สัปดาห์นี้ Mavic เปิดตัวล้อใหม่ Cosmic Ultimate UST ล้อคาร์บอนขอบสูงที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งขอบ ดุม และซี่ล้อ
ล้อซีรีย์ Cosmic Ultimate วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2006 คว้าชัยชนะมามากมายหลายสนามรวมถึงแชมป์แกรนด์ทัวร์ Giro d’Italia ปี 2012 ที่ไรเดอร์ เฮชเชดาลชนะบนจักรยาน Cervelo และล้อ Mavic จุดเด่นคือน้ำหนักเบาและความสติฟฟ์สูง แต่เมื่อเทคโนโลยีล้อและยางใหม่ๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา Mavic เห็นว่าต้องอัปเดตล้อรุ่นท็อปสุดของแบรนด์ให้รองรับด้วย
ใน Cosmic Ultimate รุ่นใหม่ ซี่ล้อคาร์บอนจะเชื่อมเป็นส่วนเดียวกับดุมและขอบล้อ ประกอบแกนดุมเข้าไป วางชิ้นคาร์บอนด้านนอกปิดแล้วนำไปอบในตู้ความดัน ออกมาเป็นล้อฟูลคาร์บอนแบบชิ้นเดียว
ไฮไลท์ Mavic Cosmic Ultimate UST
- รองรับยางทิวบ์เลส
- ขอบล้อด้านในกว้าง 19mm / ด้านนอก 26mm
- ความสูงขอบล้อ 40mm เน้นเป็นล้อ all round ที่ใช้งานได้ในหลากลายภูมิประเทศ
- ซี่ล้อคาร์บอนไฟเบอร์ 20 ซี่ทั้งหน้าและหลัง Mavic เคลมสติฟฟ์กว่าซี่ล้อทั่วไป 35%
- อัปเดตทรงขอบล้อใหม่ให้สู้ลมได้รอบด้านกว่าเดิม
- น้ำหนัก clincher คู่ละ 1,310 กรัม
- ดุมใหม่ระบบ Instant Drive 360
- ยังไม่รองรับดิสก์เบรกและยาง tubular
แอโรไดนามิก
Cosmic Ultimate ปรับดีไซน์ใหม่ทั้งขอบล้อ ซี่ล้อ และดุมให้รองรับยางทิวบ์เลส แต่ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนรูปทรงจากล้อทรงตัว ‘V’ ในรุ่นก่อนเป็นทรง NACA แบบฐานกว้างเพื่อให้สู้ลมข้างได้ดีขึ้น และเปลี่ยนดีไซน์ซี่ล้อเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100% ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีรูร้อยซี่ล้ออีกต่อไป ขอบล้อหลังออกแบบในทรงไม่สมมาตรเพื่อให้รับโหลดด้าน driveside ได้ดีขึ้น
Mavic ทดสอบล้อ Cosmic Ultimate กับล้อคาร์บอนขอบสูงยอดนิยมในตลาด 4 รุ่น โดยใช้ยางหน้ากว้าง 25mm ทั้งหมด ชาร์ทด้านบนแสดงค่าแรงต้านลมแบบเฉลี่ย (weighted average drage) ในมุมลมกระทบ (yaw) -20 ถึง 20 องศา แต่ให้น้ำหนักมุมแคบ 5-10 องศามากกว่า (เวลาส่วนใหญ่ที่เราปั่นเราแทบไม่เจอลมข้างที่กระทบเกิน 10 องศา ยิ่งปั่นเร็วยิ่งปะทะลมตรง) ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้จำลองการปั่นบนถนนจริงมากกว่าทดสอบกันแค่ในอุโมงค์ลม
ล้อ Cosmic Ultimate ลู่ลมใกล้เคียง Zipp 303, Bontrager Aeolus 3, ENVE SES 4.4 บางรุ่นมี drag น้อยกว่าในบางมุมลมกระทบ แต่ส่วนใหญ่ไม่หลุดกันมาก โดยที่ Cosmic น้ำหนักเบากว่าล้อทุกรุ่นที่ทดสอบ
นอกจากขอบล้อใหม่แล้วซี่ล้อคาร์บอนก็ไม่ได้เป็นทรงแบนแบบล้อ Lightweight แต่เป็นทรงรี แบนตรงหัวท้ายและอ้วนตรงกลางเพื่อการไหลผ่านลมที่ดีขึ้น ดุมใหม่ก็มีขนาดเล็กลงด้วย
เบรคใหม่
Mavic อัปเดตขอบเบรคให้เป็นแบบเดียวกับล้อในซีรีย์ Cosmic Pro Carbon UST ใช้เทคโนโลยี iTgMax ซึ่งมีส่วนผสมเรซิ่นที่ทนความร้อนได้ดีกว่าเดิม และใช้เลเซอร์เจียขอบผิวเบรคให้ได้ผิวสัมผัสผ้าเบรคที่หนึบกว่าขอบคาร์บอนทั่วๆ ไป ล้อมากับผ้าเบรคใหม่ที่ลดปัญหาเบรคเสียงดังและเนื้อผ้าเบรคติดขอบล้อ Mavic เคลมว่าผ้าเบรคใหม่นี้ช่วยให้เบรคระหว่างฝนตกได้ดีขึ้นด้วย
ดุมใหม่
นอกจากจะลดขนาดดุมให้เล็กลงแล้ว ยังอัปเดตใช้ดุม Instant Drive 360 (ทำงานคล้ายๆ DT Swiss star rachet) ปรับใช้บอดี้ดุมที่เล็กลงและน้ำหนักเบากว่าเดิม รองรับโม่ทั้ง Shimano/ SRAM/ Campagnolo และ XD-R
ซี่ลวดคาร์บอน
เทียบกับ Mavic Cosmic Ultimate รุ่นก่อนที่ใช้ซี่ลวดคาร์บอนแต่ร้อยเชื่อมกับดุมด้วยแกนโลหะ ในรุ่นใหม่ Mavic เชื่อมซี่กับข้อและดุมเข้าด้วยกันเป็นชิ้นเดียวคล้ายกับดีไซน์ในล้อ Lightweight, Mad Fiber และ Reynolds RZR
Mavic กล่าวว่าล้อขอบยางงัด (clincher) มีแรงดันภายในขอบล้อมากกว่าล้อ tubular ที่ยางติดกับขอบล้อด้วยกาวแทนที่จะใช้ยางงัดกับขอบล้อเหมือนในล้อ clincher ปัจจับนี้ทำให้ความตึงซี่ล้อในล้อยางงัดลดลง และยิ่งลดลงเมื่อใช้ยางทิวบ์เลส เพื่อทดแทนความตึงที่ลดลง Mavic เลยออกแบบกระบวนการขึ้นซี่ล้อคาร์บอนใหม่เพื่อให้ได้ความตึงที่เหมาะสม Spoke tension จะมากกว่ารุ่นเก่าประมาณ 10%
แน่นอนว่าล้อฟูลคาร์บอนทั้งชุดแบบนี้ราคาสูงแน่นอนเพราะใช้ระยะเวลาการผลิตนานกว่าล้อคาร์บอนทั่วๆ ไป วางจำหน่ายที่คู่ละ 4,250 USD (ประมาณ 140,000 บาท) มากับยางทิวบ์เลสของ Mavic หนึ่งคู่ พร้อมซีลแลนท์ ผ้าเบรค และถุงใส่ล้อ
Via: Mavic.com