บันทึกโปรทัวร์ Part 3: Gent-Wevelgem

Editor’s Note: ข่าวดีสำหรับชาว DT ครับ ปีนี้ DT ได้ร่วมงานกับนักปั่นอาชีพในระดับโปรทัวร์จากทีม Giant-Alpecin ที่จะมาเขียนวิเคราะห์การแข่งขันสนามใหญ่ๆ ในมุมมองของโปรตลอดฤดูกาล 2016 ให้เราได้อ่านกันในเว็บ DT แบบ Exclusive 

หลายคนอาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ Koen de Kort (ออกเสียง โคน เดอ คอร์ท) นักปั่นชาวดัทช์วัย 33 ปีที่เป็นลีดเอาท์และโดเมสติกให้กับทีม Giant-Alpecin ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของจอห์น เดเกนโคลบ์ใน Paris-Roubaix และแชมป์สเตจมากมายของมาร์เซล คิทเทล 

นอกจากจะเป็นโปรตัวจริงแล้ว Koen ยังเป็น brand ambassador ให้กับ JAGGAD แบรนด์ชุดกีฬาและชุดปั่นที่กำลังเริ่มมาวางขายในประเทศไทย ต้องขอบคุณ Jaggad และ Raph Thailand ที่ทำให้เราได้ร่วมงานกับ Koen มา ณ​ ทีนี้ด้วย ติดตามชุดปั่นสวยๆ ของ Jaggad ได้ที่เพจ Raph Thailand ครับ

 

Gent-Wevelgem

เรื่อง: Koen de Kort (Instagram, Strava, Twitter)
แปล: Theinthai Sangkhaphanthanon (Koon DT)
ต้นเรื่องภาษาอังกฤษ: Team Jaggad

หลังจากความผิดหวังใน E3 Harelbeke (dt note: โคนได้อันดับ 68 เข้าเส้นชัยหลังแชมป์รายการ มิฮาล เควียทคอฟสกี้ (Sky) + 8:59 นาที) สนามคลาสสิครายการถัดไปที่ผมลงแข่งคือ Gent-Wevelgem ซึ่งรู้จักกันดีในฐานะรายการคลาสสิคสำหรับสปรินเตอร์ เพราะเส้นทางค่อนข้างราบเรียบไม่มีเนินมากนักผิดกับสนามคลาสสิครายการอื่นๆ

ช่วงนี้เป็นปลายฤดูหนาวต้นฤดูใบไม่ผลิ ซึ่งอากาศในเบลเยียมก็ยังไม่ค่อยจะดีนัก และมีผลต่อการแข่งขันมากครับ ปีที่แล้วจากผู้เข้าแข่งขันร่วม 200 คน มีคนแข่งจบแค่ 39 คนเท่านั้นเพราะฝนตกและลมพัดแรงจนนักปั่นหลายคนปลิวตกข้างทางในสนามนี้ ผมก็ด้วย

ปีนี้อากาศก็มีผลมากเช่นกัน กระแสลมข้างพัดแรงจนกลุ่มเปโลตองโดนตัดขาดเป็นช่วงๆ (ที่เราเรียกกันว่า echelon) จะว่าไปแล้วลมมีผลต่อผลชัยชนะยิ่งกว่าเนินเสียอีกใน Gent-Wevelgem

50 กิโลเมตรสุดท้าย กระแสลมก็ยังพัดแรงต่อเนื่อง ถึงผมจะลงแข่งในฐานะหัวหน้าทีม แต่ผมอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีพอ หลุดมาอยู่กลุ่มหลังๆ เพื่อนร่วมทีม Giant มาช่วยพาผมขึ้นไปอยู่กลุ่มที่สาม และต่อจากนั้นผมเหลือแค่ตัวคนเดียวเพราะเพื่อนใช้แรกลากผมมาจนกรอบกันหมด ผมกระชากกลุ่มออกไปเพื่อไล่เข้ากลุ่มสอง ซึ่งเราก็ไล่ตามกลุ่มหนึ่งอยู่ไม่ห่างมากนัก แค่ประมาณหนึ่งนาที

ถึงเนินลูกสำคัญช่วงท้ายรายการ กลุ่มสองของเราออกแรงกันเฮือกสุดท้าย ลากเข้าไปจนแปะท้ายกลุ่มหน้าสุดทัน กลายเป็นโปโลตองขนาดย่อมๆ ประมาณ 50 คน ถึงตอนนี้ผมคิดว่าผมยังสดและแรงดีอยู่ น่าจะทำผลงานได้ดีบ้างละน่า

เนินสุดท้ายในรายการนี้ชื่อเคมเมลเบิร์ก (Kemmelberg) และเป็นเนินที่ชันมากครับ แน่นอนว่าตัวเต็งหวดกันยับ ซากาน ฟานมาร์ค แคนเชอลาราและอีกหลายๆ คนเร่งหนีกลุ่มตัดแรงกันสุดชีวิต จนสุดท้าย กลุ่มหน้าหลุดกันไปสี่คน กลุ่มหลังเราเหลือแค่ 22 คน ถึงตรงนี้ระยะทางเหลือแค่ 20 กิโลเมตรแล้ว และกลุ่มเราไล่กันสุดชีวิต ยิ่งทำให้เกมยากเข้าไปอีกเพราะเราต้องเจอกระแสลมข้างตลอดเส้นทาง แค่เกาะล้อก็ไม่ง่ายแล้วเมื่อเจอลมข้างมันก็ง่ายมากที่จะหลุดกลุ่ม

กลุ่มเราพอจะรู้ตัวว่าคงไล่ไม่ทันพวกตัวเต็งข้างหน้าแน่นอน เพราะงั้นมันจะเป็นการสปรินต์เข้าชิงอันดับ 5 ผมเลือกไล่ตามล้อสปรินเตอร์คนหนึ่งในกลุ่ม แต่โชคไม่ดีที่เขากลับหมดแรงไปในจังหวะสุดท้าย และมันก็สายเกินไปที่ผมจะเปลี่ยนตำแหน่งไปท้าชิงสปรินต์ สุดท้ายผมจบที่อันดับ 16

ถึงจะไม่ใช่อันดับที่ดีมาก แต่ผมก็พอใจมากครับกับผลงานจากรายการนี้ ได้สู้กับนักปั่นเก่งๆ อีกหลายๆ คนและหวังว่าผมจะทำได้ดีขึ้นในอีกสองรายการใหญ่ประจำปี – Tour of Flanders และ Paris-Roubaix เป้าหมายของผมคือติดอันดับ Top 10 ให้ได้ครับ

Jaggad - Gent Wevelgem @PDiegner
ข้อมูลจากพาวเวอร์มิเตอร์ของโคนใน Gent-Wevelgem ตลอดระยะทาง 241.9 กิโลเมตรและเวลาร่วม 6 ชั่วโมงเต็ม เข้าปั่นด้วยวัตต์เฉลี่ย 302 วัตต์ กับน้ำหนักตัว 71 กิโลกรัม คิดเป็น w/kg = 4.25 / ในช่วงที่เป็นเนินสำคัญ (kemmelberg) เขาออกแรงเฉลี่ย 560 วัตต์ หรือ 7.89 w/kg เป็นเวลามากกว่าหนึ่งนาทีเต็ม!
Jaggad - Gent Wevelgem pioneer
ข้อมูลจาก Pioneer Powermeter โชว์ค่าพลังของโคนแยกขาซ้าย ขาขวา ค่าวัตต์เฉลี่ยและรอบขาเฉลี่ย

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *