อันตรายจากการชนหรือล้มบนจักรยานเสือหมอบมีแนวโน้มที่จะรุนแรงกว่าจักรยานประเภทอื่น เพราะรถเสือหมอบโดยธรรมชาติถูกออกแบบมาให้ปั่นด้วยความเร็วสูง เสือหมอบไสตล์แข่งขันก็มักจะมีท่อรถและองศาที่เน้นความเร็วมากกว่าการควบคุม หากผู้ปั่นประมาทชะล่าใจก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายครับ แต่อุบัติเหตุใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้ ถ้าเรามีสติและระมัดระวัง วันนี้มาดูลักษณะการขี่ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ และวิธีป้องกันเบื้องต้นกันครับ
1. อย่าขี่ซ้อนล้อ

กฏเหล็กในการปั่นกลุ่มกับคนอื่นๆ คือถ้ารากำลังปั่นตามก้นคนข้างหน้า อย่าเอาล้อหน้าเราไปซ้อนล้อหลังคนอื่นโดยเด็ดขาด ให้ขี่ตามไปทิ้งระยะห่างระหว่างล้อไว้เล็กน้อย เหตุผลที่เราไม่ควรซ้อนล้อเพราะว่าหากคนข้างหน้าต้องการจะเบี่ยงรถออกข้าง อาจจะเพราะจำเป็นต้องหลบหลุมฉุกเฉิน หรือออกแซงคันข้างหน้า ล้อหลังเขาก็จะเกี่ยวล้อหน้าเราพากันล้มทั้งคู่ทันที บางโอกาสการซ้อนล้อก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ควรส่งสัญญาณให้คนข้างหน้ารู้ว่าซ้อนกันอยู่ ถ้าเป็นไปได้ อย่าซ้อนดีกว่าครับ
2. อย่าเหลียวหลังเวลาได้ยินเสียงรถชนข้างหลัง

ถ้าได้ยินเสียงคนล้มหรือชนกันข้างหลังเราไปไม่ไกลมาก อย่าหันขวับไปดูทันที เพราะมีสิทธิที่เราจะชนคันข้างหน้าล้มได้อีก เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีคนปั่นด้วยกันหลายๆ คน สถานการณ์แบบนีอาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่เราก็ไม่ควรเสี่ยงครับโดยเฉพาะเวลาขี่กันบนถนนใหญ่
3. อย่ากดเบรคหน้าแรงๆ เวลาเข้าโค้ง

อาการล้มตอนเข้าโค้งส่วนใหญ่คือล้อหน้าล๊อค รถเสียศูนย์.. คนปั่นปลิวไปกับถนน… เวลาเราเบรค น้ำหนักที่กดลงบนจักรยานจะเคลื่อนตัวจากด้านหลังไปด้านหน้า ถ้าการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน (กำเบรคหน้าหนักเกินไป) ล้อหน้าจะไม่สามารถเกาะถนนได้ทันทำให้รถไสลด์ได้ง่าย ให้เบรคผ่อนก่อนที่จะเข้าโค้งจะปลอดภัยกว่า ถ้ารู้สึกว่าเข้าโค้งเร็วเกินไปให้นั่งตัวตรงขึ้น หันรถให้ตรงก่อน กดเบรคหลังเบาๆ ผ่อนความเร็ว แล้วหันรถเข้าโค้งอีกครั้ง ปกติเบรคหน้าจะมีแรงเบรคมากกว่าเบรคหลังค่อนข้างเยอะ การกำเบรคหน้าอย่างเดียวแรงๆ ก็ควรหลีกเลี่ยง ไม่งั้นเดี๋ยวจะตีลังกาเอาได้
4. ถ้าถนนเปียก…

ให้ปล่อยยางลมเล็กน้อยจะทำให้ล้อเกาะถนนได้ดีขึ้น และถ้าต้องขับบนถนนลาดยาง อย่าปีนเส้นขอบถนน เพราะมันจะลื่นนนนนน ทำให้ล้มเอาได้ง่ายๆ
5. มองข้างหน้า
ให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหน้า หัดเป็นคนช่างสังเกตขึ้นนิดนึง โดยเฉพาะเวลาที่ปั่นทำความเร็ว เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้อย่างฉับพลันครับ ถ้าคน รถ สุนัข แมวตัดหน้ากระทันหัน น้อยคนที่จะมีประสาทสัมผัสไวพอจชะลอรถไม่ให้ชนหรือล้มอย่างรุนแรง สิ่งสำคัญคืออย่าให้มันเกิดขึ้นแต่แรกเสียดีกว่า สังเกตสภาพถนน อากาศ ทิศทางลม สภาพการจราจร และคนที่ปั่นอยู่ข้างหน้าเรา
6. ระวังเวลาแซง
ถ้ามีคนปั่นจักรยาน หรือมีมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างหน้าเรา ให้ดูดีๆ ก่อนจะแซงโดยเฉพาะบนถนนเปิด อย่าแซงซ้ายถ้าไม่จำเป็นหรือมั่นใจว่าปลอดภัยจริงๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเวลาโดนแซง คนที่แซงจะแซงทางขวา ถ้ารถที่เรากำลังจะแซงซ้ายเขาหลบเข้าเลนกระทันหันก็จะตัดหน้าเราทันที[divider] [/divider]
X. ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้….

อุบัติเหตจากการปั่นจักรยาน บางครั้งก็สุดวิสัย เหนือความควบคุมจริงๆ แต่เราก็ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ครับ สัญชาติญาณมนุษย์เวลาเราต้องล้ม ชน หรือกระเด็น คือยกมือไม้ขึ้นป้องกันศีรษะกระแทกพื้นครับ สังเกตถ้าเราหกล้ม เราจะยกมือขึ้นมายันพื้นก่อนเลย ซึ่งจริงๆ แล้วอันตรายมากสำหรับคนปั่นจักรยานครับ ถ้าจะล้มควรเก็บไม้เก็บมือ เก็บคอ เวลาล้มแล้วยื่นแขนออกมาค้ำพื้นจะเสี่ยงกระดูกไหปลาร้าหัก ไหล่หลุด ข้อมือหัก หรืออย่างเบาก็ซ้นไปหลายวัน
อย่างไรก็ดี อุบัติเหตแต่ละครั้งย่อมไม่เหมือนกัน ไม่มีสูตรสำเร็จว่าวิธีไหนจะลดความเสียหายและอาการบาดเจ็บได้ดีที่สุด ก็ต้องใช้วิจารณญาณและอย่าให้มันเกิดขึ้นจะดีที่สุดครับ เมื่อต้นอาทิตย์เราก็คงได้ข่าวสองสามีภรรยาชาวอังกฤษ ปีเตอร์ รูท และแมรี่ทอมสัน ที่พยายามปั่นจักรยานรอบโลก แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลงบนถนนประเทศไทย ด้วยความประมาทของคนขับรถ ก้มลงไปหยิบของไม่มองถนน… บางทีเราปั่นของเราดีๆ มีสติแล้ว ก็อาจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ยังไงก็ต้องระวังครับ ถนนประเทศไทย…ไม่ธรรมดา
สถิติเตือนใจ
- ในอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์กับจักรยาน.. กว่า 95% คนปั่นจักรยานจะบาดเจ็บสาหัส
- อุบัติเหตุที่เกิดระหว่างการปั่นจักรยานกว่า 25% เกิดขึ้นกับเด็กวัย 5-15 ปี (ถ้าเห็นเด็กบนถนน ระวังเด็ก… ลดความเร็ว เด็กเล็กอาจจะออกซ้ายออกขวาได้ตามธรรมชาติของเด็กครับ)
- ในบรรดากีฬาเกือบทั้งหมด นักกีฬาจักรยานมีอัตราเข้าห้องฉุกเฉินเยอะที่สุด
- สาเหตการเสียชีวิตสูงสุดที่เกิดจากการปั่นจักรยานคือ ศีรษะกระแทกพื้น (อย่าลืมใส่หมวก)
ปลอดภัย ไว้ก่อน นะครับ พี่น้องชาว จักรยาน..
โดนเเล้วครับข้อเเรกเลย
ปั่นจักรยานอย่างปลอดภัย ปลอดภัยไว้ก่อน ไว้เตือนตัวเองด้วย
ขอให้ปั่นด้วยความสุข และสนุก ปลอดภัยทุกท่านครับ