วันนี้เราจะมาดูกันเรื่องการเข้ากลุ่มเบรคอเวย์หรือกลุ่มหนีนั่นเอง อันดับแรกมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเบรคอเวย์คืออะไร?
Breakaway คืออะไร?
เบรคอเวย์คือกลุ่มนักปั่นที่ร่วมกันหนีออกไปข้างหน้ากลุ่มหลักเพื่อผลทางเกมการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการหนีรอดไปคว้าแชมป์ที่เส้นชัย เพื่อดักสกัดคู่ต่อสู้ หรือเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมภายในกลุ่ม
ในการแข่งขันจักรยานระดับอาชีพที่เราชมกันในโทรทัศน์ เบรคอเวย์มีโอกาสน้อยมากที่จะหนีรอดไปได้ เพราะนักปั่นสามารถสื่อสารกันผ่านวิทยุและคำนวนเวลาไล่จับกลุ่มหนีก่อนถึงเส้นชัย แต่สำหรับนักปั่นสมัครเล่นอย่างเราๆ กลุ่มเบรคอเวย์มักจะเป็นนักปั่นที่แข็งแกร่งที่สุดในงานเสมอ เพราะฉะนั้นหากเราแกร่งพอจะเข้ากลุ่มเบรคอเวย์ได้ โอกาสชนะหรือทำอันดับดีๆ นั้นย่อมมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
1. จับตามองขาแรง
ถ้าคุณเข้าแข่งบ่อยๆ จะเริ่มรู้ว่าคนไหนฟอร์มดี แกร่งพอจะลุยหนีเข้ากลุ่มเบรคอเวย์ได้สำเร็จ เราอาจจะรู้จักตัวเต็งประจำสนามหรือเห็นท่าทางและการวางตำแหน่งของเขาซึ่งมักจะอยู่แถวหน้าๆ กลุ่มในจุดสำคัญเสมอๆ (พร้อมออกยิง) ลองสังเกตว่าเขาปั่นยังไงและตัดสินใจออกยิงตอนไหน ถ้าเราหมายหัวตัวเต็งพวกนี้ไว้ได้ก็จะไม่เสียจังหวะมากเวลาออกไล่ตอนที่เขายกทำเกมหนี
2. กะเวลาให้ดี
การชิงออกหนีกลุ่มเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่ใช่ทุกเวลาหรือทุกที่ที่เราจะออกยิงหนีได้สำเร็จ เช่นถ้ามีลมต้านแรงการหนีกลุ่มย่อมเป็นเรื่องยากเพราะเราต้องออกแรงมากกว่าคนในกลุ่มหลายเท่า (ยกเว้นจะแกร่งจริงๆ) เช่นเดียวกับการพยายามออกหนีในจังหวะลงเขา ซึ่งถ้าคุณไม่กล้าบ้าบิ่นหรือลงเขาได้เด็ดขาดจริงๆ ก็ยากที่จะหนีคนอื่นได้ไกล
จังหวะที่ดีในการออกหนีคือทางขึ้นเนินที่ทุกคนจะต้องผ่อนแรง หรือเมื่อมีลมส่งมาจากตรงท้ายจะช่วยให้เราไปจนพ้นสายตากลุ่มได้ไวขึ้น
3. เลือกจังหวะโจมตีให้เหมาะสม
เมื่อเราอยู่หน้าสุดของกลุ่มและพยายามออกหนี ทุกคนที่ตามเราเขาเห็นชัดเจนตั้งแต่จังหวะที่เราออกตัวซึ่งหมายความว่าจะถูกประกบได้ทันที การหนีกลุ่มให้ได้สำเร็จมาจากปัจจัยหลายประการทั้งความเด็ดขาด (ความแข็งแรงของเราในการกระชากออกไป) และจังหวะที่ทำให้คู่แข่งเผลอออกตัวตามไม่ทัน การเปิดตัวจากกลางๆ กลุ่ม (ค่อนไปทางข้างหน้า) จะได้ประโยชน์กว่าเพราะคนข้างหน้าจะไม่ทันมองเห็นว่าเราออกกระชากไปแล้ว ยิ่งทิ้งระยะห่างกับแถวหน้าสุดของกลุ่มในช่วงแรกได้ไวเท่าไร ก็ยิ่งมีสิทธิรอด อย่าลืมว่าเกมการแข่งจักรยานนั้นเกินครึ่งมาจากจิตใจ ถ้าเขาเห็นว่าระยะมันห่างจนตามไม่ไหวก็อาจจะถอดใจไปเอง
4. ออกตัวแรง
จังหวะแรกในการกระชากหนีกลุ่มต้องรุนแรงเด็ดขาดเหมือนการสปรินต์ เพื่อทำระยะห่างให้ได้มากที่สุด ถ้าเราไม่ทุ่มเต็มที่ก็จะโดนตามได้ในไม่ช้า แต่ถ้ากะแรงไม่ดีสปรินต์จนหมดก๊อกก็ถือว่าหนีออกมาเสียเปล่า เรื่องนี้ต้องอาศัยประสบการณ์กะเกณฑ์แรงของตัวเองด้วยการฝึกบ่อยๆ ครับ
เมื่อคิดว่าหนีได้สำเร็จ ลองหันกลับไปดูข้างหลังว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ถ้ายังไม่ห่างมากและคิดว่าจะโดนจับก็ให้ชะลอ ไม่มีความจำเป็นต้องเปลืองแรงหนีต่อไป รอออกอีกครั้งกับกลุ่มข้างหลัง
5. ถ้าหนีได้สำเร็จ
กรณีที่เราหนีได้สำเร็จมากับนักปั่นคนอื่นๆ ก็ควรจะเริ่มช่วยกันทำงานตั้งขบวนหนีออกให้ห่างขึ้นอีก gap แค่ 20 วินาทีนั้นโดนปิดได้ง่ายๆ ถ้ากลุ่มข้างหลังตั้งใจช่วยกันไล่เรา แต่ถ้าเราเริ่มหนีไปได้ไกลเกิน 20-30 วินาที กลุ่มหลังจะเริ่มถอดใจและอาจจะปล่อยให้เราออกไปได้ หมายความว่าถ้าคุณหนีช่วงแรกได้สำเร็จก็ต้องปั่นหนักๆ ทำระยะห่างออกไปอีกจนข้างหลังเลิกตาม หนีให้ได้อย่างน้อยๆ สัก 1 นาทีค่อยผ่อนแรงลง
เราอาจจะใช้การตั้งขบวนเดี่ยวหรือขบวนคู่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะตกลงกับเพื่อนร่วมหลบหนีแบบไหน แต่ให้ดูสภาพภูมิประเทศด้วย ถ้าถนนแคบและมีนักปั่นน้อยก็ไม่ควรตั้งสองขบวนเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ดีอย่าคาดหวังว่าทุกคนจะช่วยเราครับ ยังไงมันก็คือเกมการแข่งขัน บางคนอาจจะต้องการประหยัดแรงไม่ยอมช่วยขึ้นลากเพื่อหวังรอสปรินต์ชิงชัยก็มีให้เห็นบ่อยไป เพราะสุดท้ายผู้ชนะมีได้คนเดียว แต่สำหรับเบรคอเวย์นั้น การช่วยเหลือกันย่อมมีประโยชน์กว่า จะได้เป็นการการันตีว่าคุณหนีได้สำเร็จ แล้วพอใกล้ถึงหน้าเส้นชัย จะโยกย้ายสับขาหลอกกันยังไงก็ปล่อยให้มันเดินตามรูปเกม
สรุป
การเข้ากลุ่มเบรคอเวย์ได้สำเร็จเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและท้าทายมากๆ ในการแข่งขันจักรยาน เพราะนอกจากมันจะทดสอบความแกร่งของคุณในด้านร่างกายแล้ว ด้านจิตใจคุณต้องคอยคำนวน ความเร็ว เวลา และระยะห่างระหว่างกลุ่มหนีและกลุ่มไล่ว่าเราจะไปได้รอดหรือเปล่า และจะรอดได้นานแค่ไหน เป็นอะไรที่เราควรฝึกกันครับ เป็นการฝึกและกระตุ้นทักษะการแข่งขันที่ดีมากๆ เลย