[dropcap letter=”ห”]ลังจาก 17 ปีในฐานะนักปั่นอาชีพกับชื่อเสียงและผลงานที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญกลางสนามแข่ง ในที่สุดเยนส์ โว้ก นักปั่นชาวเยอรมันวัย 43 ปีก็อำลาวงการไปด้วยผลงานที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ เพราะเมื่อคืนวันที่ 18 กันยายน 2014 เขาได้ทำลายสถติ Hour Record หรือ การปั่นจักรยานให้ได้ไกลที่สุดในหนึ่งชั่วโมงด้วยระยะทาง 51.115 กิโลเมตร
โว้กทำระยะทางได้มากกว่าอองเดร โซเซงก้า เจ้าของสถิติคนล่าสุดที่ 1.315 กิโลเมตร (โซเซงก้าใช้จักรยานลู่แฮนด์ดรอปและไม่ได้ใช้อุปกรณ์แอโร) ถึงจะมีเทคโนโลยีล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นเฟรมลู่ลม หมวกแอโร และสกินสูท แต่การทำลายสถิติก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโว้ก
ย้อนรอยช๊อตต่อช๊อต
ถ้าดูไม่ได้ให้ลง Proxflow Extension สำหรับ Chrome มันจะช่วยข้าม region lock ให้ครับ
ช่วง 10 นาทีแรก เยนส์ทำความเร็วได้คงที่ที่ราวๆ 50.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วกกว่าเวลาของโซเซงก้า 12.587 วินาที ถึงความเร็วจะตกลงบ้าง แต่ในนาทีที่ 20 เขาทำเวลาได้เร็วเป็นสองเท่า นำสถิติเก่าถึง 24.367 วินาที
แต่การปั่นสู้กับเวลาในสนามลู่ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยเฟืองและขาจานขนาดมหึมา 55×14 ที่รอบขาประมาณ 100 รอบต่อนาที เยนส์ต้องออกแรงราวๆ 410 วัตต์อย่างต่อเนื่อง สีหน้าเยนส์เริ่มเหนื่อยล้าและจังหวะการปั่นก็ไม่สมูทเหมือนช่วงแรก โดยเฉพาะช่วงออกและเข้าโค้งที่เป็นแบงก์ลาดชัด
ถึงนาทีที่ 28 เยนส์เริ่มลุกขึ้นยืนปั่นเพื่อยืดเส้นยืดสาย และใช้เวลาอีกหลายรอบสนามกว่าจะกลับเข้าจัวหวะเดิม ความเร็วตกลงไปอยู่ที่ 50.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นาทีที่ 30 เขาเร็วกว่าโซเซงก้า 34.489 วินาที
ในครึ่งหลัง เยนส์รักษาจังหวะการปั่นได้ต่อเนื่อง ถึงแม้ร่างกายจะเริ่มต่อต้านอย่างเห็นได้ชัดแต่เยนส์กลับทำความเร็วได้สูงขึ้น ซึ่งโค้ชของเขาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเยนส์ใช้เทคนิค Negative Split หรือการแบ่งระยะการปั่นเป็นสองช่วง ปั่นครึ่งแรกเกือบเต็มที่แต่จะเหลือกำลังไว้เล็กน้อยเพื่อให้ทำความเร็วได้มากกว่าเดิมในครึ่งหลัง ซึ่งผลของมันก็เห็นได้ชัดในนาทีที่ 44 เมื่อเขาทำความเร็วกลับขึ้นมาได้ที่ 50.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นาทีที่ 50 เขาเร่งขึ้นไปถึง 50.8
ที่ 10 นาทีสุดท้ายเยนส์ยังเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชมราว 1,600 คนที่เข้ามาให้กำลังในเยนส์จนคับเวโลโดรม มั่นใจว่าเยนส์ต้องทำลายสถิติได้แน่นอน เยนส์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเขารู้ว่าเขาทำได้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของการปั่น นาทีที่ 56 เขาเร่งขึ้นไปถึง 51 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เยนส์ทำลายสถิติของโซเซงก้าได้ในนาทีที่ 58:30 ซึ่งเหลือเวลามากพอให้เขาปั่นต่ออีก 5 รอบสนาม เยนส์เร่งรอบขาและออกขึ้นกดลูกบันไดเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ – เพราะทุกรอบบันไดที่เขาหมุนคือสถิติโลกใหม่
ครบหนึ่งชั่วโมงเขาทำสถิติโลกได้ที่ระยะทาง 51.115 กิโลเมตร
Final SRM Stats:
Time: 60 min
Distance: 51.115 km / 31.761 miles
Average Power: 412w
Average Cadence: 102 rpm
Jens Reaction
“I knew it was the last time in my life that I had to push like this. Because it was the last time in my career, it was easy to turn myself inside out for it”
“ผมรู้ดีว่ามันคือครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ผมจะได้ปั่นหนักอย่างนี้ เพราะมันเป็นครั้งสุดท้าย จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทุ่มสุดชีวิต”
“My strategy was quite conservative. I went too quick at the beginning, then I had to slow down. But then 20 minutes from the end I decided to accelerate. I started pushing it as I was well within my comfort zone. In the end, going over 51 kilometres is much faster than I had expected. I am really, really satisfied.”
“กลยุทธ์ของผมค่อนข้างเรียบง่ายนะ ช่วงแรกผมออกตัวแรงไปหน่อย เลยต้องลดความเร็วลงบ้าง แต่พอถึงนาทีที่ 20 ผมตัดสินใจเพิ่มความเร็วขึ้นนิดนึงเพื่อดูว่าร่างกายจะตอบสนองยังไง ปรากฏผมยังไปได้เร็วกว่านี้อีก ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้ 51 กิโลเมตร ดีใจมากๆ ที่ทำได้ระยะทางขนาดนี้”
“It was like being in the last 15 kilometres of a break, just trying to make it before getting caught by the peloton. I had to get out of the seat to relax my behind a little. I can hardly walk now.”
“ถ้าจะให้เทียบมันก็เหมือนช่วง 15 กิโลเมตรสุดท้ายของเบรคอเวย์นะ พยายามหนีสุดแรงเกิดให้กลุ่มตามเขาไล่ไม่ทัน ผมต้องลุกขึ้นปั่นนิดหน่อยเพราะปวดก้น ตอนนี้แทบเดินไม่ได้แล้ว”
“We will see what happens to the record with the other riders out there. OK, boys, it’s up to you. Give it to me,”
“เดี๋ยวคงได้เห็นนักปั่นคนอื่นๆ มาทำลายสถิติ ถึงคราวของพวกคุณแล้ว! (เยนส์พูดถึงมาร์ติน วิกกินส์ และแคนเชอลารา)”
“I’m happy, but also a little sad. I will miss the fans, the atmosphere and talking to them,” Voigt said. “It’s also a little frightening. I’ve had 33 years of cycling and it’s all gone now.”
ผมดีใจ แต่ผมก็เสียใจนะ คงจะคิดถึงแฟนๆ และความรู้สึกที่ได้พูดคุยกับพวกเขา อีกมุมหนึ่งมันก็น่าใจหาย ผมปั่นจักรยานมา 33 ปีเต็ม แต่มันสิ้นสุดลงในวันนี้แล้ว
“I couldn’t ask for a better goodbye than this”
มันคือคำบอกลาที่ดีที่สุด
Twitter Reaction
พอเยนส์ทำลายสถิติได้สำเร็จ โลกทวิตเตอร์ก็แทบจะลุกฮือกันเลยทีเดียว มีทั้งคอมเมนต์จากนักปั่นอาชีพ ผู้จัดการทีมคู่แข่ง อดีตเจ้าของสถิติ Hour Record ออกความเห็นกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
Mikel Conde – นักเขียนรับเชิญเว็บไซต์ Velonews และ Cyclingtips
History. pic.twitter.com/bWfP3XxvwE
— Mikkel Condé v2.0 (@mrconde) September 18, 2014
คริส บอร์ดแมน – เจ้าของสถิติ Hour Record หลายสมัย
The only man ever to enjoy the hour record.
Welcome to our side of the fence.
— Chris Boardman (@Chris_Boardman) September 18, 2014
ลอรา เมซซิกัวร์ – คอมเมนเตเตอร์ช่อง Eurosport
That´s the way to "hang up" the bike / Esa es la manera de "colgar" la bicicleta. Legend @thejensie #HourRecord pic.twitter.com/7x0geCSu0O
— Laura Meseguer (@Laura_Meseguer) September 18, 2014
โอเล็ก ทิงคอฟ – เจ้าของทีม Tinkoff-Saxo
Go Voight!
— Oleg Tinkov (@olegtinkov) September 18, 2014
ดั๊กกิ้ง ไทเกอร์…. (ไม่ค่อยจะขายตัวเองเลยนะ)
This is the best race this year, by far.
— Ducking Tiger (@DuckingTigerTH) September 18, 2014
บทสรุป
กับอาชีพนักปั่นที่นิยามด้วยการหลบหนีคู่แข่ง คงไม่มีปาร์ตี้อำลาวงการไหนๆ ที่จะเหมาะสมไปกว่าการเบรคอเวย์ครั้งสุดท้ายเพื่อสร้างสถิติโลกสำหรับเยนส์ โว้ก
เขาสร้างคุณูปการและแรงบันดาลใจให้นักปั่นจักรยานทั่วโลก เขาแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จที่แลกมาด้วยความเจ็บและความตั้งใจซึ่งถึงแม้มันจะยากลำบากแค่ไหน ย่อมคุ้มค่าต่อความพยายามเสมอ
ช่วงที่คุณอาจจะไม่ได้เห็นในวิดีโอไฮไลท์ข้างบนนี้คืออะไรรู้ไหมครับ? หลังจากที่พิธีการต่างๆ เสร็จสิ้นท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้องของแฟนๆ กว่า 1,600 ชีวิต และผู้ชมทางบ้านอีกนับล้าน เยนส์ยืนเคารพเพลงชาติเยอรมัน กล่าวคำอำลา และแทนที่จะกลับเข้าห้องพักนักกีฬาเหมือนคนอื่นๆ หรือยืนพูดคุยกับเหล่าวีไอพี แต่เขากลับเดินดิ่งข้ามสนามตรงเข้าอัฐจรรย์ ปีนข้ามกำแพงเพื่อเข้าไปหาแฟนๆ…