ว่ากันว่าการแข่งขันจักรยานเป็นหนึ่งในกีฬาที่คาดเดาผู้ชนะได้มากที่สุด ในหนึ่งสนามที่มีนักแข่งร่วมสองร้อยชีวิตแต่ผู้ชนะมีได้แค่คนเดียว คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าใครมีโอกาสที่สุด?
เอียน สแตนนาร์ด เอซจากทีม Sky ป้องกันแชมป์สนามคลาสสิครายการแรกของปี: Omloop Het Nieuwsblad ได้สำเร็จ ถ้าคุณอ่านแค่พาดหัวข่าวมันอาจจะเป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจ เพราะปีก่อนเขาก็ชนะ ทำไมปีนี้จะชนะไม่ได้?
ปีที่แล้วสแตนนาร์ดเอาชนะเกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท นักปั่นจอมบู๊จาก BMC ในสถานการณ์ที่มีลุ้นแบบ 50-50 เรียกว่ายาก แต่ถ้าแรงและใจถึง ก็ทำได้
แต่เมื่อคืนนี้ สแตนนาร์ดคว้าแชมป์ Omloop จากสถานการณ์ที่ ถ้าจะเรียกว่า “เป็นไปไม่ได้” ก็คงจะไม่เกินจริง เมื่อเขากระชากหนีกลุ่ม peloton ออกมากับตัวเต็งจาก Etixx-Quickstep สามคน – ทอม โบเน็น, นิกี้ เทิร์ปสตรา, และสไตน์ แวนเดนเบิร์ก 3 คนที่แกร่งระดับหัวหน้าทีม สแตนนาร์ดเอาชนะได้อย่างไร? เรามารีวิวย้อนรอยเหตุการณ์เมื่อคืนกันครับ
The Start
เริ่มการแข่งขันได้ไม่นานเบรคอเวย์ก็หนีไปได้ทั้งหมด 7 คน แต่เป็นกลุ่มหนีที่ไม่น่ากลัวนัก มีตัวโหดแค่สองคนคือแมท บราเมียร์ (MTN) และอัลเบิร์ต ทิมเมอร์ (Giant-Alpecin) ด้านหลังเราเห็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในสนามคลาสสิค เมื่อทีม Sky ขึ้นนำกลุ่ม peloton ไล่จับเบรคอเวย์พร้อมป้องกันกัปตันทีมไม่ให้หลุดไปอยู่หลังกลุ่ม – ต้องบอกว่า Sky ไม่ใช่ทีมที่ “แข็ง” มากในสนามคลาสสิค ถึงจะเคยชนะรายการลักษณะนี้ประปราย (Sky เป็นแชมป์ Omloop 2 ครั้ง) แต่ก็ยังถือว่าไม่มีผลงานในรายการใหญ่ระดับ Roubaix หรือ Flanders
แบรดลีย์ วิกกินส์ เมื่อคืนนี้ทำงานในฐานะซุปเปอร์โดเมสติกตั้งเพซกลุ่มไล่เก็บเบรคอเวย์จนเกลี้ยง (วิกกินส์เกิดในเมือง Ghent – สถานที่แข่งสนาม Omloop) เราได้เห็นเสื้อเหลืองของ LottoNL ทีมของเซป ฟานมาร์ค อีกหนึ่งตัวเต็งและอดีตแชมป์ปี 2012 ขึ้นช่วย Sky บ้างประปราย
70 กิโลเมตรสุดท้าย เบรคอเวย์เหลือรอดเพียง 3 คน ทีม Sky ตัดสินใจส่ง ลุค โรว์ กระชากหนีกลุ่ม peloton โรว์ไล่ทันเบรคอเวย์ด้านหน้า ทว่าเป็นการโจมตีที่อยู่รอดไม่นาน เมื่อทอม โบเน็นพา Quickstep ขึ้นรวบเบรคอเวย์ทั้งหมด แล้วออกสะบัดกลุ่มบนเนิน Taaienberg นำห่างได้ทันที เซป ฟานมาร์ค (LottoNL), สตีฟ ไชเทล (Cofidis), เอียน สแตนนาร์ด (Sky) ออกไล่โบเน็น ส่วน Quickstep เลือกนิกี้ เทิร์ปตราและสไตน์ แวนเดนเบิร์กตามประกบกัปตันทีม
