พ้นจาก Tour of Flanders มาแล้วสัปดาห์นี้ก็ยังมีสนามใหญ่ให้ดูกันอีกหลายรายการ เช้านี้มาอัปเดตเรื่องการแข่งขันกันครับ
1. Tour of the Basque Country เริ่มสัปดาห์นี้
ถึงตอนนี้โปรหลายๆ คนกำลังจะเตรียมแก้มือผลงานคลาสสิคจาก Tour of Flanders ใน Paris-Roubaix นักไต่เขาและตัวเต็ง GC อีกหลายคนก็ไปฟิตซ้อมกันในสเปน ในสนาม Tour of The Basque Country (Vuelta a Pais Vasco) แข่งกัน 6-11 เมษายน ตัวเต็งมี ราฟาล ไมย์กา (Tinkoff), ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC), ฟิลลิป จิลแบร์ (BMC), ไนโร คินทานา (Movistar), ฌอง คริสทอฟ เพโรด์ และคาร์ลอส เบทันเคอร์ (AG2R), มิฮาล เควียทคอฟสกี (EQS), โทนี กาโลแพน (Lotto-Soudal), มิเคล เนียเว (Sky), บอเก้ โมเลมม่า (Trek), และแอนดรูว์ ทาลานสกี (Garmin)
ถ่ายทอดสดทุกวันทาง Eurosport เวลา 20:30-22:15 เช็คลิงก์ถ่ายทอดที่ Duckingtiger.com/live
2. ไมเคิล แมธธิวส์ ชนะ สเตจ 1 Tour of the Basque Country
สำหรับแชมป์สเตจ 1 ตกเป็นของไมเคิล แมธธิวส์จาก Orica-GreenEdge ที่สปรินต์เอาชนะมิฮาล เควียทคอฟสกี (EQS) และอิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha)
ครึ่งแรกของสเตจ เบรคอเวย์ 3 คนหนีไปได้จนถึง 17 กิโลเมตรสุดท้ายที่เป็นทางขึ้นเขาสูงชัน จนกลุ่ม peloton รวบจับได้ก่อนจะเริ่มปีนเขา กลุ่มตัวเต็งเร่งความเร็วจน peloton เหลือนักปั่นราว 60 คน ตามด้วยการโจมตีหลายครั้งของนักปั่นที่หวังแชมป์สเตจในช่วงกิโลเมตรสุดท้าย แต่ด้วยเส้นชัยเป็นทางราบ แม้แต่นักปั่นตัวแรงอย่าง ฟิลลิป จิลแบร์ (BMC) ก็ไม่สามารถหนีขบวน leadout ของทีมสปรินเตอร์ได้ ถึงหน้าเส้นชัยเป็น ไมเคิล แมธธิวส์ที่เปิดจังหวะสปรินต์ได้สมบูรณ์แบบ คว้าแชมป์สนามระดับ World Tour เป็นสเตจที่สองของฤดูกาล
3. เป้าหมายต่อไปของคริสทอฟ: Paris-Roubaix
ถึงแม้จะคว้าแชมป์สนามคลาสสิคระดับ Monument ไปถึงสองรายการ (Milan-San Remo 2014), (Tour of Flanders 2015) อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ เอซชาวนอร์เวย์จากทีม Katusha ก็ยังไม่พอใจกับผลงานของเขา
คริสทอฟให้สัมภาษณ์หลังแข่ง Flanders ว่าเขาอยากจะยกระดับผลงานให้เทียบเท่าหรือดีกว่าธอร์ ฮุชชอฟ อดีตโปรทีม BMC ชาวนอร์เวย์ร่วมชาติที่เคยได้แชมป์สนามแข่งวันเดียวรายการใหญ่หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลกจักรยานถนน แชมป์สนามคลาสสิค (แต่ฮุชชอฟไม่เคยชนะ Monument), แชมป์สเตจในแกรนด์ทัวร์ และแชมป์จ้าวความเร็วใน Tour de France
คริสทอฟกล่าวว่า เขาไม่ค่อยถนัดสนาม Roubaix ที่เป็นทางราบผสมถนนหินเท่าไร แต่ก็อยากลองดู ปกติเขาลง Roubaix ทุกปีตั้งแต่เทิร์นโปร แต่เคยแข่งเสร็จแค่ 3 ครั้งเท่านั้น เป้าหมายในใจตอนนี้คืออยากติด Top 10 ใน Roubaix ปีนี้ซึ่งจะเริ่มแข่งกันวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายนนี้
4. วิกกินส์ “ชนะ Paris-Roubaix จะมีความหมายมากกว่าชนะ Tour de France”
3 ปีผ่านไปหลังจากการเป็นแชมป์ Tour de France แบรดลีย์ วิกกินส์ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาจะมีความสุขที่ได้เป็นแชมป์ Paris-Roubaix มากกว่าแชมป์ Tour de France
“มันจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผม ไม่ใช่ว่า Tour ไม่ยิ่งใหญ่ แต่ในเวลานี้ Roubaix น่าตื่นเต้นกว่าครับ มันเป็นการแข่งวันเดียวที่จบสิ้นในระยะเวลา 6 ชั่วโมงเท่านั้น”
“ผมจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่แชมป์ Roubaix มีข่าวเรื่องการโด้ปมันเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ถ้าเทียบกับ Tour แล้ว เราแทบไม่เห็นเรื่องการโด้ปในสนามคลาสสิคเลย ข่าวในสนามคลาสสิคจะเป็นเรื่องการแข่งขัน เรื่องตัวเต็ง เส้นทาง และประวัติศาสตร์ของมันมากกว่าว่าใครโด้ป ใครถูกแบน ใครโกง…”
วิกกินส์กำลังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของอาชีพนักปั่น เขาจะแข่ง Paris-Roubaix เป็นสนามสุดท้ายให้ทีม Sky ก่อนที่จะออกไปอยู่กับทีม WIGGINS ทีมระดับ Continental ที่หวังปั้นนักปั่นอังกฤษมาช่วยเขาลงแข่งคว้าเหรียญประเภท Team Pursuit ในโอลิมปิก 2016
“มองย้อนกลับไปตอนนี้มันง่าย ผมมีความทรงจำที่ดีใน Tour สองอย่าง คือที่ชนะแชมป์สเตจ Time Trial ในเมือง Chartres และที่ได้ลีดเอาท์ให้มาร์ค คาเวนดิชในสเตจสุดท้ายที่ฌอง เซลิเซ่ (คาเวนดิชได้แชมป์ในสเตจนั้น) ผมคิดเสมอว่า ทำไมผมถึงชนะตูร์ได้นะ? ผมทนกับแรงกดดันเหล่านั้นได้ยังไง? ที่ต้องถูกถามว่าโด้ปหรือเปล่า ถูกตั้งข้อสงสัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป คริส ฟรูมขึ้นมาทำหน้าที่ล่าแชมป์แกรนด์ทัวร์แทนผม ผมสบายใจขึ้น ผมสามารถไปแข่งอย่างอื่นที่ยังไม่เคยแข่ง และไม่มีผลงานดีๆ ได้อย่าง Tour of Flanders และ Paris-Roubaix”
5. โทมัส: “ผมอยากเป็นนักแข่งแกรนด์ทัวร์ แต่กับทีม Sky มันไม่ใช่เรื่องง่าย”
ถึงจะเป็นนักปั่นระดับตัวเต็งสนามคลาสสิคที่ฟอร์มดีโดดเด่นในปีนี้ กับผลงานแชมป์ E3-Harelbeke แต่เกอเรนท์ โทมัส (Sky) ไม่ได้หยุดฝันไว้แค่แชมป์สนามแข่งวันเดียว เขาให้สัมภาษณ์ว่าอยากจะลองแข่งประเภทอื่นดูด้วย เช่นสเตจเรซหลายวัน หรือแกรนด์ทัวร์อย่าง Giro d’Italia และ Tour de France
“ปีนี้ผมอยากจะลงทั้ง Tour de France และ Vuelta a Espana”
อย่างไรก็ดี ทีม Sky มีเอซสนามแกรนด์ทัวร์อยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นคริส ฟรูม รีชิย์ พอร์ท และมิเคล เนียเว ซึ่งถ้าทีมต้องเพิ่มเกอเรนท์ โทมัสเข้าไปเป็นเอซอีกหนึ่งคนก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาภายในได้ ความเป็นไปได้คือเขาอาจจะเป็นหัวหน้าทีมเบอร์สอง รองจากพอร์ท หรือฟรูม ในกรณีที่หัวหน้าตัวจริงมีปัญหาระหว่างแข่งขัน
“เวลาที่คุณอยู่กับทีมอย่าง Sky มันไม่ใช่ว่าแค่บอกว่าผมอยากเป็นหัวหน้าทีมก็จะได้เป็น ดูอย่างฟรูมและพอร์ทปีนี้ ทั้งคู่มีผลงานระดับแชมป์รายการต่อเนื่อง พอร์ทเป็นผู้นำคะแนนในตาราง UCI World Tour ตอนนี้”
โทมัสเองก็ทำผลงานได้ดีในรายการสเตจเรซปีนี้ เขาได้แชมป์สเตจ และแชมป์รายการในสนาม Volta ao Algarve และได้อันดับ 5 overall ใน Paris-Nice
“ปีนี้ผมอยากเริ่มด้วยเป็นหัวหน้าทีมสนามแข่งสัปดาห์เดียว อย่างใน Paris-Nice ผมก็ทำผลงานได้ดี แล้วค่อยเลื่อนไปสนามที่ใหญ่กว่า แต่ก็ต้องดูด้วยว่าทีมจะโอเคกับแผนการของผมหรือเปล่า”
