สิ่งที่ทำให้คนทั้งโลกหลงใหลการแข่งขันจักรยานสนามคลาสสิคแบบวันเดียวจบนั้นคงเปรียบได้กับการชมภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง ทว่ามันกลับเป็นภาพยนตร์ที่เราคาดเดาอะไรไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ในบางครั้งก็น่าเบื่อชวนหาวนอน แต่ในหลายครั้งมันก็สนุกตื่นเต้นจนเรานั่งไม่ติดเก้าอี้
สนามแข่ง Omloop Het Niewsblad เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเข้าตำราประเภทหลังแบบไม่ต้องสงสัยเมื่อ Ian Stanard จากทีม Sky คว้าชัยชนะเหนือ Greg Van Avermaert (ขอย่อว่า GVA) จากทีม BMC ด้วยการเบรคอเวย์คู่ออกจากกลุ่มร่วม 20 กิโลและเฉือนกันที่หน้าเส้นชัยแบบเฉียดฉิว อันดับสามตามมาไม่ห่างกันเป็น Edvald Boassan Hagen อีกหนึ่งดาวรุ่งคลาสสิคจากทีม Sky เช่นเดียวกัน
ความสำเร็จของทีม Sky ที่ส่งนักปั่นขึ้นโพเดียมคู่เป็นชัยชนะสนามคลาสสิคครั้งแรกในรอบ 500 วัน แชมป์คลาสสิคครั้งล่าสุดของทีมต้องย้อนกลับไปถึงปี 2010 ที่ Juan Antonio Flecha (รีไทร์แล้ว) คว้าแชมป์รายการเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในการแข่งสเตจเรซ แต่ Sky กลับแข่งวันเดียวได้ไม่ดีเลย ในฤดูกาล 2013 ทีม Sky ถูกคู่แข่งเย้ยหยันที่เปลี่ยนวิธีการเตรียมตัวสนามคลาสสิคด้วยการเก็บตัวบนค่ายซ้อมความกดอากาศต่ำจากปกติที่แต่ละทีมจะเน้นการสร้างฟอร์มจากการลงแข่งจริง ผลลัพธ์คือทีมไม่สามารถคว้าแชมป์ได้สักรายการในขณะที่แชมป์เปี้ยน Roubaix อย่าง Cancellara แสดงให้เห็นว่าการซ้อมแบบดั้งเดิมยังได้ผลดีอยู่
The race, replayed
Omloop ปีนี้ถือว่าคึกคึกเป็นพิเศษเพราะทีมยักษ์ใหญ่ 4 ทีมส่งผู้เชี่ยวชาญสนามวันเดียวมาลงโดยฉพาะ เริ่มจากตัวเต็งที่ DT คาดว่าจะชนะ Omega Pharma-Quickstep ที่โชว์ฟอร์มกราดเกรี้ยวใน Tour of Qatar ขนมาทั้ง Stybar, Vandenbergh, Terpstra และ Tom Boonen ส่วน BMC ไม่น้อยหน้ามีทั้ง Greg Van Avermaert, Taylor Phinney, Thor Hushovd เช่นเดียวกับ Belkin ที่นำทัพโดย Sep Vanmarcke, อันดับ 2 Paris-Roubaix ปีที่แล้ว
ที่จุด 45 กิโลเมตรสุดท้าย BMC คำนวนพลาดส่งนักปั่นเข้ากลุ่มหนีไม่ทันเมื่อ Kenneth Van Blisen (Topsport Vlaanderen) ตัดสินใจยกเกมดึงเอาขาแรงไปด้วย 6 คน Niki Terpstra (OPQS), Lars Boom (Belkin), Edvald Boassan Hagen (Sky), Egoitz Garcia (Cofidis), Arnaud Demare และ Yoan OFfredo (FDJ)
ทว่าโชคของกลุ่มหนีก็หมดลงทันทีเมื่อ Lars Boom ยางรั่ว ประกอบกับสภาพถนนหินขรุขระ เนินชัน ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาตลอดเวลาและอุณหภูมิหนาวเกือบติดลบ ส่งผลให้พลังขับเคลื่อนของกลุ่ม breakaway หายไปกว่าครึ่งและถูกรวบโดย Belkin ที่พยายามไล่ขึ้นมาช่วย Lars Boom ในที่สุด
ในการแข่งสนามคลาสสิคระดับดิวิชัน 2 นักปั่นไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้วิทยุสื่อสารประกอบกับสภาพการแข่งที่ยากกว่ารายการสเตจเรซทำให้สไตล์การแข่งจะเน้นไปที่การออกโจมตี ไล่จับกลุ่มหนี และโจมตีซ้ำ จนในช่วงสุดท้ายเราเหลือกลุ่มนักปั่นที่แกร่งที่สุดไม่กี่คน หัวหน้าทีมส่วนมากจะเหลือตัวคนเดียวไม่มีโดเมสติกช่วยอีกต่อไป ทว่าใน Omloop ครั้งนี้ทีม Sky เหลือนักปั่นถึง 3 คนในช่วงสุดท้าย ทันทีที่กลุ่มหนีโดนจับที่ 17 กิโลเมตรสุดท้าย Ian Stanard ยกเครื่องหนีทันที ไล่ตามมาติดๆ โดย Van Avermaert จาก BMC บังคับให้ Belkin และ BMC ที่ไล่ตามไม่ทันต้องทำงานนำขบวน peloton
เมื่อเห็นท่าไม่ดีดูทีว่าจะจับทั้งคู่ไม่ได้ Sep Vanmarcke, Niki Terpstra พยายามออกไล่ แต่มี Edvald Boassan Hagen ขึ้นมาเกาะอีกหนึ่งคน ในกลุ่ม 3 คนนี้ Boassan Hagen เป็นสปรินเตอร์ที่เท้าไวที่สุด EBH รู้แน่นอนว่าถ้า Stanard เครื่องตก เขาก็พร้อมกระทืบซ้ำทันที
เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ
ที่ 3 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย Van Avermaet และ Stanard สลับกันขึ้นนำ กลุ่มหลังตามมาได้ใกล้สุดเพียง 10 วินาที โดยปกติแล้ว GVA คือคนที่สปรินต์ได้ดีกว่า Stanard แต่เขาก็เป็นคนที่มักจะพลาดท่าในช่วงสำคัญมาตลอดชีวิตเช่นกัน จุดเด่นของ Stanard คือพละกำลังต่อเนื่องมหาศาลแต่ขาดซึ่งแรงกระชาก เขารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถสปรินต์ชนะ GVA ได้แน่นอน
รู้เช่นนั้นแล้ว เขาใช้แทคติคเดียวที่ทำให้เขาได้ที่ 6 ใน Milan-San Remo ปีที่แล้ว Stanard ยก “สปรินต์” ที่ 300 เมตรหน้าเส้นชัย มันอาจจะดูเชื่องช้า และไม่ดุเดือดเหมือนการสปรินต์ของ Mark Cavednish แต่ความหนักหน่วงและความเร็วของมันก็มากพอที่จะหยุดไม่ให้ GVA ขึ้นแซงได้เลย
ความกล้าตัดสินใจ ความอึดและความมุ่งมั่น นำมาซึ่งตำแหน่งแชมป์รายการเซมิ-คลาสสิคสนามแรกสำหรับชาวอังกฤษวัย 26 ปีคนนี้ แต่ในมุมกลับมันก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ Van Avermaert ต้องกลับบ้านพร้อมกับความผิดหวังตัวโต
สีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวที่หน้าเส้นชัยของทั้งคู่คงสื่อถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดีเกินกว่าคำบรรยายใดๆ ครับ
ผลการแข่ง 2014 Omloop Het Nieuwsblad
1. Ian Stannard (GBr) Sky in 4-49-55
2. Greg Van Avermaet (Bel) BMC Racing at same time
3. Edvald Boasson Hagen (Nor) Sky at 24 secs
4. Sep Vanmarcke (Bel) Belkin
5. Niki Terpstra (Ned) Omega Pharma-QuickStep at same time
6. Jempy Drucker (Lux) Wanty-Groupe Gobert at 1-34
7. Taylor Phinney (USA) BMC Racing
8. Dries Devenyns (Bel) Giant-Shimano
9. Egoitz Echeguibel (Spa) Cofidis
10. Arnaud Demare (Fra) FDJ at same time
เทปการแข่งตัวเต็ม (2 ชั่วโมง)
[separator type=”double”]
ส่งท้าย
– ถึง OPQS จะเป็นทีมที่ดูแกร่งที่สุด แต่ Tom Boonen ให้สัมภาษณ์ทีหลังว่าเขาหนาวสั่นจนปั่นไม่ออก อากาศหนาวเย็นจนแทบจะติดลบเป็นเสมือนศัตรูตัวฉกาจ เพื่อนร่วมทีม OPQS ก็เจออการเดียวกัน
– OPQS ล้างแค้นได้สำเร็จในวันรุ่งขึ้นที่ Kuurne-Brussel-Kuurne
– Thor Hushovd (BMC) ล้มระหว่างแข่ง ข่าวตอนแรกบอกว่าไหปลาร้าหัก (ดับฝันไปอีกหนึ่งปี) แต่ทีมรายงานว่าไม่มีอะไรแตกหัก
– พรุ่งนี้มาต่อกันกับ ย้อนรอย Kuurne-Brussel-Kuurne ครับ
ออกเสียงให้ถูก
– Ian Stanard (เอียน แสตนนาร์ด)
– Greg Van Avermaert (เกรก แวน อเวอร์มาร์ท)
– Sep Vanmarke (เซป แวนมาร์ค)
– Niki Terpstra (นิกี เทิร์ปสตรา)
– Thor Hushovd (ธอร์ อุชชอฟ)
– Edvald Boassan Hagen (เอดวาล์ด โบซซัน ฮาเกน)
– Arnaud Demare (อานอร์ด เดอแมร์)
– Yoaan Offredo (โยอาน ออฟฟรีโด)
สนุกมาก ขอบคุณครับ
ปล.ชอบภาพนิ่งมากกว่า
เป็นอีกหนึ่งมุมอับของความเจ็บปวด
Thor Hushovd (ธอร์ อุชชอฟ) —- พึ่งรู้ว่าออกเสียงงี้ วันนี้ละครับ หุหุ
ชอบตรงหัวข้อ “ออกเสียงให้ถูก” จังเลยเพราะบางทีก็สะกดคำไม่ถูกเหมือนกาน อิอิ
บรรยายและคลิบประกอบทำให้ตื่นเต้นและเหนื่อยตามเลยครับ
ขอบคุณมากครับ มันส์มากๆ เฝ้ารอคอยงานแข่งต่อไปนะครับ ผมติดตามทุกวันเลย