เลือกหมอนยังไงให้นอนหลับสบาย?

Editor’s Note: โพสต์นี้ได้รับการสนับสนุนจาก Slumberland Thailand ครับ


สำหรับคนออกกำลังกายการนอนหลับสนิทอย่างมีคุณภาพเป็นเรื่องจำเป็น DT เชื่อว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำใส่ใจเรื่องการฝึกซ้อม และอาหารการกินดีอยู่แล้ว แต่เราให้ความสำคัญกับคุณภาพการนอนหลับขนาดไหน?

เมื่อเดือนที่แล้ว Slumberland แบรนด์เครื่องนอนชื่อดังจากอังกฤษติดต่อ Ducking Tiger มาว่าจะร่วมงานกันยังไงได้บ้าง? เราก็เลยเสนอไปว่าลองทำวิธีการเลือกหมอนที่ถูกต้องดูไหม? ถ้าเรานึกดูดีๆ 1 ใน 3 ของชีวิตเราอยู่กับการนอนจริงไหมครับ ขนาดจักรยานของเรายังเลือกอย่างพิถีพิถันทั้งๆ ที่อยู่กับมันสัปดาห์ละไม่กี่ชั่วโมง เราก็น่าจะใส่ใจไม่ใส่ใจสิ่งที่รองศีรษะเราทุกคืน

หรือบางทีเราทุ่มงบไปกับที่นอนราคาแพง ก็จริงว่าที่นอนนั้นเป็นของใหญ่และเป็นอะไรที่เรารู้สึกได้ทันทีว่าสบายหรือไม่สบาย เป็นการลงทุนที่แพงที่สุดสำหรับกิจกรรมการนอนของเรา แต่ถ้าเรามาดูที่คุณภาพการนอนหลับแล้ว หมอนก็สำคัญไม่แพ้ที่นอนครับ

เราอาจจะคิดว่าการซื้อหมอนนี่ซื้อใบไหนก็ได้ที่ชอบ มันไม่น่าจะต่างอะไรกันนะ หรืออาจจะสงสัยว่าซื้อหมอนแพงๆ มันดียังไง? มันหลับสบายจริงไหม วันนี้เราจะมาหาคำตอบด้วยกันครับ

 

1. หมอนดีๆ สำคัญยังไง

bed-bedroom-color-212269

ท่านอนที่ดีจะช่วยให้เราหลับลึกและสบาย โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าตื่นมาแล้วจะปวดหรือตึงคอ บ่า ไหล่ หมอนที่พอดีกับร่างกายและสรีระเราจะช่วยจัดท่านอนของเราให้เป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่มีส่วนไหน ยื่น โค้ง คดจนรู้สึกไม่สบายตัว

ถ้าคอและไหล่ของเราไม่ได้รับการซัพพอร์ทที่เพียงพอ มันอาจจะบังคับให้เรานอนในท่าที่ฝืน บิด งอตัว เพื่อหามุมที่เรารู้สึกสบาย แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้กระดูกสันหลังไม่อยู่ในแนวธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่เวลาตื่นนอนนั่นเองครับ

sleeping position delogo

หมอนที่เหมาะกับเราคือหมอนที่เรานอนทับลงไปแล้วรู้สึกสบายพอดี รองรับน้ำหนักต้นคอและกระจายแรงกดหัวไหล่ได้โดยที่ไม่ยุบลึกเกินไปหรือแข็งเกินไป แน่นอนว่าแต่ละคนก็มีความต้องการหมอนไม่เหมือนกันครับ หมอนที่สบายกับอีกคนอาจจะไม่สบายกับเราก็ได้

 

2. หมอนใช้งานได้นานแค่ไหน?

กฏโดยทั่วไปแล้ว หมอนใบนึงควรใช้ราวๆ 18 เดือน หมอนบางประเภทเช่นที่ทำจากเมมโมรีโฟมอาจจะใช้ได้นานกว่ายาวไปถึง 3-4 ปี หมอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมักใช้ได้นานกว่าประเภทวัสดุสังเคราะห์​ และแน่นอนว่าหมอนที่คุณภาพดีกว่าย่อมทนนานกว่าครับ ถ้าเราใช้หมอนใบเดิมมาหลายปีแล้วและรู้สึกว่ามันซัพพอร์ทเราไม่ค่อยดีเท่าไร ต้องคอยหามุม ตะแคง พลิกตัวก็อาจจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วเหมือนกัน

ฟังดูชีวิตหมอนอาจจะสั้น แต่ลองคิดแบบนี้ครับ เรานอนวันละ 7-8 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าเราใช้หมอนปีละเกือบ 2,500 ชั่วโมงเลยทีเดียว เป็นสิ่งของที่เราใช้เยอะที่สุดในชีวิตชิ้นหนึ่่งเลยก็ว่าได้! การซื้อหมอนที่ดีคือการลงทุนในสุขภาพ (เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นกว่าซื้อจักรยานคันที่หมายตาไว้อีกแน่ะ) ถึงมันจะไม่ใช่อุปกรออกกำลังกาย แต่มันก็มีผลต่อสุขภาพเราโดยตรงครับ

ถ้าไม่ชัวร์ว่าหมอนหมดอายุหรือยัง ทดสอบง่ายๆ ด้วยการ ถอดปลอกหมอน แล้วลองพับหมอนครึ่งนึง ถ้าพับแล้วมันไม่คืนตัวแสดงว่าเสื่อมแล้ว ถ้าหมอนใบใหญ่มาก อาจจะลองพับสามทบดู ถ้าไม่คืนตัวก็ใกล้หมดอายุ หรือถ้าเป็นหมอนที่บรรจุไส้ธรรมชาติ ลองเอาพาดแขนดู ถ้ามันห้อยรั้งแขนเราก็แสดงว่าเสื่อมแล้วเช่นกัน

ถ้าหมอนเริ่มมีรอยเหงื่อ มีกลิ่นอับ หรือขาดก็อาจจะถึงเวลาแล้วด้วย อย่าลืมว่าหมอนก็เป็นที่สะสมสิ่งมีชีวิตมากมาย ทั้งเศษผิวหนังที่ตายแล้ว เหงื่อ ฝุ่น แบคทีเรียอีกต่างๆ นาๆ ซึ่งจะสะสมพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ครับ หมอนที่มีกลิ่นก็อาจจะทำให้เราหลับไม่สนิทด้วย

 

3. เลือกหมอนยังไงดี?

annie-spratt-548180-unsplash

เลือกหมอนก็เหมือนเลือกซื้อรองเท้าครับ เป็นอะไรที่ปัจเจกมาก แต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาด ความหนา ประเภทของไส้หมอน และรูปทรง ท่านอนประจำของเราและแม้แต่เตียงที่ใช้ ลองมาดูทีละปัจจัยครับ เริ่มจากไส้หมอนก่อน

ไส้หมอนขนห่าน (ดาวน์)

หมอนที่ใช้ไส้ขนเป็ดจะได้ความนิ่มมากกว่าไส้แบบอื่นๆ ไส้หมอนประเภทนี้จะทำจากเส้นใยขนเป็ดหรือขนห่านครับ ไส้ขนห่านมักจะนิ่มกว่าขนเป็ดเล็กน้อย และอาจจะมีการผสมไส้อื่นๆ ในตัวหมอนด้วยถึงจะใช้ชื่อว่าหมอนขนห่าน ก็ต้องดูส่วนผสมให้ดีๆ หลายคนมีอาการแพ้หมอนไส้ขนห่าน แต่จากการศึกษาหลายๆ ที่พบว่าอาการแพ้ไม่ได้มาจากตัวขนห่าน แต่เป็นคุณภาพของขนมากกว่าที่อาจจะทำความสะอาดไม่ดีก่อนบรรจุลงไปในหมอน เช่นฝุ่นที่เกาะอยู่บนเส้นใย

ถ้าเราเป็นคนที่แพ้หมอนขนห่านแต่ชอบความนิ่มของมันอาจจะลองดูหมอนขนห่านแบบ hyperdown ที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดมากเป็นพิเศษและเพิ่มสารธรรมชาติ syriaca ที่ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของหมอน แน่นอนว่าราคาก็สูงขึ้นด้วย

ไส้หมอนโพลีเอสเตอร์

ไส้หมอนที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์มักมีราคาถูกกว่าแบบไส้ธรรมชาติและอายุการใช้งานสั้นกว่า หมอนไส้โพลีเอสเตอร์กมีลักษณะนิ่ม แต่ไม่นิ่มเท่าไส้ธรรมชาติ หมอนประเภทนี้ใช้ไปนานๆ แล้วจะเริ่มแบนครับ แต่ข้อดีคือมีราคาถูกที่สุดในบรรดาไส้หมอนทุกประเภท

ไส้หมอนขนสัตว์ (Wool) และไส้ผ้าฝ้าย (Cotton)

ไส้ประเภทนี้เหมาะกับคนแพ้ง่าย และมีคุณสมบัติป้องกันรากับไรฝุ่นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องการควบคุมอุณหภูมิศีรษะและส่วนหลังต้นคอให้ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไปด้วย หมอนวูลจะเฟิร์มกว่าไส้ขนเป็นและไส้โพลีเอสเตอร์ แต่ก็มีระดับความนุ่มให้เลือกด้วยเหมือนกัน ส่วนหมอนผ้าฝ้ายจะแบนและเฟิร์ม

ไส้ยางพารา (latex)

หมอนยางพาราเป็นตัวเลือกที่หลายๆ คนชอบเพราะมีความเฟิร์มแน่นในตัวกว่าไส้ธรรมชาติอย่างรู้สึกได้ และรักษารูปทรงหมอนไว้ดี ยางพาราเองมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและไรฝุ่น หมอนยางพาราหลายๆ รุ่นมีรูปทรงเฉพาะที่ออกแบบมาให้ลดการขยับตัวของผู้นอน แต่ถ้าชอบทรงปกติก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน

ไส้เมมโมรีโฟม

ไส้หมอนประเภทนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดด้วยคุณสมบัติเปลี่ยนรูปทรงให้เข้ากับสรีระเราอัตโนมัติ และช่วยกระจายน้ำหนักได้เท่าเทียมกันตลอดทั้งใบเหมาะกับคนที่มีอาการปวดคอ ปวดไหล่ แต่จะเป็นหมอนที่ระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าประเภทอื่นๆ รวมถึงอาจจะมีกลิ่นเคมีเจือๆ อยู่เล็กน้อย คนที่ชอบนอนหมอนโปร่งๆ อาจจะไม่ชอบครับ

 

4. ขนาดหมอนสำคัญแค่ไหน?

bed-bedroom-blanket-545012

สำหรับคนส่วนใหญ่ หมอนไซส์ปกติก็กว้างพอใช้อยู่แล้ว แต่ถ้าชอบใบใหญ่กว่าไซส์มาตรฐานก็ใช้ได้เหมือนกัน นอกจากความกว้างแล้ว ความหนาและบางของหมอนก็สำคัญไม่แพ้กัน จะหนาหรือบางเท่าไรขึ้นอยู่กับความชอบและท่านอนครับ สำคัญคือต้องทำให้เราได้ท่านอนที่กระดูกสันหลังอยู่ในแนวเดียวกับคอ ศีรษะและไหล่ อย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่รู้สึกไม่สบายตัว

 

5. ต้องเลือกหมอนตามท่านอนหรือเปล่า?

quin-stevenson-14889-unsplash

ท่านอนจะเป็นตัวกำหนดรูปทรงหมอนที่เราใช้ครับ แต่ก็ไม่ได้มีกฏตายตัวเสมอไป เพราะคนเราไม่ได้นอนท่าเดียว ถึงเราจะนอนตะแคงเป็นหลักเราก็อาจจะพลิกไปนอนหงายหรือนอนคว่ำระหว่างคืนได้ด้วย เช่นนั้นแล้วเราต้องเลือกหมอนที่นอนสบายในทุกๆ ท่า มีกรอบการเลือกง่ายๆ ดังนี้

คนนอนตะแคงควรเลือกหมอนที่เนื้อแน่นและหนากว่าปกติ ต้องหนาประมาณไหน? ควรหนาประมาณระยะห่างระหว่างหูถึงขอบหัวไหล่ครับ

ส่วนคนนอนคว่ำควรเลือกหมอนที่นิ่มสักหน่อย หรือบางทีไม่ต้องใช้หมอนเลยก็ได้ ถ้านอนคว่ำเป็นประจำอาจจะใช้หมอนหนุนใต้ท้องหรือกระดูเชิงกรานแทนเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง

คนที่นอนหงายควรใช้หมอนที่ไม่หนามากเพื่อให้กระดูกสันหลังกับศีรษะอยู่ในระนาบที่เป็นธรรมชาติ แต่ถ้ามีอาการปวดคอประจำ หรือมีอาการ office syndrome อาจจะหาหมอนที่ไม่หนามากแต่เฟิร์มนิดนึงเพื่อช่วยซัพพอร์ทคอครับ

ท้ายสุด ถ้าที่นอนเราแน่น แข็งก็ต้องเลือกหมอนที่นิ่มสักหน่อยจะได้เผื่อให้หมอนให้ตัวรับน้ำหนักศีรษะเราได้และมีระยะยุบพอดีๆ เช่นเดียวกันหากเรามีที่นอนที่นิ่มก็ต้องเลือกหมอนที่แน่นขึ้น ไม่งั้นทั้งหมอนและที่นอนจะยวบเกินไปและนอนไม่สบายครับ

* * *

Ducking Tiger ขอบคุณ Slumberland Thailand ที่เป็นสปอนเซอร์เนื้อหาตอนนี้และช่วยสนับสนุนของรางวัลครับ หมอนในภาพ (ตัวที่แจก) นี้คือหมอนยางพารารุ่น Slumberland Latex Contour Pillow

DT ลองใช้มาเดือนนึงแล้ว หมอนตัวนี้จะเป็นหมอนไส้ยางพาราที่มีความเฟิร์มดีทีเดียวครับ จะซัพพอร์ทคอ บ่า ไหล่ได้ดี คนที่มีปัญหาคอบ่าไหล่และคนนอนตะแคง / นอนหงายน่าจะชอบ หมอนมีความยืดหยุ่นและรักษาทรง ไม่ต้องตบคืนตัวครับ ไม่อมความร้อนเท่าไร

ดีเทล์งานทำมาเนี้ยบใช้ได้ ไส้ใช้ยางพาราเกรดสูง เก็บงานด้วยผ้าเย็บตรึง Cotton Knitted Fabric เคลือบสารป้องกันไรฝุ่น เชื้อราและแบคทีเรียด้วย สนใจหมอนรุ่นนี้ลองไปช็อปกันได้ที่

http://slumberland.co.th/ และ http://bit.ly/2qRCsS5 และ Showroom Slumberland ทุกสาขาครับ!

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *