ช่วงต้นปีนั้นไม่ได้มีแค่สนามคลาสสิคให้ติดตามครับ เดือนมีนาคมเราจะมีสองรายการสเตจเรซที่แข่งติดต่อกันหลายวันและเป็นสนามระดับ WorldTour ทั้งคู่ เรียกได้ว่าเป็นรายการสำคัญที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่นักปั่นใช้สร้างฟอร์มสำหรับเตรียมตัวลงแข่งขันแกรนด์ทัวร์รายการแรกของปี
สองรายการนี้คือ Paris-Nice ในฝรั่งเศส และ Tirreno Adriatico ในอิตาลี ทั้งสองรายการเต็มไปด้วยนักปั่นชื่อดังทั้งสปรินเตอร์และนักไต่เขา โพสต์นี้เราจะมาดูเส้นทาง กำหนดการถ่ายทอดสด และตัวเต็งที่น่าสนใจครับ
Paris-Nice, 4-11 มีนาคม 2018
Paris-Nice เป็นสเตจเรซเก่าแก่ในฝรั่งเศส ปีนี้แข่งเป็นครั้งที่ 75 แล้ว แข่งรวมทั้งหมด 8 วันมีทั้งสเตจทางราบ ภูเขา และปั่นจับเวลา และมี Time bonus ให้อันดับโพเดี้ยมในแต่ละวัน 10-6-4 วินาที จะเรียกว่าเป็น Tour de France เวอร์ชันมินิก็ว่าได้
สเตจ 1 แข่งจบไปเมื่อวานนี้ เส้นชัยเป็นทางขึ้นเนินถนนหิน อาร์นอร์ เดอมาร์ (FDJ) ได้แชมป์ไปแล้วและขึ้นนำเวลารวมเป็นคนแรก
สเตจ 2 ทางราบสนิท น่าจะจบด้วยการสปรินต์
สเตจ 3 ทางโรลลิงแต่มีเขาระดับ cat 3 ก่อนถึงเส้นชัย จบได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับรูปเกม
สเตจ 4 time trial 18.4 กิโลเมตร น่าจะมีผลต่ออันดับ gc พอสมควร
สเตจ 5 ภูเขาเยอะแต่ช่วงท้ายเป็นทางราบ อาจจะจบด้วยเกมเบรคอเวย์หรือสปรินต์
สเตจ 6 ภูเขาเยอะเช่นกัน ยากและท้าทาย น่าจะเป็นโอกาสทำเวลาแย่งชิงกันระหว่างตัวเต็งรายการ
สเตจ 7 เป็นไฮไลท์ของรายการ เส้นชัยขึ้นเขายาว 16 กิโลเมตร ชันเฉลี่ย 7%
สเตจ 8 โหดร้ายทารุนกับทางขึ้นเขาซ้ำๆ กันต่อเนื่อง 7 ครั้ง แต่สั้นแค่ 110 กิโลเมตร
ใครลงแข่งบ้าง?
1. Sky เป็นแชมป์รายการนี้มา 6 สมัยแล้ว มีแค่ปีเดียวที่เสียแชมป์ให้คนอื่นไป แต่ปี 2017 เซอร์จิโอ้ เฮนาวก็เฉือนเอาชนะอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ไปได้อย่างเฉียดฉิว ชนะแค่ 1 วินาทีเท่านั้น
ปีนี้ Sky ส่งเวาท์ โพลส์ และเฮนาวเป็นหัวหน้าทีมเหมือนเดิม พร้อมเด็กใหม่ เดวิด เดอ ลาครูซที่ย้ายมาจาก Quickstep เรียกได้ว่าเป็นทีมที่นักไต่เขาร้ายที่สุดในรายการก็ว่าได้ ส่วนจะได้แชมป์ไหมนั้นคงต้องดูกันแบบวันต่อวัน อาจจะเสียเปรียบในสเตจ Time Trial แต่ด้วยระยะทางที่ไม่ยาวมากนักก็ไม่น่าจะเสียโอกาสเท่าไรถ้าฟอร์มดี
2. Quickstep นำทีมโดยจูเลียน อลาฟิลลิป แต่ดูจากรายชื่อนักปั่นในทีมแล้วน่าจะหนักไปทางสปรินต์มากกว่า ส่งผู้ช่วยเอเลีย วิวิอานีมาไม่น้อยเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วปีนี้ QS ก็ไม่เหลือนักไต่เขาช่วยตัวเต็งเท่าไร แต่เขาก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นทีม Classic / Sprint ก็ต้องดูว่าอลาิฟลลิปจะทำอะไรได้บ้าง เพราะปีที่แล้วก็เคยได้เสื้อเหลืองจากแชมป์สเตจ TT แต่ปิดจ็อบไม่ได้
3. Astana เป็นทีมที่น่าสนใจเพราะพอขาดอดีตหัวหน้าทีมอย่างนิบาลีและอารูไปก็ดูจะพัฒนานักปั่นรุ่นใหม่ๆ (รวมถึงรุ่นเก่าๆ ที่ไม่ค่อยมีบทบาท) ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ รายการนี้ส่งยาค็อบ ฟูลก์แซง กับหลุยส์ ลีออน ซานเชซ แชมป์เก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว เป็น all rounder ทั้งคู่ และฟูลก์แซงเองก็น่าจะยืนเกมนระยะสั้นสู้กับตัวเต็งทีมอื่นได้ดีทีเดียว ดูจากผลงานสเตจเรซหนึ่งสัปดาห์ของเขาที่ผ่านมา
4. Lotto-Soudal อาจจะไม่ใช่ทีมที่เราพูดถึงบ่อยเวลาคุยเรื่องเกม GC และสเตจเรซ แต่ปีนี้ทิม เวลเลนส์ดูจะฟอร์มดีเป็นพิเศษ เพิ่งชนะ Ruta del Sol มาหยกๆ เป็น all rounder ที่ใจถึง ชอบหนีในจังหวะที่คนไม่คิดจะหนี (แต่ก็เฟลบ่อยไม่แพ้กัน) และไต่เขาได้ดีมากๆ ด้วย เป็นม้ามืดที่น่าจับตามองครับ
5. Mitchelton-Scott ส่งคู่เอสเตบาน ชาเวซ และไซมอน เยทส์ เป็นรายการแรกที่เราจะได้เห็นชาเวซลงสนามเทียบมือกับตัวเต็งคนอื่นๆ จากปีก่อนที่ป่วยแล้วฟอร์มดรอปๆ ไปบ้าง ทีมนี้ผู้ช่วยเยอะและแข็ง แต่น่าจะเสียเปรียบในสเตจ Time Trial
นอกจากห้าทีมนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่น่าสนใจครับ จับตามองพี่น้องอิซาร์เกอเร (Bahrain Merida) ที่เมื่อวานเกือบชนะสเตจ 1 แพ้ให้เดอมาร์ไปนิดเดียว
ทางฝั่ง AG2R ก็มีโทนี กาโลแพน ซึ่งต้องบอกว่าฟอร์มตกไปตั้งแต่ Tour de France 2014 มีผลงานรายการเล็กๆ บ้างแต่ดูจะยังไม่ขึ้นมาเทียบชั้นกับรุ่นพี่ได้เท่าไรนัก อย่างน้อยทีมมีอเล็กซิส วิลเยอร์มอซ ตัวเบรคอเวย์ที่หนีเกือบชนะในสเตจหนึ่งเมื่อวาน โดนจับหน้าเส้นชัยพอดี และน่าจะสร้างสีสรรค์ในเกมเบรอคเวย์ได้บ้าง
Trek-Segafredo คาดหวังกับเบาเก้ โมเล็มม่า ที่ต้องรับไม้ต่อจากอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ มีลุ้นโพเดี้ยมเหมือนกัน
UAE ส่ง แดน มาร์ติน เด็กเก่า Quickstep ที่สู้สเตจเรซหนึ่งสัปดาห์ได้ดี ถ้าพลาดไปยังมีรูย คอสต้ามาช่วย แต่ทั้งคู่ดูจะน่าลุ้นแชมป์สเตจมากกว่าแชมป์รายการ
Katusha ส่งอิลเนอร์ ซาคารินเข้าประกวด เป็นคนเงียบๆ ที่จริงๆ ผลงานไม่เงียบเท่าไร ปีที่แล้วโพเดี้ยม Vuelta และชนะ Tour de Romandie ปั่น Time Trial ได้ดี ขึ้นเขาไม่แพ้ใคร อาจจะเป็นคนที่มีลุ้นโพเดี้ยมที่สุดคนหนึ่งในรายการนี้ถ้าฟอร์มดีครับ
ส่วนทางฝั่งสปรินเตอร์เรามีอเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (UAE), จอห์น เดเกนโคลบ์ (Trek), แมทเทโอ เทรนติน (Mitchelton-Scott), เอเลีย วิวิอานี (Quickstep), อานอร์ เดอมาร์ (FDJ), และแมกนัส นีลเซ็น (Astana)
กำหนดการถ่ายทอดสด: ถ่ายทาง Eurosport ทุกวัน เช็คตารางเวลาที่ duckingtiger.com/live
Tirreno-Adriatico, 7-13 มีนาคม 2018
อีกสองวันถัดจากนี้สเตจเรซอีกหนึ่งรายการจะเริ่มในอิตาลี เป็นสนาม Tirreno-Ariatico (TA) ที่ปั่นข้ามฝั่งหนึ่งของอิตาลีไปจบอีกฝั่งครับ
นักปั่นที่ไม่ได้ลงใน Paris-Nice ก็จะมาเลือกลงรายการนี้แทน เป็นรายการคู่แข่งกันเลย เพราะว่าคนจัดแข่งนั้นก็คือเจ้าของ Giro d’Italia ในขณะที่ผู้จัด Paris-Nice คือ ASO เจ้าของ Tour de France นั่นเอง เรียกได้ว่าแย่งดาวดังกันสุดๆ
แล้วใครมาลงแข่งบ้าง? รายการนี้ก็ดาราคับคั่งไม่แพ้กันครับ มาทั้งคริส ฟรูม (Sky), ทอม ดูโมลาน (Sunweb), โรเมน บาเดต์ (AG2R), วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain), มิเคล แลนด้า (Movistar), ริกโอเบอร์โต้ อูราน (EF), ปีเตอร์ ซากาน (Bora), มาร์ค คาเวนดิช (Dimension Data), และเฟอร์นันโด กาวิเรีย (Quickstep)
เส้นทาง
รายการนี้จะปิดหัวท้ายด้วย Time Trial
สเตจ 1: Team Time Trial 21.5 กิโลเมตร เริ่มวันแรกก็จัดเกรด GC กันแล้ว
สเตจ 2 สำหรับสปรินเตอร์ มีภูเขาตอนเริ่มให้ชิงเสื้อเจ้าภูเขากัน ที่เหลือก็คงจบด้วยการสปรินต์ธรรมดาๆ
สเตจ 3 เป็นทางโรลลิงซึ่งไม่น่าจะจบสปรินต์แน่ๆ แต่เปิดโอกาสให้เบรคอเวย์แข็งๆ หนีไปเก็บแชมป์สเตจได้ แล้วยาวตั้ง 240 กิโลเมตร นี่เป็นสนามคลาสสิคอย่างย่อมๆ ก็ว่าได้ครับ เผลอๆ พวกตัวเต็ง GC อาจจะเสียเวลากันด้วย
สเตจ 4 เป็นไฮไลท์ของรายการ ทั้งยาวและชัน โดยเฉพาะช่วงสุดท้าย ที่ปีนเขากันยาวๆ ไปเจอเส้นชัยบนยอด แต่เกมไม่จบวันนี้แน่นอน
สเตจ 5 เปิดโอกาสให้สปรินเตอร์แก้มือ ? อาจจะไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะช่วงท้ายทางเป็นเซอร์กิตเจอเนินลูกเดียวกันสามครั้ง และที่นี่เป็นเมืองบ้านเกิดของมิเคลลี สคาร์โพนี นักปั่นทีม Astana ที่เสียชีวิตไปเมื่อปีก่อนครับ
สเตจ 6: เส้นทางเรียบง่ายไม่ซับซ้อน คงจบสปรินต์
สเตจ 7 เป็นวันตัดสิน กับ time trial สั้นๆ 10.9 กิโลเมตรที่จะใช้หาผู้ชนะเวลารวม ไม่ยาวเท่าไร เพราะงั้นคนที่ทำเวลาตุนในสเตจ 4 ได้เยอะก็น่าจะยังมีโอกาสรอดต่อให้ปั่น TT ไม่เก่ง
ใครลงแข่งบ้าง?
ว่าตามตรง ตัวเต็ง TA น่าสนใจกว่าใน Paris-Nice มากครับ ตัวโหด GC และสปรินเตอร์ชื่อดังมากองรายการนี้กันหมด เริ่มจากสปรินเตอร์ก่อน คาเล็บ ยวน (Mitchelton), คาเวนดิช (Dimension Data), กาวิเรีย (Quickstep), คิทเทล (Katusha), และซากาน (Bora)
Pure Climber ก็มีหลายคน มิเกล โลเปซ (Astana), และโรเมน บาเดต์ (AG2R)
สายคลาสสิคก็มาด้วย จะเห็นว่ามีหลายสเตจที่เส้นทางดูยากๆ คล้ายรายการคลาสสิคครับ – ทีจ เบนูท (Lotto-Soudal), แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC), พริมอซ โรจ์กลิค (LottoNL), และดิเอโก้ อูลิซซี (UAE)
ทางฝั่ง GC มีทั้งเคลเดอร์แมน (Sunweb), ไมย์ก้า (Bora), อารู (UAE), นิบาลี (Bahrain) และสปิแลค (Katusha)
แต่ตัวเด็ดที่แท้จริงคือศึกระหว่างดูโมลาน (Sunweb), คริส ฟรูม (Sky), และมิเคล แลนด้า (Movistar) ทั้งฟรูมและดูโมดูน่าลุ้นที่สุดเพราะมีสเตจ Time Trial สองสเตจที่เอื้อต่อทั้งสองคน
กำหนดการถ่ายทอดสดดูได้ใน Duckingtiger.com/live ครับ