ฟานมาร์คตามกลุ่มนำได้ไม่นานก็ต้องเสียจังหวะเมื่อเขายางรั่วและต้องจอดเปลี่ยนล้อ ขณะเดียวกัน โบเน็นไม่รอให้เสียเวลา เร่งความเร็วทิ้งกลุ่มซ้ำอีกรอบ จนถึงเนิน Leberg ที่ 40 กิโลเมตรสุดท้าย กลุ่มหน้าตอนนี้เหลือเพียง Quckstep 3 คนและ Sky 1 คน
กลุ่มของโบเน็นนำห่าง peloton ร่วม 45 วินาที ด้านหลัง ฟานมาร์ค จับกลุ่มกับแวน เอเวอร์มาร์ท (BMC) แต่ไม่วายมีซเน็ก สไตบาร์ (OPQS) ตามมาเป็นก้างขวางคอ กลุ่มของฟานมาร์คไล่กลุ่มโบเน็นที่ราว 15-25 วินาที ฟานมาร์คพยายามไล่จับกลุ่มโบเน็นสุดชีวิต ถึงแม้ที่สุดแล้วเขาจะไล่ไม่ทัน แต่เขาคงไม่รู้ว่าตัวเองคือมือสังหารที่ทำให้ฝัน Quickstep ต้องสลายในคืนนี้
The Tactical Game
ลองจินตนาการเกมการแข่งขันตอนนี้ – Quickstep ถือไพ่เอซถึง 4 ใบ – ทีมมีตัวเต็ง 3 คนคุมเกมอยู่ในกลุ่มหน้าสุด ระยะทางเหลือแค่ 40 กิโลเมตร ส่วนกลุ่มหลังที่คู่แข่งตัวโหดอย่างฟานมาร์คและแวน เอเวอร์มาร์ทไล่มาก็มีสไตบาร์คอยถ่วงอยู่ กลับกัน สแตนนาร์ดมาคนเดียวโดดเดี่ยวไร้ผู้ช่วย มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะเอาชนะเจ้าพ่อคลาสสิคจากเบลเยี่ยมทั้งสามคนที่เขาปั่นตามอยู่
แต่ปัญหาอยู่ที่กลุ่มไล่ข้างหลังครับ ฟานมาร์คไล่เข้ากลุ่มโบเน็นแบบถวายหัว ซึ่งทำให้กลุ่มหน้าก็ต้องหนีกันเต็มที่เหมือนกัน จุดหนึ่งฟานมาร์คไล่เข้าใกล้ห่างแค่ 15 วินาที จนสแตนนาร์ดต้องเวียนขึ้นมาช่วย 3 ทหาร Quickstep สิ่งที่เกิดขึ้น Quickstep เริ่มเหนื่อยและเริ่มไม่แน่ใจในกลยุทธ์ของทีม ส่วนสแตนนาร์ดที่ตามดูดตลอด 40 กิโลเมตร กลายเป็นคนที่สดพร้อมยิงที่สุดในกลุ่ม – Quickstep ต้องทำอะไรสักอย่าง
เข้าสู่ 10 กิโลเมตรสุดท้าย กลุ่มของโบเน็นเริ่มปลอดภัยจากการถูกไล่เก็บเมื่อฟานมาร์คและแวน เอเวอร์มาร์ทแผ่วแรง และระยะห่างเพิ่มขึ้นเป็น 30 วินาที ถึงจุดนี้ Quickstep มีทางเลือกพอสมควร
- ลากสแตนนาร์ดไปจนถึงเส้นชัย แต่ปล่อยให้โบเน็น ซึ่งเป็นสปรินเตอร์ที่ดีที่สุดในกลุ่มพักขา เพื่อรอทุบสแตนนาร์ด
- ผลัดกันยิงสแตนนาร์ดหวังให้ Sky หมดแรง ถ้าสแตนนาร์ดไล่จับใคร Quickstep จะยิงสวนทันที ซึ่งตามตำราสแตนนาร์ดไม่น่าจะมีแรงเหลือตาม ปล่อยให้เอซคนใดคนหนึ่งของ Quickstep หนีเข้าเส้นชัยไปในที่สุด
ไม่มีใครบอกได้ว่าตัวเลือกไหนเซฟที่สุด แต่ Quickstep เลือกข้อ 2.
