เป็นข่าวใหญ่ไปทั่ววงการจักรยานเมื่อคืนนี้ครับเมื่อสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ตรวจพบสิ่งแปลกปลอมในจักรยานของนักปั่นสาว Femke Van den Drissche ชาวเบลเยี่ยม แชมป์ Cyclocross ยุโรประดับ U23 และยึดจักรยานไปตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นการโกงด้วยการติดมอเตอร์ทุ่นแรงในจักรยาน ระหว่างการแข่งขันสนามชิงแชมป์โลก Cyclocross U23
Peter Van den Abeele ผู้ประสานงานของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทาง UCI ตรวจพบสิ่งผิดปกติในจักรยานของเธอระหว่างที่เข้าพิท และพบว่ามันเข้าข่ายการโกงด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในการแข่งขัน (Mechanical Fraud)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ หลังจากแข่งได้ 1 รอบ UCI ได้ตรวจเช็คจักรยานของ Van den Drissche ระหว่างที่เธอเปลี่ยนรถในพิทข้างสนาม โดยใช้แท็บเล็ตและอุปกรณ์ตรวจจับอิเล็คทรอนิคส์ แต่เช็คได้ไม่นานทาง UCI ก็รีบยกจักรยานคันนั้นออกไปทันทีเพื่อตรวจสอบให้ละเอียดขึ้น
“พอคณะกรรมการถอดหลักอานออกก็พบว่ามีสายไฟโผล่ออกมาจากท่อนั่ง (downtube) และพอจะถอดขาจานออกจากรถก็ถอดไม่ได้ ซึ่งปกติแล้วเป็นอะไหล่ที่ถอดได้ไม่ยาก สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ขาจานติดเพราะมีมอเตอร์ซ่อนอยู่ข้างในกระโหลกเชื่อมต่อกับขาจาน” ผู้สื่อข่าวรายงาน
ทาง UCI ยังไม่ได้เอาเรื่องผิดกับ Van den Drissche เพราะต้องการสืบสวนทั้งจักรยานและตัวนักปั่นเพิ่มเติม
ตามกฏของ UCI ข้อ 12.1.013 นักปั่นที่โกงด้วยเทคโนโลยี (technological fraud) จะถูกสั่งแบนพักการแข่งอย่างน้อย 6 เดือน และต้องถูกปรับเป็นเงิน 20,000 – 200,000 สวิสฟรังก์ (ประมาณ 700,000 – 7,000,000 บาท)
ในส่วนของทีมของนักปั่นเองก็อาจจะถูกสั่งแบนห้ามแข่งทั้งทีมได้ และมีสิทธิโดนปรับ 100,000 – 1,000,000 สวิสฟรังก์ สำหรับสนามแข่งนี้ Van den Drissche แข่งให้กับทีมชาติเบลเยี่ยม ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษอย่างไร
พ่อของ Van den Driessche ปฏิเสธว่ามันไม่ใช่จักรยานของเธอ เขาอ้างว่ามันเป็นจักรยานของเพื่อนเธอ ที่ปกติฝึกซ้อมด้วยกัน และยืนยันว่าเธอไม่ได้ใช้จักรยานคันนี้ในการแข่งขันแน่นอน เขาบอกว่าเธอเป็นถึงแชมป์ยุโรป ไม่คิดจะโกงแน่นอน
แต่อาจจะเป็นคำพูดที่เราต้องฟังหูไว้หู เพราะน้องชายของ Van den Drissche ซึ่งเป็นนักปั่นอาชีพเหมือนกันกำลังรับโทษแบนหลังจากที่ถูกตรวจพบว่าใช้สาร EPO ระหว่างการแข่งขัน
ถือว่าเป็นเคสแรกที่ UCI จับได้ว่ามีนักปั่นใช้อุปกรณ์เสริมอย่างมอเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในจักรยาน เจ้ามอเตอร์ที่ว่านี้สามารถช่วยทดแรงนักปั่นได้สูงสุดถึง 200 วัตต์ และเป็นอุปกรณ์ที่มีขายจริงในตลาดแล้ว และเวลาติดตั้งแล้วจะมองไม่เห็นเลยว่ามีอะไรซ่อนอยู่ เพราะแบตเตอรี่ที่ใช้ก็มีขนาดเล็กและอาจจะซ่อนไว้บริเวณขากระติก หรือในท่อของเฟรมจักรยานเลยก็ได้ DT เคยเขียนถึงกลโกงแบบนี้ไว้แล้วที่บทความข้างล่างนี้ครับ
Via: Cyclingtips, Cyclingweekly, Velonews, Sporza, UCI.ch