เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่จักรยาน Focus Izalco Max Disc ครองตำแหน่งเฟรมเสือหมอบดิสก์ที่เบาที่สุดในโลกด้วยน้ำหนักเฟรมเพียง 790 กรัมมาตั้งแต่ปี 2016 แต่จากนั้นมาเราก็ไม่ได้เห็นอัปเดตเสือหมอบรุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์เยอรมันรายนี้อีกเลยนอกจากจะไม่อัปเดตรุ่นใหม่แล้ว Focus ยังเลือกไม่ผลิตเสือหมอบแอโรตามสมัยนิยมด้วย
จนถึงสัปดาห์นี้ที่ Focus กลับมาอีกครั้งกับเฟรม Izalco Max รุ่นใหม่ที่ผสมผสานความเป็นเฟรมสไตล์ All rounder น้ำหนักเบา กับดีไซน์ลู่ลม รื้อออกแบบใหม่ทั้งหมด จนมาเป็นเสือหมอบรอบด้านทันสมัยครับ ส่วนจะมีอะไรใหม่บ้าง ลองมาดูกัน
ตัวเฟรม Izalco Max Disc ยังคงรูปทรงเฟรมคลาสสิค แต่ปรับเปลี่ยนให้ลู่ลมได้ดีขึ้นด้วยรูปทรงท่อแบบ Kamn Tail ตลอดทั้งคัน, ท่อคอที่มีขนาดเล็กเพรียวลง, ซีทสเตย์แบบดรอปและซ่อนสายเกียร์และเบรคมิดชิดทั้งคัน
Focus เคลมว่าดีไซน์ใหม่ทั้งหมดนี้ช่วยให้ประหยัดแรงกว่า Izalco Max รุ่นก่อนได้ราวๆ 6% แปลงเป็นตัวเลขแบบเข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือประหยัดเวลาไปได้ราว 90 วินาทีที่ความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กับพลังการปั่น 200 วัตต์
แน่นอนว่า Focus ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำเฟรม all round ทรงแอโรครับ เราได้เห็นดีไซน์ลักษณะนี้แล้วในจักรยานรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปในปี 2017 และ 2018 ไม่ว่าจะเป็น Specialized Tarmac SL6, Cervelo R5, Canyon Ultimate CF SLX, และ Chapter 2 TERE เป็นต้น
Design
นอกจากรูปทรงเฟรมที่ลู่ลมมากขึ้นแล้ว ชิ้นส่วนอื่นๆ ก็ปรับให้เป็นดีไซน์แบบ integrated ตามสมัยนิยม เฟรม Izalco Max มากับสเต็มทรงแอโรแยกชิ้นที่ Focus ผลิตเองที่เดินสายเบรคและเกียร์ด้านในทั้งหมด
สเต็มแอโรตัวนี้มากับมุม -15° ซึ่งจะเห็นว่าค่อนข้างต่ำและกดกว่าสเต็มปกติที่คนทั่วไปใช้ แต่ Focus แก้ปัญหากลัวระยะ stack ต่ำเกินไปด้วยการเพิ่มความสูงท่อคอมาชดเชย (เทียบกับรุ่นก่อน) สเต็มมีให้เลือกในขนาด 80-120mm และใช้กับแฮนด์ธรรมดารุ่นอื่นๆ ได้
เฟรม Izalco Max 9 (รุ่นท็อป) หนัก 890 กรัม ในไซซ์ M ตะเกียบหนัก 358 กรัม ส่วนรุ่นรองลงมา Izalco Max 8 ที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์เกรดรองหนัก 1040 กรัม ตะเกียบหนัก 380 กรัม
ด้านสามเหลี่ยมหลังก็ปรับดีไซน์ตามสมัยเช่นกัน ซีทสเตย์กดต่ำแบบดรอป เพิ่มระยะเคลื่อนตัวของหลักอานที่ Focus (และผู้ผลิตแทบทุกราย) เคลมว่าช่วยให้หลักอานให้ตัวได้ดีขึ้น หรือลดแรงสะท้านจากถนนได้ดีกว่าเดิม แถมยังไม่ขวางลมเหมือนซีทสเตย์แบบธรรมดาด้วย
ใสส่วนของดิสก์เบรก เฟรมใช้ระบบแกนปลด R.A.T. Thru-axle ที่ Focus พัฒนาขึ้นมาเอง ฐานยึดดิสก์เป็นมาตรฐาน flat mount
Izalco Max รุ่นใหม่นี้เป็นเฟรมดิสก์ 100% นั่นคือไม่มีออปชันริมเบรกให้เลือก เฟรมรองรับยางกว้างสุด 28mm ใช้กระโหลก BB86 รองรับชุดเกียร์ทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ก็มีการปรับดีไซน์เล็กๆ น้อยๆ เช่นลดระยะดรอปของกระโหลกเล็กน้อยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงและผู้ปั่นรักษาบาลานซ์ได้ดีในการเข้าโค้งความเร็วสูงๆ จุดเด่นสุดเทียบกับเสือหมอบแข่งขันเจ้าอื่นคงเป็นด้านองศาและมิติรถที่มีไซส์ให้เลือก 7 ไซส์ตั้งแต่ XXS ไปจนถึง XXL
สเป็คและราคา
Izalo Max รุ่นใหม่มีให้เลือกทั้งแบบคอมพลีทไบค์ โดยจะแบ่งเฟรมเป็นสองระดับ
รุ่นท็อป Izalco Max 9 ใช้คาร์บอนเกรดสูงกว่ารุ่นรอง Izalco Max 8 ทำให้น้ำหนักเบากว่า ในสเป็คคอมพลีทไบค์ก็จะใช้สเป็คอะไหล่ที่สูงกว่าเช่นกัน
คอมพลีทไบค์รุ่นท็อป Izalco Max 9.0 Disc มากับชุดขับ Shimano Dura-Ace 9150 Di2, ล้อ DT Swiss ARC 1450 แต่มีออปชัน SRAM Red eTap และ Shimano Ultegra Di2 สำหรับคนที่ไม่ต้องการชุดขับ Dura-Ace ราคาเริ่มต้นที่ 9,000 ยูโรหรือประมาณ 340,000 บาท
รุ่นรอง Izalco Max 8 Series น้ำหนักมากกว่า Izalco Max 9 150 กรัม คอมพลีทไบค์รุ่นที่ราคาถูกที่สุดมากับชุดขับ Shimano 105 R7000 Disc และล้อคาร์บอนจาก Alex Rims ในราคา 3,000 ยูโรหรือประมาณ 110,000 บาท
ข้อมูลจากผู้นำเข้าในไทย Pro Cycle แจ้งว่าจะสั่งเข้ามาเฉพาะ Izalco Max 9 และสำหรับเฟรมเซ็ตราคาจะอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท
