ต้องแข็งแรงแค่ไหนถึงจะเป็นแชมป์สนามคลาสสิคได้?

Photo: Bettini Photo / Bora Hansgrohe

นักปั่นอาชีพจริงๆ แล้วแข็งแรงขนาดไหน? หลายครั้งที่เราเห็นโปรปั่นแข่งในทีวี ที่ทุกอย่างดู “ไม่ได้เร็วอย่างที่คิด” หรือหลายคนอาจจะคิดในใจว่า “ก็น่าจะปั่นตามได้นะ” วันนี้เราอาจจะต้องมองมุมนั้นใหม่ครับ เพราะวันนี้เรามีข้อมูลการปั่นของหนึ่งในตัวเต็งสนามคลาสสิค โอลิเวอร์ เนเซ็นจากทีม AG2R ที่อัปโหลดข้อมูลการแข่งสนาม Omloop Het Nieuwsblad และ Kuure Brussel Kuurne สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และ power output ของเขานั้นมันไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้นักปั่นอาชีพหลายๆ คนเริ่มให้ความสำคัญกับ “ความโปร่งใส” ยอมเปิดเผยข้อมูลทั้งการแข่งและการซ้อม โดยเฉพาะข้อมูล power data หรือค่าวัตต์ ซึ่งปกติแล้วโปรมักจะไม่ค่อยแชร์ข้อมูลนี้ เนื่องจากทีมคู่แข่งสามารถถอดข้อมูลไปวิเคราะห์ฟอร์มได้ไม่ยาก

แต่การเปิดเผยค่าวัตต์นั้นก็เปรียบเสมือนการแสดงความบริสุทธิ์ใจ มันทำให้เรารู้ว่าพละกำลังของเขาอยู่ในขอบเขตที่ไม่ได้มาจากการใช้สารโด้ป

โอลิเวอร์ เนเซ็น เป็นอดีตแชมป์เสือหมอบเบลเยียมวัย 28 ปี จากข้อมูลใน Wikipedia เขาสูง 184cm และหนัก 71kg แต่เป็นไปได้ว่าน้ำหนักสำหรับการแข่งขันน่าจะต่ำกว่าข้อมูลสาธารณะ

การรู้น้ำหนักนักปั่นเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเมื่อเรามีค่า power ของเขาเราสามารถหนำมาคิด power to weight ratio ได้

เนเซ็นไม่ชนะทั้งสองรายการ แต่เขาก็ทำอันดับได้ไม่เลว ใน Omloop เขาคว้าอันดับ 10 และใน KBK เขาได้อันดับ 43

ในสนาม Omloop ตลอดระยะเวลาแข่ง 4.45 ชั่วโมงกับระยะทาง 193 กิโลเมตร เนเซ็นปั่นด้วยพลัง 322 วัตต์ (weighted average) และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มไล่ ที่พยายามตามกลุ่มของชเน็ค สตีบาร์ (Quickstep) ที่เป็นแชมป์รายการ

วันรุ่งขึ้นเขาลงแข่งต่อทันทีในรายการ KBK ใช้เวลาแข่งเกือบห้าชั่วโมง และออกแรงต่อเนื่องราว 336 วัตต์

ถ้าเราใช้น้ำหนักตัวจาก wikipedia ของเขาที่ 71 กิโลกรัมมาคิด power to weight หมายความว่าเขาออกแรงเฉลี่ย 4.73 w/kg เป็นเวลาห้าชั่วโมงเต็มในรายการ KBK และ 4.53 w/kg ในสนาม Omloop

ห้าชั่วโมง!

แล้วเขาแข่งยังไง? ใน KBK เนเซ็นเป็นตัวรุกตัวหลักของวัน ทำงานร่วมกับทีมตัวเต็งอย่าง Quickstep และ Sky ในการกระชากตัดกลุ่มเปโลตอง พร้อมออกโจมตีบนเนินคัดตัว เช่นบนเนิน Oude Kwaremont ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เปลี่ยนรูปเกมในรายการ KBK และเนเซ็นต้องไล่ปิดการโจมตีของเอียน สแตนนาร์ด (Sky) และอีฟ แลมพาร์ท (Quickstep)

เขาออกแรงเฉลี่ย 419 วัตต์บนเนินที่ยาว 1.5 กิโลเมตรและชันเฉลี่ย 4% (ชันสูงสุด 11%) เป็นเวลา 3 นาที 45 วินาที นั่นคืออกแรงเฉลี่ย 5.9 w/kg ระหว่างเคลียร์เนินลูกนี้ ในฐานะหัวหน้าทีม AG2R เนเซ็นต้องทำเกมให้ตัวเองมีโอกาสชนะเยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีกลุ่มเองหรือปิดการโจมตีคู่แข่งก็ตาม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมค่าวัตต์เฉลี่ยของเขาอาจจะมากกว่านักแข่งคนอื่นๆ ที่รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยและไม่จำเป็นต้องรุกหนักในกลุ่มหน้าตลอดเวลา

สถิติบนเนิน Oude Kwaremont

ช่วง 65 กิโลเมตรสุดท้ายใน KBK เนเซนหนีเข้าเบรกอเวย์ตัวเต็งได้สำเร็จ (ที่มีบ็อบ ยุงเกลส์ ผู้ชนะรายการอยู่ด้วย) เบรกอเวย์ชุดนี้ปั่นหนีเปโลตองด้วยความเร็วเฉลี่ย 45kph และเนเซ็นใช้พลังเฉลี่ย 344 วัตต์

แต่อย่างที่เรารู้กัน บ็อบ ยุงเกลส์กระชากหนีกลุ่มของเนเซ็นไปที่ช่วง 15 กิโลเมตรสุดท้าย และกลุ่มของเนเซ็นถูกเปโลตองรวบในที่สุด แต่นั่นก็สะท้อนว่ายุงเกลส์ต้องแข็งแกร่งมากๆ ที่สามารถหนีเปโลตองและกลุ่มไล่ได้ ทั้งๆ ที่ในกลุ่มไล่เองอย่างเนเซ็นก็ออกแรงแทบจะเต็มข้อแล้วเหมือนกัน ที่สำคัญ​ยุงเกลส์ทำเวลาหนีกลุ่มหลังได้เกือบครึ่งนาที

ทั้งหมดนี้ก็น่าจะพอเห็นว่าจะเป็นตัวเต็งรายการคลาสสิคได้นั้นต้องแข็งแกร่งขนาดไหนครับ นี่เรากำลังดูข้อมูลของคนที่ได้อันดับ 10 และ 43 เท่านั้น~

ถ้าอยากดูสถิติการปั่นเต็มๆ ตามไปดูได้ในโปรไฟล์ Strava ของเนเซ็นในลิงก์ข้างล่างครับ

ที่มา: Oliver Naesen’s Strava (Omloop / KBK)

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *