เพโดร เดลกาโด้กับการมาสายที่ทำให้เสียแชมป์ Tour de France

ใน Freeze Frame ตอนที่แล้วเราได้เห็นนักปั่นตัวเต็งเสียแชมป์ Tour de France ในวันสุดท้ายด้วยเวลาที่เฉือนกันแค่ 8 วินาที

แต่เรื่องราวที่ DT จะเล่าวันนี้เป็นมุมกลับครับ ที่นักปั่นคนหนึ่งเสียแชมป์เพราะมาแข่งสายตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน!

ย้อนไปสัก 20 กว่าปีที่แล้ว Tour de France แทบทุกปีจะเริ่มด้วยการปั่นที่เราเรียกว่า “Prologue” แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่าสเตจโหมโรง ซึ่งจะเป็นการแข่งแบบจับเวลาบุคคลระยะทางสั้นๆ ไม่เกิน 7-8 กิโลเมตร เปิดโอกาสให้เราได้เห็นฟอร์มตัวเต็งตั้งแต่เนิ่นๆ (สมัยนี้ผู้จัดชอบใช้สเตจทางราบเปิดการแข่งขัน ช่วยให้สปรินเตอร์มีโอกาสได้คว้าเสื้อเหลืองบ้าง)

การปั่นจับเวลาสั้นๆ 7-8 กิโลเมตรจริงๆ แล้วก็ไม่น่าจะทำให้ใครเสียแชมป์ได้จริงไหมครับ? ระยะทางไม่ไกล นักปั่นทำเวลานำได้ไม่มาก แต่ไม่ใช่กับเพโดร เดลกาโด้ หนึ่งในตำนานนักปั่นยุค 80s ที่เป็นแชมป์ Vuelta a Espana มาแล้วสองสมัย ในตูร์ปี 1989 เขาเสียแชมป์เพราะว่าเริ่มแข่งสายตั้งแต่วันแรก….

เดลกาโด้เพิ่งได้แชมป์ตูร์ปี 1988 มาหยกๆ สื่อทุกสำนักประโคมให้เดลกาโด้และลอเรนท์ ฟิญญองเป็นตัวเต็งเบอร์หนึ่งทั้งคู่กัน ถ้าจะให้เปรียบกับสมัยนี้ก็คงไม่ต่างกับคริส ฟรูม ปะทะทอม ดูโมลาน

วันแรกของการแข่งเป็น Prologue ระยะทาง 7.8 กิโลเมตรในเมืองลักเซมเบิร์ก เดลกาโด้มาถึงสนามแข่งก่อนคนอื่นเกือบครึ่งชั่วโมง เซ็นชื่อพร้อมแข่งแล้วก็ออกไปวอร์มอัป…ตามลำดับการปล่อยตัวแล้ว เขาต้องออกเป็นคนสุดท้ายเพราะเป็นแชมป์เก่า ใส่เสื้อเหลืองและติดเบอร์ 1

แต่พอถึงเวลาที่เดลกาโด้ต้องออกสตาร์ท เขากลับไม่อยู่บนแรมป์ปล่อยตัว

วิดีโอไฮไลท์

เขาหายไปไหน?!

นั่นคือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ ทั้งโค้ชและช่างประจำทีมวิ่งหาตัวเดลกาโด้กันให้วุ่น ผู้ชมแถวนั้นบอกว่าเห็นปั่นแว้บๆ ไปหลังตึกอีกบล็อกหนึ่ง (สมัยก่อนไม่ได้วอร์มอัปบนเทรนเนอร์ข้างจุดสตาร์ทเหมือนเดี๋ยวนี้ นักปั่นออกไปปั่นวอร์มกันจริงๆ) คนอื่นๆ บอกว่าเห็นเขาไปจิบกาแฟกับสาวๆ บ้างบอกทะเลาะกับตำรวจจราจรอยู่…

แต่ความจริงก็คือ เขาวอร์ม “เพลิน” ไปหน่อย เดลกาโด้ให้สัมภาษณ์ The Times

“สติผมลอยไปไหนก็ไม่รู้ครับ วอร์มจนเพลินนั่นแหละ คือทุกอย่างเริ่มอย่างปกติ ผมออกจากโรงแรมตรงเวลา ออกไปวอร์มบนถนนข้างๆ ลำดับเป็นไปตามตารางทั้งหมด…แต่ผมไม่ได้ดูเวลา พอกลับมาถึงแรมป์ กรรมการบอกว่าผมมาสาย”

จากวินาที ยาวเป็นนาที จนสุดท้ายเดลกาโด้โผล่มาช้ากว่าเวลาออกสตาร์ท 2 นาที 40 วินาที…ซึ่งกฏการแข่งขันนั้นไม่ได้หยุดเวลารอครับ ถึงเวลาปล่อยตัวก็เริ่มนับทันที

เดลกาโด้ออกสตาร์ทด้วยความลุกลี้ลุกลน แต่ด้วยมาดแชมป์แกรนด์ทัวร์ ปั่นไปได้ระยะหนึ่งเขาก็สงบสติได้และค่อยๆ ทำเวลาดีขึ้นเรื่อยๆ เขาทำเวลาวันนั้นได้ไม่เลวเลย ช้ากว่าเวลาของแชมป์สเตจแค่ 14 วินาทีเท่านั้น แต่ด้วยที่เขาออกสตาร์ทช้า 2 นาที 40 วินาที ทำให้ต้องบวกเวลาที่เริ่มช้าไปด้วย หมายความว่า หลังจบสเตจ เดลกาโด้ก็ตามหลังคู่แข่งคนอื่นถึง 2 นาที 54 วินาที! กลายเป็นแชมป์ Tour de France ตกไปอยู่ท้ายตารางทันที

มันจะเครียดขนาดไหนที่ต้องแข่งต่ออีก 20 วันโดยที่รู้ว่าตัวเองแทบจะหมดโอกาสคว้าแชมป์ด้วยความผิดพลาดที่นักแข่งสมัครเล่นเขายังไม่พลาดกัน ความกังวลสะสมทำให้เดลกาโด้นอนไม่หลับ และพักฟื้นได้ไม่ดี บางวันเตรียมตัวไม่ดี กินไม่พอจนน้ำตาลตกระหว่างแข่ง ยิ่งถึงสเตจ Team Time Trial ทีมของเดลกาโด้เข้าเส้นชัยด้วยเวลาที่ช้าที่สุด ช้ากว่าทีม Super U ของฟิญญองถึง 4 นาที 32 วินาที!

การแข่งยังไม่พ้นสัปดาห์แรกเดลกาโด้ก็เสียเวลาไปแล้วร่วม 7 นาที เสียเยอะขนาดนี้ตัวเต็งบางคนกลับบ้านไปแล้ว กระนั้นเขาก็พยายามจะทวงเวลาคืนครับ ในสเตจภูเขาเดลกาโด้โชว์ฟอร์มแกร่งออกโจมตีแทบทุกสเตจ สุดท้ายเขาจบการแข่งขันด้วยอันดับสาม ตามหลังเกร็ก เลอมองด์ +3:34 นาที (ฟิญญองได้ที่สอง ช้ากว่าเลอมองด์ 8 วินาที)

ก็เป็นการมาสายที่ทำให้เขาต้องเสียใจไปทั้งชีวิต ทั้งๆ ที่เขาฟอร์มดีมาก ต่อให้เริ่มช้าก็ยังไล่คืนเวลาที่เสียกลับมาได้เกินครึ่ง ใครจะรู้ ถ้าเขามาแข่งตรงเวลาในสเตจแรก เขาอาจจะกลายเป็นแชมป์ตูร์ 2 สมัยไปแล้วก็ได้

โพเดี้ยมสุดท้ายใน Tour de France 1989: เลอมองด์ (กลาง), ฟิญญอง (ซ้าย) และเดลกาโด้ (ขวา)

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *