[vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text][dropcap letter=”ถ้”]าพูดถึงภูเขาเด่นๆ ในรายการตูร์ เดอ ฟรองซ์ ขาประจำคงจะนึกถึงแอลป์ดูเอซ (Alpe d’Huez) และทัวร์มาเล (Col du Tourmalet) แต่ภูเขาอีกหนึ่งลูกที่ดังไม่แพ้กัน และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเพื่อนก็คือ Mont Ventoux ที่อยู่กลางแคว้นโพรวองซ์ (Provence) นั่นเอง และในสนาม Tour de France ครั้งที่ 103 ปีนี้ บรรดานักปั่นก็ต้องพิชิตยอดวงตูอีกครั้ง
[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_video link=”https://www.youtube.com/watch?v=Pu6BrVuTZw0″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]
ความเป็นมา
Mont Ventoux (ออกเสียงว่า “มง วงตู”) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเขตโพรวองซ์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส อายุเก่าแก่กว่าภูเขาแอลป์ลูกอื่นๆ เป็นภูเขาลูกสำคัญในแคว้นและเป็นภูเขาที่บันทึกตำนานอันโด่งดังในการแข่งขันตูร์ ไว้หลายต่อหลายครั้ง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ดูแล้งกันดารราวกับพื้นผิวพระจันทร์และความสูงชันราว 1900 เมตรที่ดูไม่ต่างกับ “กำแพงยักษ์” ทำให้เขาวงตูได้สมญานามว่า “The Giant of Provence” (ยักษ์แห่งโพรวองซ์) และ “Domaine des Anges” (ดินแดนของเหล่าเทพธิดา)
คำว่า ‘Ventoux’ เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ลมแรง” ก็สมชื่อเลยครับ เพราะยอดเขาวงตูเป็นหนึ่งในสถานที่ๆ ลมแรงที่สุดในโลก ในปี 1967 นักวิทยาศาสตร์บันทึกความเร็วลมได้ถึง 313 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! เขาวงตูนั้นมีอายุราว 94 ล้านปี เก่าแก่กว่าภูเขาลูกดังๆ ในเทือกเขาแอลป์แทบทั้งหมด และเอกลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดก็คือเป็นเขาหัวโล้น
เหตุผลที่วงตูโดดเด่นก็เพราะว่าในโพรวองซ์ ไม่มีภูเขาสูงลูกอื่นๆ อยู่รอบๆ เลยต่างกับภูเขาในเขตเทือกเขาแอลป์ที่มักจะอยู่ต่อกันเป็นทอดๆ วงตูจึงเป็นภูเขาที่สูงตระหง่านโดดเด่นอย่างโดดเดี่ยว เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของแคว้นโพรวองซ์นั่นเอง
ถ้าเรามองจากภาพถ่ายจะเห็นว่าบนยอดเขาวงตูนั้นเต็มไปด้วยหินทรายสีขาวก้อนเล็กๆ ทับถมเรียงกันเต็มไปหมด เป็นภูเขาหัวโล้น ไม่เหมือนเขาลูกอื่นๆ ในฝรั่งเศส แต่สภาพยอดเขาโล่งเตียนนี้มันมีที่มา
ด้วยความที่งวงตูเป็นภูเขาเพียงลูกเดียวในเขตโพรวองซ์ มันจึงเป็นแหล่งทรัพยากรที่ทุกคนต้องการจะเอาไปใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการตัดต้นไม้มาทำถ่านหิน เรือรบ และใช้เป็นวัตถุดิบอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ จึงมีการตัดไม้ทำลายป่ามาตลอดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1200 จนต้นไม้หายไปกว่าครึ่งภูเขา โชคดีที่ในปี 1875 รัฐบาลฝรั่งเศสออกกฏหมายป้องกันการตัดไม้และฟื้นฟูสภาพผืนป่าจนเดี๋ยวนี้ช่วงกลางภูเขาฟื้นกลับมาจนเป็นผืนป่าที่มีไม้ซีดาร์หลากหลายและหนาแน่นที่สุดในแคว้นเลยทีเดียว
[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]
เส้นทาง
นักปั่นสามารถปีนขึ้นเขาหลักๆ ได้จาก 3 ทาง แต่เส้นทางที่นิยมกันเราจะเริ่มไต่จากทางเมือง Bedoin ซึ่งจากจุดสตาร์ทไปยังยอดวงตูจะอยู่ที่ราวๆ 22.7 กิโลเมตรและความชันเฉลี่ยราวๆ 7.1% ซึ่งถือว่ายากพอสมควรเมื่อเทียบกับภูเขาลูกอื่นๆ ที่ใช้ในการแข่งขันจักรยานถนน
นักปั่นที่ออกตัวจากเมือง Bedoin นั้นอาจจะยังไม่ค่อยรู้สึกถึงความยากในการไต่เขาลูกนี้ เพราะจากตีนเขาเป็นทุ่งไร่องุ่นที่ดูสวยงามไร้พิษสง แต่พอเริ่มปั่นขึ้นไปจนถึงเมือง Saint Esteve เท่านั้นหละครับ ความชันแบบเด็กๆ จาก 4.5% จะพุ่งขึ้นไป 9-10% อย่างรวดเร็ว
จากการปั่นกินลมชมวิว รับกลิ่นต้นซีดาร์หอมๆ จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมต้านแรงโน้มถ่วงทันที เพราะที่ความชันระดับนี้ อุปสรรคสำคัญของนักปั่นไม่ใช่ลมต้าน แต่มันคือน้ำหนักตัวและน้ำหนักรถที่เราต้องออกแรงต้านนั่นเอง สำหรับเหล่านักปั่นอาชีพ ก็เป็นช่วงกลางภูเขานี่หละครับที่เขาออกแรงระเบิดพลังโจมตีกันครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อสลัดคู่แข่งให้หลุด ดั่งที่ ริชีย์ พอร์ทและคริส ฟรูมจากทีม Sky ทำเวลาทิ้งห่างศัตรูตัวฉกาจได้อยู่หมัดในตูร์สเตจ 15 ปี 2013 จากตรงนี้คุณอาจจะมองลอดผ่านยอดซีดาร์ทะลุไปเห็นยอดเขาลิบๆ พอได้ใจชื้น
เมื่อขึ้นมาถึงช่วงสี่กิโลเมตรก่อนถึงยอดภูเขาวงตู ความชันจะลดลงเหลือราวๆ 7% พอให้ได้พักขาสักหน่อย และเราจะมาถึงเมืองเล็กๆ นามว่า Charlet Reynard (เส้นชัยของสเตจ 11) ซึ่งจากจุดนี้เป็นต้นไปทัศนียภาพจะเริ่มเปลี่ยนจากป่าเขียวชะอุ่มมาเป็นทุ่งหินทรายสีขาวราวกับหิมะ เป็นประสบการณ์การไต่เขาที่ยากจะหาอะไรมาเปรียบเทียบได้
ถ้าโชคดี อากาศปรอดโปร่งก็อาจจะได้เห็นท้องฟ้าแจ่มใส และทุ่งลาเวนเดอร์สวยๆ แต่ถ้าดวงซวยอาจจะเจอลมความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะไม่มีต้นไม้บังลมให้เลยสักต้นเดียว เล่นเอาปลิวกันทั้งคนทั้งจักรยาน ใกล้ๆ ยอดเขาทางขวามือจะมีอนุสรณ์ ทอม ซิมพ์ซัน (Tom Simpson) ฮีโร่นักปั่นชาวอังกฤษฝีเท้าดีที่เคยเสียชีวิตให้กับมฤตยูวงตูในตูร์ 1967 ให้เหล่าแฟนพันธ์แท้จักรยานถนนได้มาระลึกถึงความหลัง ขึ้นไปอีกนิดจนถึงยอดสูงสุด คุณก็จะได้รางวัลตอบแทนเป็นวิวแบบพาโนราม่าเกือบ 360 องศามองลงไปเห็นแคว้นโพรวองซ์เกือบทั้งหมดครับ[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_column_text]
[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_column_text]
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]
In closing
ปีนี้เป็นครั้งที่ 16 ที่เหล่านักปั่นในรายการ Tour de France ได้มีโอกาสปีนขึ้นเขาวงตู ครั้งแรกที่ผู้จัดแข่งรวมเอาวงตูเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการแข่งขันนั้นเป็นปี 1951 แต่มีเพียงแค่ 8 ครั้งเท่านั้นที่วงตูเป็นเส้นชัยเสตจ ที่เหลือเป็นทางผ่าน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น นอกจากความชันแบบสุดโหดและทัศนียภาพที่แตกต่างแล้ว ความขลังของวงตูนั้นส่วนหนึ่งมาจาก การเสียชีวิตของทอม ซิมพ์ซันในปี 1967 ทอมเป็นนักปั่นดาวรุ่งชาวอังกฤษที่สร้างผลงานไว้เยอะกว่าใครๆ ในปีนั้นเขาปีนขึ้นวงตูจนเกือบจะถึงยอดเขา แต่กลับล้มลงก่อนจะถึงยอดเพียงไม่กี่กิโลเมตร
แฟนๆ จักรยานที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยพยุงทอมขึ้นมาให้ไปต่อ แต่ก็ไปได้เพียงแค่ 500 เมตร เขาล้มลงอีกครั้งและไม่เคยฟื้นอีกเลย สาเหตุการตายของทอมนั้นเกิดจากอาการขาดน้ำ (dehydration) และเสพแอมเฟตามีนมากเกินขนาด กลายเป็นตำนานที่ทำให้เขาวงตู ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ จักรยานตั้งแต่นั้นมา และโศกนาฏกรรมครั้งนี้ทำให้ผู้จัดแข่งตูร์กระชับมาตรการตรวจการใช้สารกระตุ้นของนักปั่นอย่างจริงจังนับแต่นั้นมา
มง วงตูเป็นหนึ่งในภูเขาที่แฟนจักรยานถนนพันธ์ุแท้ควรจะหาโอกาสไปปีนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากจะเป็นภูเขาที่ค่อนข้างยาก และมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนเขาลูกไหนแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำอีกด้วย
* * *
[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
Froome vs Quintana (Tour de France 2013)
[/vc_column_text][vc_video link=”https://www.youtube.com/watch?v=-eiN2vfGKhk”][/vc_column][/vc_row]
