหลเวียนลมที่ดีกว่า Air Attack นั่นเองครับ
เลนส์มีให้เลือก 4 สี (full sun, green, amber, และ clear silver)
MIPS และโฟมหนาพิเศษ
หมวกกันน็อคที่ดีต้องป้องกันศีรษะผู้ใช้ได้อย่างมั่นใจด้วย นอกจากจะทำให้หมวกเร็วและระบายอากาศดีแล้ว Giro ใส่ระบบ MIPS ไว้ด้านใน
MIPS หรือ Multi-directional Impact Protection System เป็นไลเนอร์ในหมวกกันน๊อค (สังเกตได้จากจุดสีเหลืองๆ) ช่วยลดแรงกระแทกสมองภายในกระโหลก หลักการทำงานคือ เมื่อมีแรงปะทะเกิดขึ้นเช่นจากการล้มหัวฟาด ตัวโครงหมวกจะสไลด์ไปตามทิศทางที่ผู้สวมใส่หมวกล้ม ช่วยถ่ายเทแรงกระแทกให้ไม่อัดเข้ามาในศีรษะเต็มๆ โดยตัว MIPS จะยืดศีระษะเราไว้ให้อยู่กับที่ไม่บิดไปตามแรงปะทะด้วย ดูรูปประกอบด้านบนนี้จะเข้าใจง่ายขึ้น
หมวกที่ติดตั้ง MIPS มาในตัวมักจะมีราคาสูงกว่ารุ่นที่ไม่ติด Giro Vanquish ก็เช่นกัน นอกจากระบบ MIPS แล้ว Vanquish ยังมากับโฟม EPS แบบสองชั้น ใช้โฟมแบบอ่อนนุ่มด้านในเพื่อลดแรงกระเทือนในส่วนที่ติดกับศรีษะเรา และใช้โฟมที่แข็งกว่าด้านนอกซึ่งติดกับชั้นโพลีคาร์โบเนต Giro มั่นใจว่าโฟมสองชั้นที่ความหนานุ่มต่างกัน ปลอดภัยกว่าโฟมชั้นเดียว
ราคา สี วันวางจำหน่าย
มีให้เลือกทั้งหมด 3 ไซส์และหกสี เริ่มจำหน่าย 1 ธันวาคม น้ำหนักไซส์ M หนัก 305 กรัม แว่นหนัก 50 กรัม รวมๆ แล้วหนักกว่า Giro Synth MIPS ประมาณ 35 กรัม ราคา 275 USD หรือประมาณ 9,200 บาท (ราคาไทยรอตัวแทนจำหน่ายอีกที)
Via: Giro.com
