หมวกจักรยานดูเผินๆ จะเป็นของที่ซื้อง่าย ใส่อะไรก็ได้ แต่เอาเข้าจริงแล้วสำหรับบางคนการซื้อหมวกที่สวมใส่ได้พอดีศีรษะนั้นอาจจะยากกว่าซื้อล้อหรือเฟรมซะอีก… วันนี้มาดูรีวิวหนึ่งในหมวกยอดฮิตที่หลายๆ คนอาจจะหมายตาไว้ Lazer Genesis ครับ
จะซื้อหมวกสักใบ…
หมวกกันน๊อกว่ากันตรงๆ เลยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยครับ รุ่นที่แพงกว่าไม่ได้ป้องกันดีกว่ารุ่นถูกสักเท่าไร ถ้าผลิตมาได้มาตรฐานดีความแข็งแรงก็ไม่ต่างกัน ล้มกระแทกแรงๆ ก็ใช้ครั้งเดียวทิ้งเหมือนกันหมด ที่สำคัญหมวกที่แพงกว่านั้นอาจจะไม่ได้ใส่สบายกว่าหมวกราคาถูก เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรูปทรงหมวกและสรีระศีรษะเราล้วนๆ ผมเห็นหลายคนซื้อหมวกตัวท๊อปราคาหลายพัน แต่สุดท้ายกลับมาใส่หมวกใบละพันสองพันเพราะว่ามันใส่สบายกว่า…หมวกกันน๊อคที่ดีนั้นต้องใส่แล้ว “ลืม” ครับ คือใส่สบายจนเราไม่ต้องนึกถึงมันอีก ไม่ต้องคอยปรับนู่นปรับนี่ ไม่ควรทำให้เรากังวล หรือรำคาญใจจนไม่มีสมาธิมองถนน
แล้วเราจะซื้อหมวกราคาแพงทำไม? ฮ่าๆ มันคือเรื่องกิเลสและการตลาดล้วนๆ ครับ ในเมื่อประโยชน์ใช้สอยหลักๆ ไม่ต่างกัน (กันกระแทก) สิ่งที่คุณได้เวลาจ่ายแพงกว่าก็คือความสวยงาม ความเบา และสำหรับบางยี่ห้ออาจจะสบายกว่าเล็กน้อยเพราะใช้สายรัดคางเป็นหนังแท้เช่นหมวกของ Kask ที่ทีม Sky ใช้ ((เว็บ Kask))
Lazer: ทั้งเก่าทั้งเก๋า
อันดับแรก อยากให้รู้จักบริษัท Lazer เสียก่อน หลายๆ คนอาจจะไม่รู้แต่บริษัท Lazer คือบริษัทผู้ผลิตหมวกกันน๊อก ((เขาผลิตทั้งหมวกจักรยาน หมวกสกี และอีกหลายๆ หมวกสำหรับกีฬาประเภทอื่น ลองดูเว็บ Lazer http://www.lazersport.com/)) ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งในประเทศเบลเยี่ยมเมืองหลวงจักรยาน ตั้งแต่ปี 1919 อายุอานามก็ย่างเข้า 94 ปีแล้ว! คงได้เห็นหมวก Lazer บ่อยๆ บนหัวเจ้ากอริลล่า Andre Griepel และโปรทีม Lotto-Belisol ครับ
Lazer Genesis | รูปลักษณ์
Lazer Genesis เป็นหมวกรุ่นรองท๊อป เป็นรอง Helium แต่อยู่เหนือกว่า O2 เวลาเอาหมวกทั้งสามรุ่นมาวางเทียบกันสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือคุณภาพเนื้องาน หมวก O2 จะทำสีไม่ค่อยเนี้ยบเท่ารุ่นพี่ทั้งสองรุ่น และ Finish จะดูราคาถูกกว่าพอสมควร (ตามราคา) ส่วน Helium นั้นทรงค่อนข้างจะกว้างกว่า Genesis เล็กน้อยครับ เนื้องานค่อนข้างดีไม่แพ้กัน รูปทรง Genesis จะเหมือน Helium แต่ต่างกับ O2
ส่วนตัวผมเลือก Genesis เพราะว่าราคาพอรับได้ งานดี และที่สำคัญที่สุดคือ เวลาใส่แล้วศีรษะไม่บานเป็นดอกเห็ด ผมลองหมวกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ส่วนใหญ่ใส่แล้วจะดูหัวบานแทบทุกใบ ถ้าสังเกตดีๆ ดีไซน์หมวก Lazer ตัวนี้ค่อนข้างหลอกสายตา ตรงที่เส้นสายมันเหมือนรวบเข้ามากระชับกับหัวเราพอดีครับ
Genesis ตัวที่ใช้เป็นสีดำกลอส วาวๆ รุ่นดำด้านน่าจะเป็นรอยง่ายเลยไม่เลือกมาใช้ หมวกไซส์ M เข้ากับเส้นรอบวงศีรษะ 58cm ของผมค่อนข้างพอดี รายละเอียดเล็กๆ น้อยอย่างสายรัดหูฟัง / วิทยุ ที่ติดมากับสายรัดคางแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและประสบการณ์การพัฒนาสินค้าให้นักกีฬาใช้จริง คงมีประโยชน์กับนักกีฬาที่ใช้วิทยุสื่อสาร (บ้านเราคงไม่มี) หมวก Lazer เขาจะแถมถุงใส่หมวกมาให้ด้วยหนึ่งใบ สะดวกดีและไม่ต้องห่วงว่าหมวกจะเป็นรอยเวลาขนไปใช้นอกสถานที่ครับ
การใช้งาน
1. ความกระชับ
สิ่งที่ทำให้ผมชอบหมวก Lazer มากๆ คือระบบปรับความกระชับที่ Lazer เรียกว่า RollSys ยี่ห้ออื่นๆ อาจจะใช้ระบบคล้ายๆ กันและมักจะวางตำแหน่งตัวปรับไว้ใต้หมวก หรือตรงสายรัดที่ท้ายทอย ส่วนหมวก Lazer วางตำแหน่งตัวปรับไว้บนหมวกเลย (อยู่ด้านหลัง) และตัวปรับความกระชับนี้ทำหน้าที่เป็นไฟกระพริบตอนกลางคืนได้ด้วย ((ใช้แบตนาฬิกาสองก้อน ตั้งได้เป็นไฟแดงกระพริบหรือไฟค้าง)) ในด้านการใช้งาน ความสบายและความกระชับนั้น ผมอาจจะโชคดี แต่คิดว่าหมวก Lazer Genesis ใส่สบายมากเข้ากับรูปศีรษะพอดี ไม่รู้สึกว่ามันกดหรือบีบหัว เรียกว่า “ล๊อกแล้วลืม” ก็ว่าได้ ถ้ามันแน่นหรือหลวมไปก็แค่ยกมือไปปรับตัวล๊อกด้านหลังให้คลายออกหรือแน่นขึ้นตามสะดวก ปรับได้ง่ายใช้ตัวปรับแค่ตัวเดียว
แผ่นฟองน้ำตีนตุ๊กแกที่ให้มามีสามชิ้น (ถอดล้างได้) ส่วนตัวคิดว่าฟองน้ำมันน้อยและบางไปหน่อย แต่เวลาปั่นก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันแข็งเจ็บหัวครับ พอมันล๊อคเข้าตำแหน่งพอดีก็ไม่มากวนใจเลย แค่เวลาถอดมาล้างอาจจะคิดว่ามันแอบบางไปนิดนึงนะ แต่ถ้ามันหนาๆ ก็อาจจะทำให้หัวร้อนก็ได้
2. การระบายความร้อน
หมวกจักรยานที่ดีต้องระบายความร้อนได้ดี ถ้าเราเกิดอาการ overheat ร้อนจัดหม้อน้ำแตกขึ้นมา อาจจะทำให้หงุดหงิด อยากถอดหมวกและเสียสมาธิ ว่อกแว่ก ซึ่งไม่ดีทั้งนั้นครับ หมวกสมัยนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความร้อนอยู่แล้ว หมวก Genesis ใบนี้ผมลองใช้มาประมาณหกเดือน ใส่ไปปั่นปั่นไกลๆ ร้อยกว่ากิโลเมตร ในวันที่แดดร้อนจัดๆ กลางเดือนเมษา (ประมาณ 42-44 องศา) โดยรวมแล้วระบายความร้อนได้ดีมาก ดูจากภายนอกเหมือนรูระบายอากาศจะน้อยนะครับ แต่มีทั้งหมด 19 รู เย็นสบายดี ไม่รู้สึกร้อนจนอยากจะถอดทิ้ง ทั้งตอนที่ปั่นกินลมชิลล์ๆ และตอนที่จัดหนักสปรินต์ไล่ตามคนอื่น
สรุป
Lazer Genesis เป็นหมวกที่ใส่ได้สบายดีมากครับ ไม่ร้อน และไม่รัด เนื้องานดี ดูแข็งแรงทนทาน และค่อนข้างเบา ((280 กรัม ไซส์ M)) ผมเคยล้มหัวครูดไปกับพื้น ไม่แรงมากแต่เล่นเอาหมวกเป็นรอยพอสมควรตามที่เห็นในภาพ ถ้างานสีและงานเคลือบคุณภาพแย่อาจจะเป็นรอยมากกว่านี้ ที่สำคัญใส่แล้วหล่อใช้ได้ ((สำคัญมากถึงมากที่สุด)) ข้อเสียอาจจะเป็นเรื่องฟองน้ำที่ให้มาน้อยไปนิดนึง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญครับ
เรื่องราคาคงไม่คอมเม้นท์ ส่วนตัวผมรับได้ แต่อย่างที่บอก ซื้อหมวกมันอยู่ที่ความพอใจและความสบายครับ รุ่นแพงอาจจะไม่สบายเท่ารุ่นถูก คุณต้องไปลองเองจะดีที่สุด เงินหนึ่งบาทของแต่ละคนมีค่าไม่เท่ากัน สำหรับผมค่อนข้างพอใจและคิดว่าคุ้มค่าดีกับราคาประมาณสี่พันปลายๆ ((ส่วนลดแล้วแต่ร้านค้า))
ราคาเท่าไรครับ ???
ลองดูจากดีลเลอร์ของไทยนะครับ central bike (ราคาตั้ง)
http://centralbike.co.th/products/lazer/genesis-mat-black-2013-helmets-road-edition-cb000370
ไม่ทราบว่ามีตัวแทนร้านไหนบ้างครับที่ขาย กำลังหาอยู่พอดีเลยครับ