พรีวิว: Tirreno-Adriatico

[dropcap letter=”ถ้”]าไม่นับสนามแกรนด์ทัวร์ ก็ไม่บ่อยที่เราจะได้เห็นนักปั่นระดับตัวเต็งลงแข่งสนามเดียวกัน พร้อมๆ กันหลายคน เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสนาม Tirreno-Adriatico ปีนี้ถึงดูคึกคักเป็นพิเศษครับ ปีนี้มากันทั้ง วินเชนโซ นิบาลิ (Astana) อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo), ไนโร คินทานา (Movistar) และเกือบจะมีคริส ฟรูม (Sky) มาด้วย แต่ดันป่วยซะก่อน กับการแข่งขัน 7 สเตจที่มีเส้นทางทั้งสำหรับสปรินเตอร์ นัก TT และนักไต่เขาแล้ว รายการนี้ก็เป็นแกรนด์ทัวร์ฉบับย่อที่น่าดูที่สุดในเดือนมีนาคม

[infobox subtitle=”

Tirreno-Adriatico
วันที่: 11–17 มีนาคม
ระดับ: UCI World Tour
ออกเสียง: เทอเรียโน-เอดริอาติโค” bg=”orange” color=”white” opacity=”off” space=”30″ link=”no link”]2015 Tirreno-Adriatico [/infobox]

เส้นทาง

tirreno-adriaticomap

รายการนี้ถือเป็นหนึ่งในสนามที่เก่าแก่ของอิตาลีครับ แข่งกันมาเป็นครั้งที่ 50 แล้ว (เริ่มปี 1966) เส้นทางเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ก่อนเป็นนักปั่น Time Trial และสปรินเตอร์ที่ได้แชมป์รายการ (แคนเชอลาราเคยได้แชมป์รายการนี้) ปีหลังๆ มานี้เปลี่ยนมาเน้นการไต่เขามากขึ้นเพื่อจำลองสนาม Giro d’Italia ขนาดย่อม (ผู้จัดเดียวกัน) สังเกตได้จากแชมป์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีแต่นักไต่เขาครับ เช่นคาเดล เอวานส์, นิบาลิ, สคาร์โพนี, คอนทาดอร์

เส้นทางปีนี้ถือว่าครบครัน มีสเตจ Time Trial บุคคลสั้นๆ ในสเตจแรก สเตจทางราบ 2 สเตจ สเตจกึ่งเขาหนึ่งสเตจ สเตจที่จบด้วยทางลงเขาหนึ่งสเตจ (!) และสเตจที่จบบนยอดเขา 1 สเตจ เพราะฉะนั้นนักปั่นที่จะชนะได้ก็ต้องถือว่ารอบด้าน all round ทั้งการไต่เขาและ Time Trial ตามสูตรผู้ชนะแกรนด์ทัวร์

Movistar_Team_2558-Mar-11
สเตจ 1: March 11: Lido di Camaiore, 5.4km (ITT)

เป็นสเตจ Individual Time Trial สั้นๆ ที่แชมป์สเตจตกเป็นของอาดรีอาโน มาลอรี (Movistar) ดาวรุ่ง TT (เมื่อวานนี้) ตอนแรกสเตจนี้จะเป็นการแข่ง Team Time Trial แต่ผู้จัดเปลี่ยนรูปแบบให้แข่งเดี่ยวเพราะลมแรงเป็นอันตรายต่อการแข่งเป็นทีม TT ครับ

สเตจ 2: March 12: Camaiore to Cascina, 153km
T02_alt.0

สเตจทางราบสำหรับขาแรงสปรินเตอร์ เกมแบบเดิมๆ แน่นอน เบรคอเวย์หนี ทีมสปรินต์เตอร์รวบ ส่งเอซชิงสปรินต์ที่หน้าเส้นชัย เดี๋ยวเรามาว่ากันเรื่องตัวเต็งที่น่าจับตามองอีกที แต่ข้อดีของสเตจนี้คือระยะทางสั้นดี แค่ 153 กิโลเมตร น่าจะเดือดใช้ได้ครับโดยเฉพาะช่วง 20 กิโลเมตรสุดท้าย

สเตจ 3: Cascina to Arezzo, 203km
T03_alt.0

สเตจนี้น่าสนใจ (มาก) เห็นเส้นชัยเป็นทางเรียบๆ ราบๆ แบบนั้นจริงแล้วมีเนินกระดกตรงกิโลเมตรสุดท้าย ที่ชันพอจะใช้ตัดแรงเพียวสปรินเตอร์ได้ดีมากๆ ขึ้นเนินมาแล้วถ้าทีมแข็งอาจจะพาลากโหดๆ ทิ้งห่างคู่แข่งอีกรอบในช่วงทางตรงหน้าเส้นชัย ปีที่แล้วซากานชนะสเตจนี้ ปีนี้ก็มีลุ้นเหมือนกัน และเบรคอเวย์เองก็มีโอกาสที่จะหนีเดี่ยวด้วย

สเตจ 4: Indicatore to Castelraimondo, 217km
T04_alt.0

อีกหนึ่งสเตจที่มีโอกาสเกิดดราม่าสูงมาก ระยะทางยาวถึง 226 กิโลเมตร มีเนินและเขาเพียบ 25 กิโลเมตรสุดท้ายโหดร้ายกระชากใจมากครับ เพราะนักปั่นต้องขึ้นเขาชัน 9.3% ที่ยาว 4 กิโลเมตร (OMG) ถึงสองครั้ง แล้วเป็นทางลงเขายาวเข้าเส้นชัย เราคงยังไม่เห็นผู้ชนะรายการจากสเตจนี้ แต่น่าจะเป็นสเตจที่สนุกที่สุดในสนาม Tirreno ห้ามพลาดครับ

สเตจ 5: Esanataglia to Terminillo, 194km
T05_alt.0

สเตจที่จบบยอดเขา น่าจะเป็นสเตจตัดสินผู้ชนะ เขาลูกสุดท้ายความยาว 16 กิโลเมตร ความชันเฉลี่ย 7.3% (!!) ปีนกันยาวๆ สนุกๆ และน่าจะได้เห็นนักไต่เขาสาดกระสุนกันไม่ยั้งเลยทีเดียว

สเตจ 6: Rieto to Porto Sant’Elpidio, 210km
T06_alt.0

สเตจรองสุดท้ายทางราบสำหรับสปรินเตอร์ ดูจากโปรไฟล์ภูเขาช่วงแรกแล้วอาจจะจับกลุ่มหนียากสักหน่อย แต่ทางลงเนินในช่วง 50 กิโลเมตรสุดท้ายทีมสปรินต์เตอร์น่าจะคุมเกมได้ไม่ยากนัก

สเตจ 7: San Benedetto del Tronto, 10km (ITT)
T07_alt.0

ปิดรายการด้วยสเตจ Time Trial ริมทะเล Adriatic ระยะทาง 10 กิโลเมตร เปิดโอกาสให้ตัวเต็งได้ลุ้นแก้ตัวกันอีกรอบถ้าปีนเขาไม่ดีในสเตจที่ 4/5 ถึงระยะทางจะไม่ยาวมาก แต่เมื่อรวมอุปสรรคกระแสลมทะเลในสเตจนี้แล้วก็มีสิทธิที่จะจัดอันดับโพเดี้ยมสุดท้ายของรายการกันใหม่อีกรอบครับ

 

แล้วใครมีลุ้น? (Startlist)

ตัวเต็ง Tour de France มาลงสนามนี้กันครบทุกคน (ยกเว้นฟรูม) ดูจากเกมของฟรูมและคอนทาดอร์ในรายการ Ruta del Sol ที่สู้กันได้อย่างดุเดือดเลือดพล่าน พลิกเกมกันวันต่อวันแล้ว รายการนี้ก็น่าจะสนุกยิ่งกว่า ถ้าใครสังเกตปีที่ผ่านๆ มา สนามอย่าง Tirreno และ Paris-Nice นี่เลเวลของการแข่งขันจะยังไม่เดือดมากครับ โปรนิยมใช้เป็นสนามซ้อมก่อนลงแกรนด์ทัวร์ แต่ปีนี้ดูมู้ดการแข่งขันจะเดือดขึ้นเยอะเลย หลายคนเริ่มลงสนามเล็กด้วยฟอร์มที่ใกล้พร้อมแข่งรายการใหญ่

contador ruta del sol1

ฟรูมอาจจะไม่ได้มาแข่ง แต่ในบรรดาตัวเต็งแชมป์รายการเรายังมีนิบาลิ (Astana) คินทานา (Movistar) และคอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo) DT คิดว่าเราอาจจะยังไม่ได้เห็นอะไรมากจาก นิบาลิกับคินทานา เพราะทั้งสองคนไม่มีแรงกดดันเหมือนคอนทาดอร์ (ทั้งคู่ได้แชมป์แกรนด์ทัวร์คนละรายการในปี 2014) คินทานาเองก็กำลังบาดเจ็บอยู่เพราะล้มในสนามชิงแชมป์โคลอมเบียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สเตจ TT ทั้งสองสเตจก็อาจจะตัดโอกาสเขาได้พอสมควร เพราะยังไม่เชี่ยวชาญด้านการปั่นจับเวลาเท่าตัวเต็งคนอื่นๆ

นิบาลิดูเหมือนจะชอบค่อยๆ บิลด์ฟอร์มมากกว่าจัดเต็มตั้งแต่ต้นฤดูกาล ซึ่งก็ดูจะได้ผลดีเพราะเขาชนะตูร์ด้วยสูตรนี้ (ปีที่แล้วนิบาลิไม่ชนะสนามเล็กๆ ก่อนตูร์เลย) อย่างไรก็ดีจะประมาทเขาไม่ได้เพราะเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้วสองสมัยเหมือนกัน

ส่วนคอนทาดอร์นั้นประกาศชัดแล้วว่าจะรีไทร์ปีหน้า ความคาดหวังจากทีมที่อยากให้เขาชนะหรือได้อันดับดีในทุกรายการที่ลงแข่งก็น่าจะมากเป็นพิเศษ แถมต้องรีบสร้างฟอร์มลงแข่งจิโรด้วย (คู่แข่งคนอื่นไม่ลง) เพราะฉะนั้นคอนทาดอร์น่าจะพร้อมและมีโอกาสฮุบแชมป์เยอะที่สุดในปีนี้ครับ

ม้ามืดคือใครบ้าง?

อย่าลืมดูบอเก้ โมเลมม่า (Trek Factory Racing) เอซคนใหม่ของทีมที่จะมาแทนแอนดี้ ชเล็ค สนามนี้ระดับ WorldTour น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่โมเลมม่าจะพิสูจน์ตัวเองในฐานะหัวหน้าทีม

Giro-D'Itaia 2014 stage 12 ITT

อีกคนที่พลาดไม่ได้คือริกโอเบอร์โต้ อูราน (Etixx-Quickstep) กับทีมที่ประสบความสำเร็จในทุกสภาพสนาม อูรานเองก็ต้องรีบปั้นฟอร์มเหมือนกันเพราะปีนี้เขาจะลงทั้งจิโรและตูร์ ชัยชนะหรืออันดับโพเดี้ยมใน Tirreno จะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีสำหรับเอซโคลอมเบียคนนี้

นอกจากนี้ก็ยังมีคู่ไรเดอร์ เฮซเชดาล และแดน มาร์ตินจาก (Cannondale-Garmin), โดเมนิโค พอซโซวิโวจาก AG2R และคู่สเปน โจอาชิม โรดริเกรซ กับแดนนี่ โมเรโน (Katusha) คู่อิตาเลียนหน้าใหม่ของ BMC ดามิอาโน คารูโซ และจอมเบรคอเวย์ อเลซานโดร เดอมาชี ก็น่าสนใจไม่น้อย

สปรินเตอร์

สเตจทางราบอาจจะไม่สนุกเท่าที่ควรเพราะขาดมาร์เซล คิทเทล (Giant-Alpecin) คาเวนดิช (Etixx-Quickstep) เองก็ป่วย เพราะฉะนั้นก็เป็นโอกาสให้สปรินเตอร์เบอร์รองได้ลองมือลองเท้ากันครับ จับตา เอลิอา วิวิอานี (Sky) ที่กำลังมาแรง, ปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff)

Dubai Viviani (1 of 1)

ทีมที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ MTN-Qhubeka เพราะขนสปรินเตอร์มาทั้งทีม!!! มีโบสซัน ฮาเก็น, เจอรัลด์ ชิโอเล็ก, ไทเลอร์ ฟาร์รา, และแม็ท กอส อยากรู้เหมือนกันว่าทีมที่ดึงเอาเอซสปรินเตอร์มากองรวมกันหมด จะให้ใครลากบังลมให้ใคร O_O

โดยรวมเป็นสนามที่น่าสนุกมากครับ ไม่ควรพลาดสเตจ 4 และ 5 เช็คตารางถ่ายทอดสดได้ที่ duckingtiger.com/live เหมือนเดิม รายการนี้ Eurosport ถ่ายทอดครับ

♦♦♦

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *