การแข่งจักรยานทางไกลจัดว่าเป็นกีฬาที่ไม่ค่อยจะเจอปัญหาเรื่องนักกีฬาชกต่อยกันนัก แต่ใน Dubai Tour เมื่อวานนี้ ก็มีกรณีที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นครับ เมื่อแอนเดรย์ กริฟโค่ (Astana) ชกเอซสปรินเตอร์และผู้นำเวลารวม มาร์เซล คิทเทล (Quick-Step Floors) จนแว่นคิทเทลแตกและเจ้าตัวเลือดอาบหน้าระหว่างแย่งตำแหน่งกันในขบวนเปโลตองช่วงกลางแข่งขันสเตจ 3
I won't accept an apology for this. That has nothing to do with cycling. What Grivko did is a shame for our beautiful sport. pic.twitter.com/vvMN5LzQN0
— Marcel Kittel (@marcelkittel) February 2, 2017
เรื่องวิวาทเกิดขึ้นในช่วง 100 กิโลเมตรสุดท้าย ที่นักปั่นในเปโลตองเริ่มเจอกระแสลมปะทะข้างและกลุ่มเริ่มขาดจนต้องแย่งเบียดตำแหน่งหน้าขบวนกัน
คีล เรจ์เน็น (Trek-Segafredo) ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า “นักปั่นหลายคนขยับตัวแบบสุ่มเสี่ยงไปหน่อย โดยเฉพาะกริฟโคและเพื่อนร่วมทีม Astana คิทเทลที่พยายามจะเข้ากลุ่มเบียดไหล่กระทบทั้งคู่และแลกเปลี่ยนวาจา แต่จากนั้นกริฟโคก็แจกเข้าหนึ่งหมัดทันที”
คิทเทลให้สัมภาษณ์ “ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เราจะไหล่ชนกันในขบวนที่กำลังจัดกลุ่มกันแบบนี้ ผมกำลังกลับเข้ากลุ่มพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมทีมของเขา เหมือนเขาจะไม่ชอบเขาเลยผลักผม ผมก็อ้อมขึ้นมาใหม่ และแทรกตัวไประหว่างเขาและเพื่อนร่วมทีม ไหล่ผมกระทบเขานิดนึง ไม่ได้ใช้มือผลักหรืออะไร ผมเลยพยายามบอกเด็ก Astana คนนั้นว่าอย่าปั่นเสี่ยงๆ แบบนี้ แล้วผมก็โดนชกจากด้านซ้าย ผมสงสัยว่าเขากินกาแฟมากไปหรือไงไม่รู้เมื่อเช้านี้”
ส่วนทางกริฟโค่ กล่าวว่า “คิทเทลอยากได้ตำแหน่งผม เขาดันผมหลายครั้ง ผมพยายามเอามือดันกลับเพราะมันแทรกเข้ามาไม่ได้ เหมือนเขาจะไม่เข้าใจผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากที่แว่นเขาแตกเขาก็ดูจะโกรธมาก….คือผมว่าถ้าคุณอยากได้ตำแหน่งคุณต้องใช้ขานะ ไม่ใช่ไหล่เบียด ในการสปรินต์มันก็ใช่อยู่ที่เราจะเบียดกระทบกัน แต่นี่มันกลางสเตจเลย มันไม่ปกติ”
Was a tough day for @marcelkittel at #DubaiTour, but he successfully defended the blue jersey! Stick around, we'll soon publish our report! pic.twitter.com/dXSVabYr88
— Deceuninck-QuickStep (@deceuninck_qst) February 2, 2017
คณะกรรมการการแข่งตัดสินให้กริฟโค่ออกจากการแข่งขันจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมพร้อมจ่ายค่าปรับประมาณ 7,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับ
“ผมยอมรับการตัดสินใจ ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ แต่นักปั่นต้องเคารพทุกคนนะ เขาอาจจะเป็นผู้นำเวลารวมแต่เขาไม่สามารถผลักใครออกข้างทางได้ตามใจชอบ มันอันตรายสำหรับทุกคน”
คิทเทลไม่ได้ตอบโต้ต่อการทำร้ายร่างกาย ท้ายสเตจเขาสปรินต์ไม่ชนะ แชมป์ตกเป็นของจอห์น เดเกนโคลบ์ (Trek-Segafredo) แต่คิทเทลยังนำเวลารวมอยู่ +8 วินาที แต่คิทเทลเรียกร้องให้กรรมการแบนกริฟโค่จากการแข่งเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
“มันเป็นเรื่องแย่มากสำหรับวงการและชื่อเสียงสนามนี้ครับ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำขนาดนั้น โอเค มันเป็นช่วงเวลาที่เราอาจจะใช้อารมณ์กันมาก การอยู่ในขบวนช่วงลมตีกลุ่มขาดแบบนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรกับการสปรินต์หน้าเส้น แต่มันได้ให้สิทธิใครใช้กำลังทำร้ายร่างกาย”
หลังสเตจ ทีม Astana ออกมาขอโทษคิทเทลผ่าน Twitter และระหว่างแข่งนั้นกริฟโค่พยายามให้เบอร์นาร์ด ไอเซิล (Dimension Data) ช่วยเจรจาขอโทษ แต่เอซ Quick Step ไม่ยอมจบลงแค่นี้
Astana Proteam apologizes to @marcelkittel and @quickstepteam for improper behavior of its rider @andrei_007 during stage 3 of @dubaitour
— Astana – Premier Tech (@AstanaPremTech) February 2, 2017
คิทเทลกล่าวว่า “ถ้าคุณมีปัญหากันระหว่างแข่ง ก็เถียงกัน คุยกัน หรือจะจับ จะผลักกันนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ผมไม่ถือเลย แต่ถ้าคุณเริ่มทำให้ใครบาดเจ็บ หรือถ้าจริงๆ ผมตาบอดเพราะเศษแว่นที่แตกเข้าตานี่มันไม่โอเคมากๆ ครับ มันจบแล้วครับ ไม่คำว่ารู้สึกเสียใจ ไม่ต้องมีการขอโทษแล้ว”
จากนั้น คิทเทลก็ทวิตใน twitter ส่วนตัวว่า…
And I just googled Grivko and it said he is 70kg. Dude, know your limits!! pic.twitter.com/JnhYQk58vt
— Marcel Kittel (@marcelkittel) February 2, 2017
Via: Velonews, Cyclingnews, Cyclingweekly