วิธีเตรียมแข่ง Tour de France ของไนโร คินทานา

ตัวเต็งแกรนด์ทัวร์เขาซ้อมและวางแผนพิชิตการแข่งขันจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังไง?

บทสัมภาษณ์ล่าสุดของไนโร คินทานา โดยทีม Movistar กล่าวถึงกลยุทธ์การเตรียมตัวในมุมมองที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนได้น่าสนใจทีเดียว มาดูกันว่านักปั่นที่เคยเหยียบโพเดี้ยม Tour de France ถึงสามครั้งเขาเตรียมตัวยังไงกันบ้างครับ

1) ฤดูกาล 2018

“ปีนี้แผนการแข่งขันของผมต่างออกไปครับ ไม่วุ่นวายเหมือนฤดูกาลก่อนๆ แล้วเราก็ทำผลงานได้ดีมากด้วยในทั้งสี่รายการที่ผมลงแข่ง ผมได้อันดับสองใน Oro y paz ในโคลอมเบียและที่สองใน Volta Catalunya ในสเปน, ที่ 5 ใน Vuelta el Pais Vasco และที่สามใน Tour de Suisse พร้อมแชมป์หนึ่งสเตจ ผมไม่ได้ลงในฐานะตัวเต็งรายการพวกนี้นะ แต่เปลี่ยนเป็นแข่งแบบรีแลกซ์ช่วยทีมบ้าง ทำเกมเองบ้าง ทั้งหมดก็เพื่อบิลด์ฟอร์มสำหรับรายการใหญ่ในเดือนกรกฏาคม”

 

2) ซ้อมยังไงก่อนลงตูร์?

“ก่อนสนาม Pais Vasco ผมกลับไปโคลอมเบียเพื่อซ้อมบนเขาสูงชันเพื่อให้ชินกับความกดอากาศบนยอดเขา ผมทำแบบนี้ทุกครั้งก่อนลงแกรนด์ทัวร์ครับ บางวันผมปั่นยาวๆ เพื่อจำลองสเตจในตูร์ เราพยายามจำลองการซ้อมให้เหมือนการปีนเขายาวๆ ในตูร์ปีนี้ครับ และปรับฟอร์ม Time trial ให้ดีขึ้นด้วย เพราะเป็นจุดอ่อนของเรา เราอยากเข้าแข่งขันด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ล้าจนเกินไป เลยลดจำนวนสนามแข่งลง เลือกลงเฉพาะรายการที่สำคัญๆ ลดการเดินทาง ช่วยสภาพจิตใจและร่างกายให้สดพร้อมลงแข่ง”

 

3) เป้าหมาย?

“เป้าของเราคือการคว้าแชมป์ Tour de France มันเป็นแกรนด์ทัวร์รายการเดียวที่ผมยังไม่ชนะและเป็นรายการที่ผมฝันถึงเสมอ เรามีทีมที่ยอดเยี่ยมครับ หวังว่าเราจะรอดสัปดาห์แรกโดยที่ไม่เสียเวลามากนัก ทำงานด้วยกันอย่างสามัคคีและเอาชนะคู่แข่งของเราได้”​

 

4) ใครคือทีมที่เป็นคู่แข่งเบอร์หนึ่ง?

“คริส ฟรูมและทีม Sky เป็นคู่แข่งเบอร์หนึ่งของเราครับ มันชัดเจนอยู่แล้ว นอกจาก Sky แล้วก็มีนักปั่นอีกหลายคนที่มีลุ้นเหมือนกันถ้าพวกเขาผ่านสัปดาห์แรกที่มีสเตจถนนหินได้ เราเคยเห็นิบาลีใช้สเตจถนนหินทำเกมทำเวลานำคู่แข่งมาแล้วในปี 2014 ที่เขาได้แชมป์ แล้วก็ยังมีตัวเต็งนักไต่เขาที่สไตล์คล้ายๆ กัน เช่นบาเดต์ (AG2R) และริชีย์ พอร์ท (BMC) แล้วเราต้องจับตามองนักปั่นอย่างพริมอซ​ โรจ์กลิค (LottoNL-Jumbo) ด้วย ปีที่แล้วเขาได้แชมป์สเตจภูเขาแล้วก็ปั่น Time Trial ได้ดีด้วย”

 

5) จะแข่งร่วมกับแลนด้าและวาวเวอเด้ยังไง?

“มันดีกว่าที่ทีมเราจะมีนักปั่นแกร่งๆ รวมกันเยอะๆ ครับ ปีนี้ทีมเรามีนักปั่นที่ลุยเส้นทางได้ทุกรูปแบบเลย ผมว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดที่เราเคยใช้ลงตูร์เลยครับ ทั้งมิเคล อเลฮานโดร และผมได้ลงแข่งด้วยกันหลายๆ รายการมาแล้วปีนี้และปีก่อนๆ และมันก็ไม่มีปัญหาอะไร เส้นทางจะเป็นตัวบอกเองว่าในสามคนเราใครสมควรที่จะเป็นหัวหน้าทีม เรามีสามคนเราควรใช้ประโยชน์จากตรงนี้ให้เยอะที่สุดในการไล่ล่าแชมป์รายการ”

 

7) คิดยังไงกับเส้นทาง?

“สัปดาห์แรกเป็นช่วงที่ยากที่สุดนะผมว่า ทุกคนต้องเจอเหมือนกัน ผมว่าคงไม่มีใครดีกว่าใครในช่วงสัปดาห์แรก บนสเตจถนนหินมันเป็นเรื่องของดวงเยอะมาก คุณอาจจะฟอร์มดีตแต่ล้มบาดเจ็บถอนตัวได้เหมือนฟรูมและคอนทาดอร์ในปี 2014 เรารู้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นกับเราเองก็ได้เหมือนกัน ที่จะล้มหรือโชคไม่่ดีเสียเวลาไปเยอะจนหมดหวังแชมป์รายการ ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องหาเป้าหมายใหม่ครับ”

“สัปดาห์ที่สอง สำหรับนักไต่เขาที่รอดจากสัปดาห์แรกโดยไม่เสียเวลามากน่าจะได้เปรียบเพราะมีภูเขาเยอะติดต่อกันหลายวัน แผนการเป็นเรื่องสำคัญครับเราต้องดูว่าเราเสียเวลาไปเท่าไรและจะเอาคืนได้เท่าไร ทีมที่นำการแข่งขันอยู่ต้องเจองานช้างเพราะตัวเต็งหลายคนคงเริ่มโจมตีชิงเวลากันในสัปดาห์นี้ และปีนี้แต่ละทีมเหลือผู้เข้าแข่งขันแค่ 8 คนจาก 9 คนด้วย”

“ส่วนตัวผมเองได้ไปลองเส้นทางสเตจที่ยากที่สุดทั้งหมดแล้ว ทั้งในแอลป์และพีรานีสรวมถึงสเตจ Time Trial ก่อนวันสุดท้ายด้วย โดยรวมแล้วผมว่าปีนี้เป็นตูร์ที่ยากมากครับ คุณต้องรักษาตัวและเวลาให้รอดปลอดภัยในสัปดาห์แรกโดยยังคงฟอร์มให้แกร่งพอในสัปดาห์ที่สองและสามด้วยครับ”

Via: Movistarteam.com

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *