โปรทัวร์ใน 5 นาที: นักธุรกิจเป็นแชมป์ออสเตรเลีย!, แชมป์หญิงเด็กจนยังเปิดขวดแชมเปญไม่คล่อง

Grace Brown in Australian ITT 2019

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การแข่งขันชิงแชมป์จักรยานของประเทศออสเตรเลียมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเต็มไปหมดครับ

การแข่งขันเป็นแบบเซอร์กิตเรซที่เมืองบาลเลแรท รัฐวิคตอเรีย ความยาว 11.6 กม. แข่งกัน 9 รอบสำหรับประเภทหญิง และ 16 รอบ (!!) สำหรับประเภทชาย

เริ่มที่การแข่งประเภทเสือหมอบหญิงก่อน แชมป์ตกเป็นของซาราห์ จิแกนเต (Roxsolt-Attaquer) วัยเพียง 18 ปี แต่อัดแน่นด้วยคุณภาพ เพราะเมื่อปีที่แล้วเป็นแชมป์ถนนรุ่นเยาวชนต่ำกว่า 19 ปี แชมป์ไทม์ไทรอัลรุ่นเยาวชน และแชมป์ไครทีเรียมเยาวชน สามแชมป์ในปีเดียว ปีนี้ขยับมาแข่งรุ่นสูงสุด (อีลีต) แล้วจิแกนเตเข้าเบรคอเวย์ตั้งแต่ต้นเกม อยู่รอดจนถึงท้ายเกม แล้วยิงกลุ่มเบรคอเวย์ซ้ำอีกทีตอน 15 กม.สุดท้าย เข้าเส้นไปแบบสวย ๆ เบียดรุ่นพี่อย่างอแมนดา สแปรตต์ กับซาราห์ รอย จากทีม Mitchelton-Scott ไปเป็นที่ 2 กับที่ 3

ในพิธีมอบรางวัล จิแกนเตซึ่งตามอายุแล้ว เพิ่งสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามกฎหมาย มีปัญหากับการเปิดขวดแชมเปญจนซาราห์ รอย ต้องยื่นมือมาช่วยเปิด แต่แววดาวรุ่งขาแรงขนาดนี้ ในอนาคตน้องคงได้เปิดอีกหลายขวด !

จากนั้นมาที่การแข่งประเภทเสือหมอบชาย เนื่องจากตอนนี้ทีมตัวเต็งอย่าง Mitchelton-Scott ไม่มีตัวสปรินต์อย่างคาเล็บอีกแล้ว จึงทำเกมรุกด้วยเบรคอเวย์แทนที่เกมอุดแล้วหวังสปรินต์ ผลคือเปโลตองยิงกันอุตลุดจนคาเล็บ ยวน (Lotto-Soudal) ถอนตัวไปตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย

จนประมาณ 20 กม.สุดท้าย เบรคอเวย์เหลือแค่ 4 คนคือ ลูค เดอร์บริดจ์, คาเมรอน เมเยอร์ (Mitchelton-Scott ทั้งคู่), ไมเคิล ฟรีเบิร์ก (Bennelong-Swiss Wellness), และ คริส ฮาร์เปอร์  (Team BridgeLane) จากรูปเกมตรงนี้แล้ว MTS ได้เปรียบมาก เหรียญทองไม่น่าหนีไปไหน

มาถึง 8 กม.สุดท้าย เหลือเมเยอร์ กับ ฮาร์เปอร์ แค่สองคนเท่านั้น ทิ้งห่างฟรีเบิร์กได้ที่เนินสุดท้าย แก็ปถ่างออกไปถึง 25 วินาทีที่ 3 กม. แต่ฮาร์เปอร์กับเมเยอร์ฟรีขาชิงจังหวะกันมากเกินไป ทำให้ฟรีเบิร์กซึ่งตามอยู่อย่างไม่น่ากลับมาได้ ก็กลับมาตามทัน แถมทันในจังหวะลงเนินหน่อย ๆ พอดี ทำให้มีโมเมนตัมมาก ทันแล้วพุ่งหนีเข้าเส้นชัยไปเลย ได้แชมป์ทีมชาติออสเตรเลียไปแบบตาอยู่กินพุงปลา

ขนาดรู้ผลอยู่แล้ว ดูรีเพลย์ยังสนุกครับ

 

ไมเคิล ฟรีเบิร์ก เป็นอดีตแชมป์โลกประเภทออมเนียม (การแข่งลู่ชนิดหนึ่ง) ของทีมชาติออสเตรเลีย แต่เขาหยุดแข่งไป 2–3 ปีเพื่อไปพัฒนาธุรกิจของตัวเอง คือ AIRhub ซึ่งคือล้อหน้าที่มีแรงฝืดในตัว ทำให้คนขาแรงปั่นคู่กับมือใหม่ได้โดยไม่ทิ้งห่างกัน และได้ซ้อมอย่างเหมาะสมกับแรงของทั้งสองฝ่ายด้วย หลังจาก AIRhub เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมขาย ฟรีเบิร์กก็กลับมาแข่งขันในระดับสูงสุดอีกครั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง การคว้าแชมป์ทีมชาติได้จึงเป็นการกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่จริง ๆ

AIRhub Showcase

คาเมรอน เมเยอร์ สัมภาษณ์หลังจบการแข่งทั้งน้ำตาว่า “ขาผมเหลือแรงแค่หนึ่งสปรินต์สุดท้าย แค่นั้นจริง ๆ ทำให้ผมต้องหาจังหวะที่ใกล้เส้นกว่านั้น ถึงจะยิงฮาร์เปอร์ได้ ซึ่งการชิงจังหวะกันนั่นก็ทำให้ฟรีเบิร์กตามกลับมาได้แล้วแย่งเส้นชัยไป เสียใจจริง ๆ ครับ”

จบการแข่งถนนทั้งหญิงและชาย ทีมระดับ WorldTour และ Women’s WorldTour อย่าง Mitchelton-Scott คว้าน้ำเหลวทั้งสองรายการ

แต่ทีมใหญ่ก็กลับมาแก้ตัวได้ในประเภทไทม์ไทรอัล โดยในประเภทหญิงเป็นเกรซ บราวน์ (Mitchelton-Scott) ที่ชนะไป ส่วนในประเภทชาย กลับกลายเป็น ลูค เดอร์บริดจ์ อดีตแชมป์ TT ปี 2012, 2013 ที่ทำทุกคนประหลาดใจด้วยเวลาเร็วกว่า โรฮาน เดนนิส แชมป์โลกคนปัจจุบัน 21 วินาที แถมยังได้เย้ยเดนนิสหลังเส้นอีกว่า “You don’t need it anyway mate!” (นายไม่ได้ใช้อยู่แล้วนี่!) [DT Note: โรฮาน เดนนิส ใส่เสื้อรุ้งของแชมป์โลกอยู่ ถึงเขาได้แชมป์ทีมชาติ ก็ไม่ได้ใส่อยู่ดี]

เกร็ด: ไมเคิล ฟรีเบิร์ก แชมป์ประเภทถนน เป็นพี่เขยของลูค เดอร์บริดจ์ แชมป์ TT

By ธันยวีร์ ชินสุวรรณ

วี - นักวิจัยลั้ลลา ถ้าไม่เลี้ยงเซลล์อยู่แล็บก็อยู่ร้านกาแฟ ว่างไม่ว่างก็ปั่นจักรยาน หลงรักหมอบทุกคันที่ไม่มีแหวนรองสเต็มและใช้ริมเบรค เป็นแฟนคลับทีม Mitchelton-Scott

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *