Bike Spot: โปรใช้จักรยานอะไรใน Tour de France 2015?

แต่ละปีมีผู้ชมรายการแข่งจักรยานตูร์ เดอ ฟรองซ์กว่าปีละพันล้านคน สำหรับแบรนด์จักรยานชั้นนำแล้วจะมีวิธีการโฆษณาอะไรดีไปกว่าการให้นักปั่นที่ทีมสปอนเซอร์จักรยานอยู่ได้ปั่นจักรยานรุ่นล่าสุดในสนามแข่ง? เลยไม่น่าแปลกใจว่าทำไมหลายๆ แบรนด์จึงเลือกเปิดตัวจักรยานรุ่นล่าสุดในช่วงเดือนกรกฏาคมของทุกปีครับ แล้วปีนี้โปรปั่นจักรยานอะไรลงสนามตูร์บ้าง? มาดูกันครับ

1. Giant-Alpecin: 2016 Giant TCR, 2016 Giant Trinity

Giant เปิดตัวจักรยานใหม่ถึงสองคันในตูร์ปีนี้ครับ มีเสือหมอบ Giant TCR 2016 จักรยาน all round ที่ Giant อ้างว่าสติฟที่สุดที่สุดในตลาด หน้าตาไม่เปลี่ยนจากเดิมมาก ยังใช้หลักอานแบบ ISP แต่เปลี่ยนรูปทรงท่อต่างๆ ให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาและตอบสนองแรงได้ดีกว่า

ส่วน Giant Trinity Adavanced SL จักรยาน Time Trial รุ่นล่าสุดของทีม ยังคงดีไซน์คล้ายเดิม Giant ยังไม่ลงรายละเอียดออกสื่อมากสำหรับคันนี้ แต่คงเดาได้ไม่ยากว่าน้ำหนักน่าจะเบากว่าเดิมและลู่ลมกว่าเดิม เพราะโมเดล Trinity เก่านั้นไม่ได้อัปเดตมาหลายปีแล้ว

ปิดท้ายด้วย Giant Propel ของจอนห์ เดเกนโคลบ์ Propel เป็นเฟรมแอโร่ที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2013 และยังไม่ได้มีการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ครับ รายละเอียด Propel อ่านได้ที่ลิงก์นี้ 

 

2. Trek Factory Racing: Trek Madone 9

DT เคยลงรายละเอียดจักรยานคันนี้ไปแบบเต็มๆ แล้ว แต่ลองมาดูวิดีโอแบบชัดๆ กันอีกรอบครับ Trek Madone 9 เป็นจักรยานแอโร่เต็มตัวที่ซ่อนสายได้มิดชิดไม่มีหลุดรอดออกมาสักเส้นเดียว และยังใช้เทคโนโลยี ISO Speed Decoupler ในการซับแรงกระแทกให้ไม่ได้ฟีลกระด้างกระเดื่องเหมือนจักรยานแอโร่ทั่วๆ ไปด้วย

 

3. MTN-Qhubeka: Cervelo S5

Cervelo S5 รุ่นล่าสุดที่ทีม MTN-Qhubeka ใช้เปิดตัวในงาน Eurobike ปี 2014 ซึ่งปรับปรุงเรื่องความสติฟบริเวณท่อคอ และลดความสูงของท่อคอลงเล็กน้อย ว่ากันแล้วทีมนี้น่าจะเป็นทีมที่มีสปอนเซอร์ในฝันของนักปั่นชาวไทยเยอะที่สุดครับ ไม่ว่าจะเป็น Rotor, Speedplay, Enve, 3T และ Ceramic Speed ที่สนับสนุนลูกรอกตีนผี

 

4. Orica-GreenEdge: 2016 Scott Foil และ Scott Addict

Scott เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เปิดตัวจักรยานใหม่ กับ Scott Foil 2016 หมอบแอโร่รุ่นล่าสุดของแบรนด์ที่มากับเบรค direct mount และแฮนด์แอโร่ พร้อมรูปทรงที่เปลี่ยนไปจาก Foil รุ่นแรก Scott อ้างว่า Foil รุ่นใหม่ปั่นได้สบายกว่ารุ่นแรกมาก และเป้าหมายของจักรยานคันนี้ไม่ใช่เฟรมที่แอโร่ที่สุดในโลก แต่เป็นเฟรมแอโร่ที่ปั่นได้ทุกสภาพสนาม เพราะฉะนั้นปัจจัยเรื่องความสบาย น้ำหนักก็สำคัญไม่แพ้กัน

สำหรับนักไต่เขาของทีม Soctt มีเฟรม Addict SL ซึ่งเป็นหนึ่งในเฟรมที่เบาที่สุดใน peloton ตอนนี้ด้วยน้ำหนักเฟรม + ตะเกียบไม่ถึง 1,000 กรัม

 

5. Cannondale-Garmin: Cannondale SuperSix Evo 2016

Cannodnale เป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยจะอัปเดตจักรยานบ่อยนัก แต่ล่าสุดก็ปรับปรุงเฟรมสุดคลาสสิค SuperSix Evo (ดูเผินๆ แทบไม่ต่างจากเดิม) ก่อนเริ่มตูร์เดอฟรองซ์ไม่กี่วันครับ ยังคงเป็นจักรยานที่รูปทรงคลาสสิคเหมือนเดิม แต่รายละเอียดปลีกย่อยก็เปลี่ยนเยอะครับ เริ่มจากรูปทรงท่อที่มีความแอโร่ขึ้นเล็กน้อย จากท่อกลมเปลี่ยนมาเป็นท่อแอโรทรง Truncated Airfoil (แต่ก็ยังไม่แอโร่สุดโต่งเหมือนหมอบแอโร่) ซึ่ง Cannondale อ้างว่าลดแรงต้าน (Drag) ได้ประมาณ 6 กรัม เปลี่ยนกระโหลกเป็น BB38 ทำให้ใช้ท่อนั่งขนาดเล็กลงแต่บานออกที่บริเวณที่เชื่อมกับกระโหลก ซึ่งช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม เป็นดีไซน์ที่ปรับมาจาก Cannondale Synapse อีกทีนึง

 

6. BMC Racing Team: BMC SLR01

สำหรับค่าย BMC ปีนี้ไม่มีโมเดลใหม่ออกมาโชว์ แต่เป็นการปรับปรุงลวดลายกราฟฟิคเฟรมแข่งตัวท๊อป SLR01 ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 ทีม BMC มี Shimano เป็นสปอนเซอร์ล้อและชุดเกียร์ ใช้พาวเวอร์มิเตอร์ SRM, และค็อกพิทจาก 3T

 

7. Team Sky: Pinarello Dogma F8, Pinarello Dogma K8-S

Pinarello Dogma F8 เปิดตัวเมื่อปี 2014 แต่คริส ฟรูมก็ไม่สามารถใช้คว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์เมื่อเขาล้มบาดเจ็บจนต้องถอนตัวตั้งแต่สัปดาห์แรกของรายการ ปีนี้ฟรูมและทีม Sky กลับมาแก้มือจนคว้าแชมป์รายการได้ตามหวังครับ คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากกับเฟรม Dogma F8 (รายละเอียดที่นี่) ต่างกับแบรนด์อื่นๆ ที่ทำจักรยานแยกระหว่างเฟรมสาย all round น้ำหนักเบา ปั่นสบาย กับเฟรมแอโร่ Pinarello เลือกทำจักรยานแข่งคันเดียวที่พยายารวมจุดเด่นของทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน คันที่เห็นในวิดีโอเป็นของริชีย์ พอร์ท

ถึงจะไม่ได้มีเฟรม all-round แต่ Pinarello ก็มีเฟรมสำหรับทางวิบากโดยเฉพาะ นั่นคือ Pinarello K8-S ซึ่งเปิดตัวในช่วงสนามคลาสสิคเมื่อต้นฤดูกาล 2015 จุดเด่นคือโช้คหลังที่ให้ตัวได้ 10mm ช่วยซับแรงกระแทกในทางวิบากที่โปรต้องเจอในตูร์สเตจ 4 ปีนี้ และใช้ดีไซน์หลักๆ จาก Dogma F8 ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตะเกียบ รูปทรงท่อแอโร่ จะต่างกันที่ Geometry รถที่ K8-S ออกแบบมาให้ปั่นได้มั่นคงกว่าก็จะมีท่อคอสูงกว่า ฐานล้อยาวกกว่าเป็นต้น

 

8. Lotto-Soudal: Ridley NOAH SL

ปีนี้ Ridley พยายามดันเฟรมแอโร่รุ่นใหม่ Ridley NOAH SL อย่างเห็นได้ชัดครับ ถึงจะไม่แอโร่เท่า Ridley NOAH Fast แต่ Ridley อ้างว่าดีไซน์ใหม่นั้นมีน้ำหนักเฟรมเบากว่าและปั่นสบายขึ้น (ไม่ถึงพันกรัม – DT เคยลงสกู๊ปไว้ที่ลิงก์นี้) ซึ่งน่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายกว่าเฟรม NOAH Fast ผลงานก็ไม่ธรรมดาเพราะปีนี้อังเดร ไกรเปิลใช้ NOAH SL คว้าแชมป์ไปถึง 4 สเตจ

 

9. Cofidis: Orbea Ordu

เชื่อไหมครับว่าบริษัท Orbea นี่อายุร่วม 175 ปีแล้ว ก่อนที่จะผลิดจักรยานบริษัทจากสเปนรายนี้ผลิตอาวุธปืนและกระสุนปืน! ตั้งแต่ทีม Euskatel ยุบไป เราก็ไม่ได้เห็นจักรยาน Orbea ในสนามแข่งดิวิชัน  1 อีกเลย แต่แบรนด์นี้ออกรถใหม่มาหลายรุ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาครับ ล่าสุดเป็นเฟรม Time Trial Ordu generation 5 ที่หน้าตาค่อนข้างจะหลุดโลกทีเดียว Ordu 2016 ใช้ตะเกียบโค้งกว้างห่างล้อคล้ายๆ Pinarello Bolide น้ำหนักเฟรมเบากว่ารุ่นก่อน 100 กรัม ตะเกียบเบากว่า 94 กรัม และแอโร่ขึ้นประมาณ 10%  (รายละเอียดอ่านได้ที่ลิงก์นี้) Cofidis มี FSA เป็นสปอนเซอร์อุปกรณ์ทั้งหมดตั้งแต่ล้อ แฮนด์ ไปจนถึงชุดเกียร์ (FSA มีชุดเกียร์ TT เต็มชุด)

 

10. Etixx-Qucikstep: Specialized S-Works Roubaix

Etixx-Quickstep ใช้เฟรม S-Works Roubaix ในสเตจ 4 ตูร์เดอฟรองซ์ที่นักปั่นต้องลุยถนนหิน และเป็นสเตจที่โทนี่ มาร์ตินได้แชมป์ซะด้วย เฟรม Roubaix เป็นผู้บุกเบิกจักรยาน sportive เน้นปั่นสบายเป็นรุ่นแรกๆ ของวงการเพราะโมเดล Roubaix คันแรกนั้นอายุร่วม 10 ปีแล้วครับ เฟรม Roubaix เสริมจุดซับแรงกระแทกบริเวณตะเกียบหน้าและหางหลัง และมีระยะท่อคอสูงกว่า + ระยะ reach สั้นกว่าเฟรมแข่งอย่าง Tarmac และ Venge

 

11. Etixx-Quickstep: Specialized S-Work Venge ViAS

เฟรมแอโร่รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Specialized ที่อ้างว่าเร็วที่สุดในตลาดตอนนี้ และเป็นจักรยานที่มาร์ค คาเวนดิชใช้คว้าแชมป์ในการสปรินต์ไปแล้ว 1 สเตจ Venge ViAS ปฏิวัติการออกแบบจักรยานแอโร่หลายจุดไม่ว่าจะเป็นเบรคแอโร่ที่วางตำแหน่งกลางท่อนั่งและหลังตะเกียบ แฮนด์และสเต็มดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ได้ท่าปั่นที่แอโร่ที่สุด DT เคยลงรายละเอียดไว้แล้วเช่นกัน อ่านได้ที่ลิงก์นี้ครับ

 

12. Tinkoff-Saxo: Specialized S-Works (New) Tarmac

ดูจักรยานของ Specialized ไปแล้วสองรุ่น มาดูรุ่นที่สามกันนั่นคือ S-Works Tarmac เฟรมม all-round จาก Specialized ที่เน้นการตอบสนอง, handling และน้ำหนักเบา (แต่ก็ยังหนักกว่าเฟรม all-round จากหลายๆ ค่ายนะ) สังเกตว่าคอนทาดอร์เจ้าของจักรยานในวิดีโอนี้ยังใช้เกียร์เมคานิคัล ไม่ใช้เกียร์ไฟฟ้าเหมือนเพื่อนร่วมทีม ซึ่งน่าจะเป็นความเคยชินและความชอบส่วนบุคคลครับ

แถมด้วยวิดีโอ S-Works Tarmac สีพิเศษของวินเชนโซ​ นิบาลิ เอซจากทีม Astana ทั้ง Tinkoff และ Astana ใช้อะไหล่คล้ายๆ ทั้งคู่ใช้แฮนด์ สเต็มหลักอานจาก FSA Tinkoff ใช้ล้อจากทั้ง Vision/FSA และ Specialized Rapide ส่วน Astana ใช้ล้อ Corima และกรุ๊ปเซ็ตจาก Campagnolo

ส่วนใครอยากอ่านรายละเอียดเฟรม S-Works Tarmac DT ก็เคยลงสกู๊ปไว้แล้วเช่นกัน อ่านได้ที่ลิงก์นี้ครับ

 

13. Time Trial Bikes

ปิดท้ายด้วยเฟรม Time Trial 5 ลำจาก Bikeradar ซึ่งมี Canyon SpeedMax CF, Cervelo P5, Look 769 (ใหม่!!), Pinarello Bolide และ Specializerd S-Works Shiv ครับ

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

1 comment

  1. แอดลืม Canyon ของ Movistar หรือเปล่าครับ เห็นคินทาน่าปั่นแล้วอยากได้เลย

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *