เส้นทาง: พอนเฟอร์ราดา, สเปน 254.8 กิโลเมตร (ลูป 14 รอบ รอบละ 18.2 กิโลเมตร)
รายชื่อนักปั่น (Startlist): คลิก
เวลาถ่ายทอดสด: 16:00-22:00 ลิงก์: Youtube UCI Channel
[dropcap letter=”เ”]ย็นวันนี้สนามชิงแชมป์โลกจักรยานถนน (เสือหมอบ) ชายก็จะเรื่มกันแล้ว ต้องเกริ่นกันก่อนเลยว่าเป็นสนามที่เปิดกว้างที่สุดในปฏิทินการแข่งขันปีนี้ก็ว่าได้ครับ เส้นทางถือว่ายากเอาเรื่อง จะเป็นทางสำหรับนักไต่เขาก็ไม่ใช่ (2 กิโลสุดท้ายเป็นทางราบ) แต่จะเป็นทางสำหรับสปรินเตอร์ก็ไม่เชิง (มีเนินชันสองลูก วนขึ้น 14 ครั้ง) เรียกได้ว่ามีสิทธิเก็บแชมป์โลกกันทุกคน ขึ้นอยู่กับจังหวะ โอกาส และความพร้อมของทีม ดูโปรไฟล์สนามกันก่อน


เนินลูกแรก คอนเฟเดอร์เรชัน ยาว 5 กิโลเมตร ยากช่วงแรกที่ชันราวๆ 8% แล้วก็ลดลงเรื่อยๆ จนเหลือแค่ 1% นิดๆ ลงลูกแรกมาปุ๊บ ก็ต้องเตรียมขึ้นลูกที่สองที่ชันกว่า 10% ปิดหัวท้ายเนิน! ถึงจะยาวแค่กิโลเมตรเดียวแต่เชื่อได้ว่ามิราดอร์คือจุดยุทธศาสตร์ที่ตัวเต็งจะใช้ตัดแรงคู่แข่งหรือกระชากหนีคว้าแชมป์กันแน่นอน เพราะลงมิราดอร์ไปแล้วอีก 2 กิโลเมตรก็ถึงเส้นชัย ทางลงเองก็จะประมาทไม่ได้เพราะชันไม่น้อย และพยากรณ์อากาศรายงานว่ามีสิทธิที่ฝนจะตกเกิน 50% ถ้าใครจำได้ สนามชิงแชมป์โลกปีที่แล้วที่ฝนตกต่อกันทั้ง 7 ชั่วโมงนั้นมีนักปั่นที่แข่งจนจบน้อยมาก แม้แต่ทีมใหญ่อย่างอังกฤษก็ถอนตัวกลับบ้านกันทั้งทีม!
คาดเดาสถานการณ์
สนามชิงแชมป์โลกเป็นการแข่งที่น่าสนใจในด้านกลยุทธ์ครับ อันดับแรก ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะมีจำนวนนักปั่นเท่ากัน (ต้องมีแต้มในดิวิชัน 1/2 พอที่จะ qualify) ประเทศไหนมีนักปั่นในเวิร์ดทัวร์เยอะและลงกันหลายสนามก็จะได้โควต้าเต็ม 9 คน อย่างอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ทีมไหนมีโปรในดิวิชัน 1 ไม่เยอะ อย่างนอร์เวย์ และสโลวาเกีย ก็ลงได้เท่าที่มี (3 คน) เอกัวดอร์ อัลจีเรีย และสวีเดนมีแค่ประเทศละหนึ่งคนเท่านั้น!
ประการที่สอง นักปั่นส่วนใหญ่ให้ความภักดีกับทีมอาชีพของตัวเองมากกว่าผลงานของประเทศ (ปั่นให้ประเทศไม่ได้เงิน ไม่ใช่อาชีพ) จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นโดเมสติกของหลายๆ ประเทศเข้าไปปั่นช่วยทีมอาชีพของตัวเอง เคสที่เห็นแทบทุกปีคือเบอร์นี ไอเซิลของ Sky จากออสเตรีย ทีมออสเตรียรู้ดีว่ายังไงก็ไม่มีนักปั่นตัวเต็ง เลยกระจายกันไปช่วยทีมต้นสังกัดตัวเองก็มีประโยชน์กว่า อย่างไรก็ดีประเทศใหญ่ๆ อย่างอังกฤษ สเปน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ที่มีเดิมพันสูงย่อมช่วยเพื่อนร่วมชาติมากกว่า (แต่ก็ไม่แน่เสมอไป)
รูปเกมนั้นเดาได้ไม่ยากครับ สนามชิงแชมป์โลกนี่ออกเกมคล้ายๆ กันทุกปี ด้วยสองกิโลสุดท้ายเป็นทางราบนั้นหมายความว่าประเทศที่มีสปรินเตอร์แรงๆ (อังกฤษ Ben Swift / ออสเตรเลีย – แมธธิวส์, เจอรรานส์ / เยอรมัน – เดเกนโคลบ์ / เบลเยียม – จิลแบร์, แวนเอเวอร์มาร์ท, โบเนน) คงพยายามคุมเบรคอเวย์ให้อยุ่ในระยะที่จับได้ แต่ก็จะไม่ทุ่มกำลังจี้จนเกินไป เพราะต้องเหลือลีดเอาท์แมนไว้ช่วยสปรินเตอร์ในจังหวะสุดท้าย ซึ่งเป็นเรื่องยากมากๆ โดยเฉพาะถ้ามีฝนตก บางทีมอาจจะล้าจนถอดใจ เลิกแข่งไปเลยก็มี เหมือนในปีที่แล้ว
ส่วนทีมที่ไม่มีสปรินเตอร์ แต่นักไต่เขา ขาแรงขาเถื่อน อย่าง อิตาลี – นิบาลิ / สเปน – โรดริเกรซ, วาวเวอเด้ / สวิส – แคนเชอลารา / ฝรั่งเศส – กาโลแพน, ชาวาเนล / สโลวาเกีย – ซากาน พวกนี้น่าจะพยายามทุบสปรินเตอร์ให้ตายคาเนินลูกสุดท้าย แล้วโซโล่หนี เหมือนในสนามคลาสสิค
ใครจะได้เสื้อสีรุ้ง?
Australia ✮✮✮✮✮
ออสเตรเลียคือทีมที่แกร่งที่สุดในสนามชิงแชมป์โลกปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ช่วงแรกผมเกริ่นไปว่าเส้นทางไม่เหมาะกับเพียวสปรินเตอร์ หรือนักไต่เขา แต่มันเหมาะกับนักปั่นสไตล์ Puncheur / Puncher หรือสปรินเตอร์ที่ขึ้นเนินสั้นๆ ได้ไว ซึ่งออสเตรเลียมีถึงสองคน! นั่นก็คือไมเคิล แมธธิวส์ และไซมอน เจอรรานส์ ทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีที่สุดเสียด้วย แมธธิวส์เพิ่งจะได้แชมป์สองสเตจจากวูเอลต้า ส่วนเจอรรานส์เบิ้ลแชมป์สองสนามที่แคนาดา สำหรับทั้งคู่ เนินในวันนี้ไม่ยากเกินแน่นอน ทีมออสเตรเลียมีหลายไพ่ จะส่งเจอรานส์ออกหนี ให้คู่แข่งตามแล้วเอาแมธธิวส์สปรินต์ตบท้ายก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทั้งคู่จะอยู่ในสภาพไหนที่รอบสุดท้ายครับ เพราะสนามยากเอาเรื่องเหมือนกัน
Spain ✮✮✮✮✮
ถ้าออสเตรเลียมีเจอโรและแมธธิวส์ สเปนก็มีโรดริเกรซและวาวเวอเด้ ซึ่งเป็น Puncher ทั้งคู่ สเปนแข่งในสนามบ้านเกิดและน่าจะหวังแก้แค้นปีที่แล้วที่โดนรูย คอสต้ากระทืบหน้าเส้นชัย ปีนี้วาวเวอเด้ถือเป็นตัวเต็งที่น่ากลัว ได้ทั้ง Top 10 ตูร์ และขึ้นโพเดี้ยมวูเอลต้า ว่าตามหน่วยก้านแล้วถือว่าสูสีกับเจอรานส์มากๆ เรื่องความอึดก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะปีที่แล้วเขาก็ขึ้นโพเดี้ยมสนามนี้ได้ วาวเวอเด้ถือเป็นหนึ่งในนักปั่นที่มีประสบการณ์สนามชิงแชมป์โลกมากที่สุดคนหนึ่งใน peloton ครับ ลงแข่งร่วมสิบครั้งและได้โพเดี้ยมหลายครั้ง (แต่ยังไม่เคยชนะ)
โรดริเกรซเองก็เป็นแผน “B” ที่ลุ้นขึ้นเหมือนกัน สิ่งที่น่ากังวลสำหรับทีมสเปนคือโดเมสติกเป็นนักไต่เขาเกือบทั้งหมด จะคุมเกมกระชากของเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสวิสได้หรือเปล่า?
Belgium ✮✮✮✮
เบลเยียมขนดาวดังมาสามคนเต็ม – เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท, ทอม โบเนน, ฟิลลิป จิลแบร์ สองคนหลังเป็นอดีตแชมป์โลก GVA ฟอร์มดีแน่นอน (เพิ่งชนะสนามวันเดียวมา) จิลแบร์ก็ดูเหมือนจะซุ่มๆ อยู่ ส่วนโบเนนนั้นเงียบมาตั้งแต่ช่วงคลาสสิค พ้นจากสามคนนี้ ทีมยังสำรองคือแยน เบเคอร์แลนท์จอมเบรคอเวย์ และเซป ฟานมาร์ก ที่น่าจะใช้เป็นลูกล่อลูกชนกับสายกระชากจากทีมอื่นได้ดี
Switzerland ✮✮✮✮
เฟเบียน แคนเชอลาราคือนักปั่นที่โดนหมายหัวมากที่สุดในทุกสนามที่เขาลงแข่งขัน เรื่องนี้เรารู้กันดี สำหรับปีนี้เป้าหมายที่เขาอยากได้ที่สุดไม่ใช่พารี รูเบ หรือทัวร์ ออฟ แฟลนเดอร์ แต่มันคือรางวัลเสื้อสีรุ้งจากสนามชิงแชมป์โลก และก็น่าจะเป็นนักปั่นที่ฟอร์มดีที่สุดในสนามตอนนี้ด้วย แคนเชอลาราปรับกลยุทธ์ที่เขามักโดนสปรินเตอร์ตีหัวหน้าเส้น ด้วยการหัดสปรินต์เสียเอง ซึ่งก็ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างในมิลาน ซานเรโมปีนี้ก็พ่ายให้คริสทอฟไปนิดเดียว ที่ให้ 4 ดาวเพราะว่าเส้นทางอาจจะไม่เข้าทางน้าแฟ้บสักเท่าไร เนินสุดท้ายสั้นเกินไป และถนนดีเกินไป 2 กิโลเมตรสุดท้ายก็ไม่น่าจะยาวพอให้เขาหนีพวก puncher ได้ แต่ขนาดที่เฟบียนยอมไม่ลงชิงแชมป์โลก Time Trial เพื่อเก็บแรงมาลงเสือหมอบ ก็เดาได้เลยว่าเขาต้องสู้จนวินาทีสุดท้ายครับ
German ✮✮✮✮
เจ้าของแชมป์ 4 สเตจและเสื้อจ้าวความเร็วจากวูเอลต้า เดเกนโคลบ์ ไม่ใช่เพียวสปรินเตอร์ แต่ก็ไม่ใช่ Puncher ซะทีเดียว อย่างไรก็ดี แกเป็นคนที่ขึ้นเนินได้อึดกว่าสปรินเตอร์หลายๆ ถ้าตัวเต็งพาเดเกนโคลบ์ไปถึงหน้าเส้นชัย รับรองว่าเอาน้องแกยากครับ แต่! เดเกนโคลบ์ป่วยหลังวูเอลต้า และต้องพักรักษาตัวไปช่วงหนึ่ง ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าเขา 100% หรือเปล่า แต่ดูจากทีมที่มาช่วยอย่างโทนี มาร์ติน และอังเดร ไกรเพิลแล้วก็พอจะอุ่นใจได้
สไนเปอร์!?
ที่พูดมาข้างบนคือทีมที่เราพอจะรู้ฟอร์มแน่ชัด ประเมินจากผลงานล่าสุดและความพร้อมของทีม แต่ก็มีอีกหลายคนและหลายทีมที่น่าจะมีลุ้นขโมยซีนครับ ถามรูย คอสต้าได้ว่าความรู้สึกที่ได้เบียดสองสิงห์สเปนตกยอดโพเดี้ยมเมื่อปีที่แล้วเป็นยังไง
ปีเตอร์ ซากาน/ มิฮาล เควียทคอฟสกี: สปรินต์ได้ อึด ไม่กลัวเนิน
อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ: สปรินเตอร์ชั้นดี อึด ขึ้นเนินได้ไวคล้ายๆ เดเกนโคลบ์
เบน สวิฟต์: อังกฤษวางแผนให้สวิฟต์มาสองปี ปีนี้น้องแกติดโพเดี้ยมมิลาน ซานเรโม เรื่องความอึดนั้นหายห่วง แต่ถ้าต้องเจอ puncher ต่อยหนักๆ อย่างเจอรรานส์ หรือจิลแบร์ที่กระชากหนี? ต้องดูกัน
วินเชนโซ นิบาลิ: ถ้าจะมีคนที่ยิงหนีคู่แข่งระยะยาวสักหนึ่งคน มันต้องเป็นฉลามนิบาลิครับ เขาไม่มีทางสปรินต์ชนะแน่นอน เพราะงั้นต้องลากหนียาวๆ ตั้งแต่เนินสุดท้าย นิบาลิขึ้นชื่อเรื่องการออกยิงระยะไกล ใช้มาจนเกือบจะได้ผลหลายครั้งในซานเรโม หลังจบตูร์เขาไม่ได้แข่งมาก เพราะงั้นเรื่องความสดน่าจะโอเค อย่าลืมสเตจ 2 ในตูร์ที่เขากระชากหนีตัวเต็งที่สองกิโลเมตรหน้าเส้นชัย ดอกนั้นนี่สุดจริงครับ
โทนี กาโลแพน: อีกหนึ่งตัวเต็งที่ฟอร์มเริ่มมาหลังจากคว้าแชมป์สเตจในตูร์ปีนี้ คนนี้ก็สปรินต์ไม่ชนะแน่ เพราะงั้นคงมีลูกกระชากเหมือนนิบาลิ ถ้ากาโลแพนไม่รอด แล้วต้องจบด้วยสปรินต์ ฝรั่งเศสยังมี “Puncher” ของจริงในนามว่าเนเซอร์ บูฮานี (อดีตนักมวย)
นิโคลาส โรช/แดน มาร์ติน: สองเอซจากไอร์แลนด์ที่จะเผลอไม่ได้เหมือนกัน ลูกหนีของมาร์ตินที่พาเขาคว้าแชมป์ Liege นั่นก็ไม่ธรรมดาครับ โรดริเกรซรู้ดีว่ามันเจ็บแค่ไหน :D
แล้วคอสต้าหละ!?
จะไม่พูดถึงแชมป์เก่าก็กะไรอยู่ แต่ปีนี้คอสต้าค่อนข้างเงียบทีเดียว คอสต้าเริ่มผันตัวจากผู้เชี่ยวชาญสเตจเรซ 1 สัปดาห์และยอดนักเบรคอเวย์ไปเป็นตัวเต็ง GC ปีนี้ป้องกันแชมป์ Tour de Suisse ได้เป็นสมัยที่ 3 และได้ที่สองในรายการ Paris-Nice แต่ช่วงครึ่งปีหลังนี่ยังไม่เห็นฟอร์มเท่าไร จะขโมยซีนได้เหมือนปีที่แล้วมั้ย? ผมว่ายากหน่อยหละครับ เพราะทุกคนรู้แล้วว่าคอสต้านี่ตัวอันตราย
แต่ใครจะเป็นแชมป์ก็ดี รายการนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสนามที่สนุกที่สุดในปีนี้เลย อย่าพลาดครับ