ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ นสพ. AS จากสเปน มิเคล แลนด้า (Movistar) ยืนยันการไม่ยอมตกเป็นผู้ช่วยทีมและจะทำตามเป้าหมายส่วนตัวถึงแม้จะต้องลงสนามแกรนด์ทัวร์ใหญ่อย่าง Tour de France ร่วมกับไนโร คินทานา และอเลฮานโดร วาวเวอเด้
“ช่วงเวลาแห่งการเป็นผู้ช่วยทีมมันผ่านไปแล้วครับ ผมถูกสั่งห้ามทั้งใน Astana และ Sky ในเวลาที่ผมมีแรงจะชนะคู่แข่ง ถ้าทีมใหม่ยังสั่งให้ผมรออีก ผมจะไม่รอ ผมจะทำตามเป้าของตัวเอง”
อย่างไรก็ดี แลนด้ามั่นใจว่าจะไม่มีปัญหากับกัปตันทีมคนปัจจุบัน ทั้งคินทานาและวาวเวอเด้
“ว่าตามตรงผมว่าอารมณ์ในทีมออกจะสบายๆ กว่าตอนอยู่กับ Sky นะ อย่างอเลฮานโดร (วาวเวอเด้) เขาเป็นคนที่อัธยาศัยดีมาก ผมเข้าใจว่าคินทานาเขายืนยันการเป็นผู้นำเพียงคนเดียวใน Tour de France – คือเขามีสิ่งที่เขาต้องการ ผมก็มีสิ่งที่ผมต้องการเหมือนกัน ผมสมควรได้รับมัน และผมเชื่อว่าทักษะของเราจะส่งเสริมกันในสนามแข่ง”
สำหรับเป้าหมายปี 2018 แลนด้าจะเริ่มแข่งในรายการ Tour of Andalucia ในสเปนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และไปจบที่เป้าหมายใหญ่คือ Tour de France หลังจากที่คว้าอันดับ 4 ในปี 2017 ขณะที่ปั่นช่วยคริส ฟรูม (Sky) ซึ่งได้แชมป์รายการ
“ผมคิดว่าจะลงทั้ง Tour และ Vuelta คือผมเก็บประสบการณ์แกรนด์ทัวร์มามากพอสมควรแล้วที่จะมีอิสระในสนามพวกนี้ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเจ็บปวดนะที่ผมไม่สามารถขี่ตามความสามารถตัวเองได้ ในตูร์ปีนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจเลย ผมก็รู้ว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ผมจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าทีมยอมใช้ความสามารถผมบ้าง เราจะได้จบบนโพเดี้ยมด้วยกันในปารีส”
แลนด้าพลาดอันดับโพเดี้ยมให้โรเมน บาเดต์ (AG2R) ด้วยเวลาที่ช้ากว่าเพียงแค่ 1 วินาที
น่าสนใจว่าผู้จัดการทีม Movistar จะจัดการความสัมพันธ์นี้ยังไง จริงว่าแลนด้าเป็นนักไต่เขาความสามารถสูง แต่โดยผลงานแล้วเขายังด้อยกว่าทั้งวาวเวอเด้และคินทานาอยู่มาก ที่มีผลงานรวมกันเป็นอันดับ Top 10 ในแกรนด์ทัวร์ถึง 23 ครั้ง, 14 ครั้งเป็นอันดับโพเดี้ยม (1-3) และเป็นแชมป์รวมกันถึง 3 ครั้ง
ส่วนแลนด้า เคยได้โพเดี้ยม Giro d’Italia แค่หนึ่งครั้ง และอันดับ 4 ใน Tour de France อีกครั้ง
Via: Cyclingnews