งาน International Bangkok Bike กลายเป็นงานจักรยานประจำปีที่หลายคนติดใจมาแวะชม งานนี้เขาจะจัดที่อิมแพคเมืองทองธานี สองครั้งต่อปี ครั้งแรกช่วงเดือนพฤษภาคม และครั้งที่สองช่วงเดือนตุลาคม สำหรับปีนี้จัดกันระหว่างวันที่ 6-9 ตุลาคมครับ
ว่ากันตามตรง งานนี้เป็นงานที่ส่วนตัวแล้วทีม DT ไม่ค่อยได้ไปเดินบ่อยเท่าไร เพราะที่ผ่านมาเป็นงานที่ผู้นำเข้าเน้นเอาของมาเซลล์ โล๊ะสต็อกกันแบบงานตลาดนัด และมีของก็อปปี้มาวางจำหน่ายเยอะมาก เรียกได้ว่าเปิดบูทชนกับผู้จำหน่ายของแท้เลย ก็เลยยังงงๆ ว่านี่เขาอยากจะให้มันเป็นงานแบบไหนกันแน่ เพราะก็ไม่ได้มีสินค้าใหม่หรือสินค้าที่น่าสนใจอะไรมาให้ดูเลย แม้แต่โมเดลปีใหม่ๆ ก็ยังไม่มี คือถ้าอยากซื้อของก็ต้องมางานนี้แหละ เพราะลดเยอะเกิน 50% ทั้งนั้น แต่ถ้าอยากชมอย่างอื่นพวกเทคโนโลยี หรือโปรดักต์ปีใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็จะไม่มีให้ชม
แต่ปีนี้จัดได้ดีกว่าเดิมมากครับ ทั้งผู้ขายและผู้จัดเองก็ยกระดับงานขึ้นอีกขั้น บูทต่างๆ จัดได้ดีขึ้น มีสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีวางจำหน่ายให้ชมและสาธิตกันเพียบ มีเซคชันโชว์สินค้าเด็ดในงาน มีเวทีพุดคุยและจัดกิจกรรมกันครึกครื้นตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ สิบโมงเช้ายันสามทุ่ม เราก็เลยเก็บภาพมาฝากกันเต็มอิ่ม สำหรับคนที่ไม่ได้ไปชม และคนที่อาจจะไม่มีเวลาเดินดูครบ มาดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ
จากประตูหน้างาน ถ้าเดินเข้าไปจนสุด hall ทางด้านขวามือจะเป็นเวทีกลาง ซึ่งข้างๆ เวทีจะมีจุดโชว์สินค้าที่โดดเด่นในงานแยกไว้เป็นส่วนพิเศษด้วย ตรงนี้มีรถสวยๆ โชว์หลายครับ Scott ที่เห็นนั่นคือ New Foil หมอบแอโรที่เทสต์ได้อันดับต้นๆ ของนิตยสารต่างประเทศทั้งในเรื่องฟีลลิ่งการปั่นและความลู่ลมระดับหัวแถวของวงการ
ข้างๆ กันก็มีไตรกีฬาใหม่จาก Giant ที่เพิ่งเปิดตัวไปปีนี้ มี Merida Warp รุ่นใหม่เช่นกัน (แต่อาจจะเคยเห็นกันบ้างแล้ว) มี Dare แบรนด์น้องใหม่จากไต้หวันที่เปิดตัวแรง (เดี๋ยวเล่าให้ฟัง) และ Java Feroce เสือหมอบที่น่าจะขายดีที่สุดในเมืองไทยตลอดสองปีทีผ่านมา
DARE เป็นแบรนด์จากไต้หวัน พื้นเดิมคือเป็นโรงงานวิจัยและผลิตจักรยานคาร์บอนให้แบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์ แต่เจ้าของกลับคิดว่าทำไมเราไม่ทำแบรนด์ของตัวเองบ้างหละ ในเมื่อมีเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมรบอยู่แล้ว สองปีที่ผ่านก็เลยพยายามผลักดันตัวเองเข้าสู่ตลาดครับ
สองปีที่ผ่านมา ตลาดจักรยานไทยเต็มไปด้วยผู้เล่นใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือผู้นำเข้าเก่าที่หันมาจับแบรนด์ระดับ low-mid end เน้นขายจักรยานคาร์บอนไฟเบอร์ราคาไม่แรง แต่มากับคอมโพเนนท์แบบจัดเต็ม ให้อะไหล่ Shimano / SRAM แบบครบชุดไม่กั๊กเหมือนแบรนด์นอก Kaze ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ใหม่ที่ว่า นำเข้าโดย TCA และปีนี้มากับเฟรมแอโรใหม่ในชื่อ Kanon ซึ่งหน้าตาก็โฉบเฉี่ยวทีเดียวครับ (เฟรมเซ็ต 25,000 บาท)
แน่นอน เปิดตัวแรงที่สุดปีนี้คงไม่พ้น SAVA ที่ลงมาเล่นระดับราคาไม่เกินสี่หมื่นเหมือนกัน แต่ Steiner คันนี้ออกตัวแรงด้วยการเป็นจักรยานคาร์บอนไฟเบอร์ที่มากับชุดขับ Shimano 105 11 Speed แบบ full set และได้ล้อ แฮนด์ หลักอาน คาร์บอนด้วย กับราคาไม่ถึงสี่หมื่น ถามว่าราคาแค่นี้ทำไมได้คาร์บอนแล้ว ก็แนะนำให้ลองอ่านบทความนี้ดูครับ
งานสีดีใช้ได้
ในตู้โชว์กลางมีไฮไลท์อีกเล็กๆ น้อยๆ (น้อยไปหน่อย) จากซ้ายไปขวาตามเข็มนาฬิกา – รองเท้า Bont Vaypor Plus คัสต้อมของโจอี้บอย, รองเท้า Lake CX301 ที่นิ่มและเบาประมาณ 180 กรัมเท่านั้น, กล้อง Garmin VIRB Ultra 30 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ฟีเจอร์เยอะและสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย
Felt Bicycle เปิดตัวครั้งแรก
หลายคนคงรู้จักจักรยาน Felt มาบ้างแล้ว แต่ในไทยเราไม่มีขายมาสักพักใหญ่ๆ เพราะไม่มีตัวแทนนำเข้านั่นเองครับ ปีนี้ทาง Red Baron Cycling ก็นำ Felt เข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งก็เป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจทีเดียว
Felt เป็นจักรยานอเมริกัน 100% และเป็นรายแรกๆ ที่เริ่มสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านการลดน้ำหนักจักรยานและแอโรไดนามิก จักรยาน Felt AR ก็เป็นเสือหมอบแอโรอีกหนึ่งคันที่อยู่หัวแถวของวงการในผลการทสดอบจากสำนักต่างๆ และเสือหมอบ allround ซีรีย์ใหม่ Felt FR ก็เป็นหนึ่งในจักรยานที่เบาที่สุดในโลกด้วย
บูทมาเต็มมาก
เปิดตัวด้วยคันนี้ครับ Felt TA FRD จักรยานเปอร์ซูต์ที่ผลิตออกมาให้ทีมชาติอเมริกาใช้แข่งโอลิมปิก โดยความโดดเด่นอยู่ที่ย้ายใบจานมาด้านซ้ายของตัวจักรยาน (ในสนามลู่เราวิ่งวนซ้าย) ผู้ผลิตเชื่อว่ามันช่วยลดแรงต้านอากาศได้เล็กน้อย แต่ในกีฬาที่สู้กันระดับเสี้ยวของเสี้ยววินาที นิดนึงก็สำคัญ
สนนราคาคันละล้านบาท ที่แพงนี่ไม่ใช่เพราะอะไรครับ ผลิตน้อย ไม่ได้วางขายแบบ mass และค่า R&D มหาศาลที่ต้องขายในราคาสูงเพื่อให้คุ้มทุน ใครอยากได้มาไว้ปั่นเล่นก็สั่งได้นะ
น่าเสียดายว่าในประเภท pursuit ทั้งเดี่ยวและทีมอเมริกาไม่ได้เหรียญรางวัลอะไรเลย… เมื่อเจอของแข็งอย่างทีม GB เข้าไป รถดีโหดแค่ไหนก็คงช่วยยาก
นี่คือ FELT AR เสือหมอบแอโรรุ่นท็อปของแบรนด์นี้ครับ เบรคหลังอยู่ใต้กระโหลก ค็อกพิทไม่ integrated เฟรมตัวท็อปที่ใช้คาร์บอนเทพ TeXtreme 144,000 บาท คอมพลีทไบค์รุ่นล่าง AR5 (คาร์บอนเกรดรองๆ ลงมา) กับกรุ๊ปเซ็ต Shimano 105 อยู่ที่ 80,000 บาท
คันนี้ Felt IA จักรยานไตรกีฬา 100% (สัดส่วนผิดกฏ UCI) เฟรมตัวท็อป IA FRD 240,000 บาท, Completed bike มีสองรุ่น Felt IA2 มาพร้อม Ultegra Di2 + Pioneer Powermeter และล้อคาร์บอนขอบสูงที่ 240,000 บาท, และมีรุ่น Felt IA16 ที่มากับ Shimano 105 ราคา 108,000 บาท
คันนี้ FELT TK1 จักรยานลู่
คันนี้เสือหมอบรุ่นคลาสสิคสมัยที่ยังสปอนเซอร์ทีม Garmin-Slipstream อยู่
Felt รุ่นท็อปผสมเนื้อคาร์บอน TeXtreme พิเศษยังไงก็ลองอ่านดู
Shimano Dura-Ace 9100 ตัวจริง
มีหลายบูทที่เอา Shimano Dura-Ace 9100 ตัวจริงมาให้ชมกัน ทั้งบูทของ Shimano (ฮะฮง) เองและในบูทของแบรนด์อื่นๆ ด้วย มาดูกันว่าหน้าตาเป็นยังไงแบบใกล้ๆ
ขาจานอวบใหญ่สะใจ แต่ก็ยังดูดุดัน (ต้องเห็นตัวจริงถึงจะเข้าใจว่าความอ้วนของขามันขนาดไหนครับ) Shimano ยังยืนยันว่าเมื่อคุณสามารถทำขาจานให้เบาและสติฟได้ด้วยโลหะ (อลูมิเนียม) ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้วัสดุที่แพงและเปราะบางกว่าอย่างคาร์บอนไฟเบอร์…แน่นอนคุณต้องมีเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตระดับ Shimano น่ะนะ ถึงจะทำขาอลูเทพๆ แบบนี้ได้
สับจานหน้าขายาวกว่าเดิม, ขาจานซ้ายหน้าตาไม่เปลี่ยนมาก, เบรคใหม่หนักกว่าเดิมนิดหน่อย แต่คงต้องลองใช้จริงว่าจะประสิทธิภาพดีขึ้นมั้ย, ตีนผีแบบ shadow ที่ซ่อนหลุบเข้าไปใต้เชนสเตย์ดูปลอดภัยดี
นี่คือพาวเวอร์มิเตอร์ที่มากับขาจาน Dura-Ace 9100 (ราคาและวันวางจำหน่ายยังไม่ระบุ) เป็นพาวเวอร์แบบวัดขาแยกสองข้าง และมีขนาดเล็กมาก
พาวเวอร์ที่ขาซ้าย แปะไว้ที่ขาจาน บางดีทีเดียว
ล้อ Dura-Ace C60 ขอบงัดใหม่ เรียบ ดุดัน แต่หนักเอาเรื่อง
ชุดขับFSA ไฟฟ้าไร้สาย, Campagnolo, พาวเวอร์มิเตอร์ 4iiii, SRAM eTap, LOOK
FSA K-Force We ชุดขับไฟฟ้ากึ่งไร้สายจาก FSA ก็มีมาโชว์ แต่ยังไม่มัประกอบให้เห็นบนรถ วางขายปีหน้า
ดูงานค่อนข้างเนี้ยบทีเดียวครับ ชิฟเตอร์ทำงานคล้ายๆ Sram, สับจานหน้าใหญ่เหมือนกันม ขาจานอวบสี่แฉก และเบรคที่น้ำหนักไม่แย่เลย อ่านรายละเอียด K-Force WE ได้ที่ลิงก์นี้
บูท TCA มีโชว์ Campagnolo Potenza กรุ๊ปเซ็ตรุ่นที่ราคาต่ำกว่า Campy Chorus
4iiii powermeter แบบวัดสองข้างที่ทีม Etixx ใช้เปิดสั่งจองได้แล้ว มาพร้อมขา Dura-Ace ราคา 50,000 ครับ
มีหลายรายที่หยิบเอา SRAM eTap มาประกอบด้วย คันนี้เป็น Look 795 Aerolight หมอบแอโรตัวท็อปสุดของ Look รุ่น limited edition ฉลองครบรอบ 30 ปีที่เกร็ก เลอมองด์ได้แชมป์ Tour de France มากับล้อ Mavic Cosmic Carbone สนนราคาสี่แสนห้าหมื่นเท่านั้น
Look ยังมีความล้ำอยู่เสมอ (ถึงแม้จะเหนื่อยช่างประกอบรถก็ตาม) แฮนด์ integrated A-Stem ที่สามารถปรับองศาได้, ขาจานแบบชิ้นเดียวไม่แยกข้าง Look Zed 3 ที่ปรับความยาวขาจานได้สามระดับ O_O และมีแฟริ่งแอโร่อีกต่างหาก
ตีนผี Sram Red eTap ขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับตีนผีทั่วๆ ไป
ตบท้ายด้วย Look 795 Light x Maserati เฟรมพิเศษ Limited Edition ที่ทำร่วมกับรถยนต์ Maserati ในงานแข่งการกุศล Paris-Modena, ค่าตัว 350,000
DARE, Black Inc, Fulcrum, Infinite
ก่อนหน้าพูดถึงแบรนด์ DARE ไปแล้วนิดหน่อย ก็อย่างที่บอกครับ เป็นโรงงานจักรยานในไต้หวันที่หันมาทำแบรนด์ของตัวเอง ช่วงปีแรกๆ นี่ก็เน้นโชว์เทคโนโลยีการผลิตที่อ้างว่าไม่แพ้แบรนด์ดังอื่นๆ และยังสปอนเซอร์โปรทีม Continental ในเอเชียหลายทีม แถมมีส่งจักรยานไปประกวดคว้ารางวัล Red Dot และ IF Design Award ด้วย
DARE VSR เสือหมอบแอโรของแบรนด์ หน้าตามีความโฉบเฉี่ยวใช้ได้ แต่เสียดายไม่ได้ใช้ integrated cockpit
ดีเทล์เล็กๆ น้อยๆ เก็บงานได้ดีทีเดียว หลักอานปรับ offset ได้เยอะ, ตะเกียบกับ headtube ในโปรไฟล์ที่สอดรับกันตามสมัยนิยม, การเดินสายบริเวณค็อกพิทที่คล้ายๆ Cervelo
คันนี้เฟรมไต่เขาที่เขาอ้างว่าขี่สบาย
นั่นก็เพราะที่ท่อนอนมีการผ่าซีกออกเพื่อให้เฟรมให้ตัวได้ช่วยซับแรงสะเทือน
ตรงนี้เขาโฆษณาความเหนือชั้นของเทคโนโลยีการเลย์อัปเนื้อคาร์บอน ค่ายนี้ใช้ส่วนผสมคาร์บอนของ Mitsubishi MJ Series และ Toray ซึ่งเขาบอกว่า สามารถเรียงชั้นคาร์บอนได้มากกว่าด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่าคู่แข่ง (ทำให้รถมีคาแรคเตอร์ตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่า) ฝั่งขวาของตาชั่งคือเนื้อคาร์บอนที่ DARE ใช้ เทียบกับฝั่งซ้ายของคู่แข่ง ที่มีน้อยชิ้นกว่าแต่น้ำหนักเท่ากัน / นอกจากนี้ยังมีออปชันสั่งทำสีพิเศษ เพิ่มเงินไม่กี่พันก็ได้รถคัสต้อม สั่งผ่านระบบออนไลน์ได้เลย (รอของสองเดือน) และมุมล่างขวา เขาผ่าโชว์ความเนียนของเนื้องานด้านในครับ ไม่มีเรซิ่นหรือเนื้อคาร์บอนส่วนเกินให้เห็น ซึ่งก็เป็นโพรเซสที่ทำยากและละเอียดกว่ามาตรฐานวงการ
ล้อ Black Inc นี่คือยี่ห้ออะไร? แบรนด์นี้เป็นความร่วมมือของอดีตโปรเก่าหลายคน ไม่ว่าจะเป็นบาเด็น คุ๊ก (Orica), เดวิด มิลลาร์ (Garmin) ที่หันมาหุ้นกันสร้างแบรนด์จักรยานของตัวเอง และหุ้นส่วนยังเป็นเจ้าของจักรยาน Factor ที่สปอนเซอร์ทีม One Pro Cycling ด้วย
Black Inc มี Ceramic Speed เป็นหุ้นส่วน ทำให้ลูกปืนติดล้อเป็น Ceramic Speed ด้วย
Fulcrum มากับล้อใหม่ Fulcrum Speed 40C (ยางงัด) ที่มากับลูกปืน USB และขอบล้อสูง 40mm งาน finish ยังสวยงามหรูหราสไตล์ Campy/ Fulcrum เหมือนเดิม
ค่าย Infinite ของไทยเราก็มีเฟรม RFlow รุ่นใหม่มาโชว์ด้วย
ส่วนรถไตรคันนี้ไม่ได้มีขายทั่วไป สั่งมาให้นักแข่งในทีม Singha-Infinite ใช้ครับ
มาติดตามกันใน part 2 ต่อว่าจะมีอะไรเด็ดๆ ให้ดูกันอีกในงาน International Bangkok Bike นะครับ