The Finale
4 กิโลเมตรสุดท้าย นิกี้ เทิรป์สตราสาดกระสุนเป็นคนแรก สแตนนาร์ดออกไล่ประกบ แต่ก็ถูกโบเน็นปล่อยหมัดสวนทันที – ถึงจุดนี้สแตนนาร์ดควรจะหมดแรงแล้ว แต่เกมไม่เป็นไปตามคาดเมื่อสแตนนาร์ดค่อยๆ ขึ้นไล่จนทันโบเน็น
กระสุนนัดที่สามมาจากเทิร์ปสตราที่พยายามสลัดสแตนนาร์ดอีกครั้ง แวนเดนเบิร์กออกกระชากตามเทิร์ปสตรา ซึ่งดูเผินๆ เหมือนจะเป็นแผนยิงคู่ แต่เมื่อแวนเดนเบิร์กไม่มีแรงเหลือพอ กลายเป็นว่าเขาทำหน้าที่ไล่จับเทิร์ปสตราให้สแตนนาร์ดเกาะได้สบายขา – โบเน็นหลุดกลุ่มไปข้างหลังเรียบร้อย
เมื่อสแตนนาร์ดจับเทิร์ปสตราทัน – ระยะทางเหลือ 2 กิโลเมตร – สแตนนาร์ดปล่อยของอีกครั้งด้วยการยิงสวน ทั้งคู่ไล่กันจนถึงกิโลเมตรสุดท้าย เทิร์ปสตราพยายามเปิดสปรินต์ระยะไกล แต่กลายเป็นการลีดเอาท์ให้สแตนนาร์ดซึ่งเอซอังกฤษก็กระโดดขึ้นเชือดคอเทิร์ปสตราที่หน้าเส้นชัย คว้าแชมป์รายการได้สำเร็จ
Quickstep ควรจะชนะ
Quickstep ตัดสินใจผิดเมื่อโบเน็นไม่มั่นใจในการสปรินต์ของตัวเอง แล้วตัดสินใจกระชากกลุ่มตัดกำลังสแตนนาร์ด ที่ 5 กิโลเมตรสุดท้าย คนที่สดและเหนื่อยน้อยที่สุดในกลุ่มคือสแตนนาร์ดเพราะเขาหมกล้อ Quickstep มาร่วม 40 กิโลเมตร สแตนนาร์ดให้สัมภาษณ์ทีหลังว่าเขาแทบไม่เหนื่อยเลย และได้เริ่มแข่งจริงๆ ก็ที่ 4 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย
กลับกัน Quickstep ทุกคนเริ่มกรอบ เพราะพยายามหนีให้ห่างกลุ่มของฟานมาร์ค ซึ่งไล่ตามได้กระชั้นมาก แต่ถึงยังไง Quickstep ก็ได้เปรียบ เพราะเขามีจำนวนคนมากกว่า
ความผิดพลาดครั้งที่สองอยู่ตรงนี้ครับ ลองดูนาทีที่ 1:35
จังหวะที่เทิร์ปสตราพยายามยิงหนี แวนเดนเบิร์ก เหมือนจะ “ไล่จับ” เทิร์ปสตราเอง (ควรจะเป็นหน้าที่ของสแตนนาร์ด) ตรงนี้ผมคิดว่าแวนเดนเบิร์กคงไม่ได้คิดว่าเทิร์ปสตราเร่งหนี เลยไล่เข้าให้ทัน หรือไม่ก็รู้ว่าเทิร์ปสตราจะหนี และพยายามยิงหนีด้วย เป็นลูกหลอกให้สแตนนาร์ดต้องเลือกว่าจะตามคนไหน ซึ่งเป็นแผนที่ดีมาก เพราะทำให้ทีมมีไพ่เก็บไว้เล่นสองใบ แต่แผนนี้พังเพราะแวนเดินเบิร์กไม่เร็วเท่าเทิร์ปสตรา กลายเป็นว่าเขาไล่ตามเทิร์ปสตราและบังลมให้สแตนนาร์ด! ขณะเดียวกัน โบเน็นรับเคราะห์ไปเต็มๆ เพราะหมดแรงกระชากแล้ว ถ้าทีมยังมีแผนจะคิดสปรินต์ก็โยนทิ้งไปได้เลย
จุดสุดท้ายที่ทำให้ Quickstep แพ้คือ ที่กิโลเมตรสุดท้ายที่เทิร์ปสตราเลือกยิงสปรินต์ยาว แทนการเล่นเกมดูเชิงรอจังหวะกับสแตนนาร์ด กลายเป็นว่าเขาเปิดลีดเอาท์บังลมให้สแตนนาร์ดฟรีๆ ผมว่าถ้าเทิร์ปสตราหยั่งเชิง Sky สักนิดหนึ่งก็ไม่เสียหายเพราะยังไงกลุ่มฟานมาร์คก็มาไม่ทันแล้วครับ ที่สำคัญ โบเน็นอาจจะตามมาทันแล้วสปรินต์แทนได้ด้วย โบเน็นให้สัมภาษณ์ทีหลังว่าทีมไม่น่ายิงสแตนนาร์ดเลย น่าจะรอสปรินต์คงมีโอกาสชนะมากกว่า
จังหวะที่สแตนนาร์ด counter-attack ที่ 2.8 กิโลเมตรสุดท้ายคงเป็นหมัดเด็ดที่ทำลายความหวังของ Quickstep จนหมดสิ้น Quickstep อาจจะคิดว่าการโจมตีหลายๆ ครั้งน่าจะตัดแรงสแตนนาร์ดได้ดี แต่กลับเป็นพวกเขาเองที่หมดก๊อก เพราะใช้แรงหนีฟานมาร์คมาหลายสิบกิโลแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้นถึง Quickstep จะพลาดก็ต้องชื่นชมผู้ชนะครับ นอกจากจะใจเย็น สุขุมและเดินเกมได้สมบูรณ์แบบแล้ว เขาจะไม่มีทางชนะเลยถ้าตามโบเน็นไม่ได้ตั้งแต่แรก สแตนนาร์ดให้สัมภาษณ์อย่างนอบน้อมว่า เขาชนะเพียงเพราะเหลือแรงมากกว่าคนอื่น แต่ถ้าลองดูรีเพลย์หลายๆ รอบจะเห็นว่าเขาเองก็มีกลยุทธ์เล็กๆ น้อยเหมือนกันในช่วงท้ายการแข่งขัน
ชัยชนะแบบเหนือคาด พลิกเกมแบบล้มโต๊ะของ Sky ครั้งนี้สะท้อนอะไรได้หลายอย่าง เดฟ เบรลส์ฟอร์ด ผู้จัดการทีมให้สัมภาษณ์เมื่อต้นปีว่าอีก 5 ปีต่อจากนี้ Sky จะเป็นทีมที่ “กลม” กว่าเดิม คือจะชนะทั้งสเตจเรซ ทั้งการสปรินต์ และสนามคลาสิคด้วย ไม่ว่าเขาจะเตรียมตัวมายังไง ตอนนี้เห็นชัดแล้วครับว่ามันได้ผล
แต่ Quickstep เองก็อาจจะยังไม่ต้องประหม่า เพราะถึงทีมนี้จะไม่ได้ชนะ Omloop มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ก็ยังชนะรายการที่ใหญ่กว่าได้แทบทุกปี ข้อเท็จจริงคือแชมป์ Omloop 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครได้เหยียบยอดโพเดี้ยม Flanders และ Roubaix เลย ก็ต้องดูกันว่าสแตนนาร์ดจะต่อยอดชัยชนะรายการนี้ได้ไหมในสัปดาห์ต่อปครับ
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์ (Last 20km)
