- ไซมอน เยทส์ (Mitchelton-Scott) เป็นแชมป์ Vuelta 2018, เอนริค มาส (Quickstep) อันดับสอง และมิกูเอล โลเปซ (Astana) อันดับสาม
- เอเลีย วิวิอานี (Quickstep Floors) สปรินต์ชนะปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ในสเตจสุดท้าย
1. วิวิอานีได้แชมป์สเตจสุดท้าย
สเตจสุดท้ายใน Vuelta a Espana จบลงเมื่อคืนนี้และอันดับเวลารวมไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากในสเตจ 20 ทำให้ไซมอน เยทส์ (Mitchelton-Scott) นักปั่นชาวอังกฤษวัย 26 ปีเป็นแชมป์รายการประจำปี 2018 ทำเวลาดีกว่าอันดับสอง เอนริค มาส (Quickstep) 1:46 นาที และอันดับสามมิกูเอล โลเปซ (Astana) +2:04 นาที
สตีเฟน เคราซ์เวก (LottoNL-Jumbo) และอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) คว้าอันดับสี่และห้าหลังจากพ่ายให้แมสและโลเปซในสเตจ 20
สำหรับสเตจสุดท้ายเป็นการแข่งสเตจทางราบกลางกรุงมาดริด ซึ่งเกมจบด้วยชัยชนะของเอเลีย วิวิอานี (Quickstep Floors) สปรินต์เอาชนะปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) และจิอาโคโม นิซโซโล่ (Trek-Segafredo) เก็บชัยชนะเป็นครั้งที่สามในรายการนี้ และเป็นชัยชนะสเตจครั้งที่ 4 ของทีม (และอันดับสอง overall ของแมส) ทำให้ Quickstep เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้
2. อังกฤษกวาดแชมป์แกรนด์ทัวร์ 5 รายการรวด
ชัยชนะของไซมอน เยทส์ใน Vuelta ทำให้สหราชอาณาจักรเป็นชาติเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์แกรนด์ทัวร์ 5 รายการติดต่อกัน (จาก Tour de France 2017 ถึง Vuelta 2018) และชนะแกรนด์ทัวร์ทั้งสามรายการในปีเดียวกัน เรื่องราวชีวิตของเยทส์ ซึ่ง DT เชื่อว่ายังเป็นนักปั่นที่เราไม่รู้จักเท่าไร DT จะเขียนถึงวันพรุ่งนี้ครับ
ชัยชนะของเยทส์ใน Vuelta ปีนี้เป็นเรื่องน่าสนใจ อย่างที่เราได้เห็นสไตล์การแข่งของเขาใน Giro และ Vuelta ปีนี้ เยทส์กล้าที่จะโจมตีคู่แข่งซ้ำหลายๆ ครั้งเพื่อชิงเวลา จริงว่าเขาพลาดไปพอสมควรใน Giro ที่ทำให้แพ้คริส ฟรูมในช่วงไม่กี่วันสุดท้ายก่อนจบการแข่งขัน แต่ใน Vuelta ปีนี้เขาใจเย็นขึ้นและหาจังหวะโจมตีได้เฉียบคมกว่าเดิม เรียนรู้ข้อจำกัดตัวเองได้ดีขึ้นและไม่ปั่นเกินตัว แต่ขณะเดียวกันก็ยังกล้าโจมตีในเวลาที่แค่ป้องกันเสื้อ ปั่นคุมคู่แข่งเฉยๆ ก็ชนะได้
เราไม่ได้เห็นนักปั่นที่บู๊หนักขนาดนี้มาหลายปี ซึ่งชวนให้คิดว่าถ้าใน Tour de France มีเส้นทางการปั่น Time Trial ที่เป็นจุดอ่อนของเขาน้อยลง มีสเตจภูเขามากขึ้น เขาจะเอาชนะนักปั่นอย่างคริส ฟรูม (Sky) หรือทอม ดูโมลาน (Sunweb) ได้หรือเปล่า?
3. วาวเวอเด้หลุดโพเดี้ยมแต่ชนะเสื้อคะแนนรวม
ถึงสัปดาห์สุดท้ายอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) ดูจะฟอร์มดีมีลุ้นคว้าแชมป์รายการเป็นสมัยที่สอง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแกร่งของนักปั่นรุ่นน้องอย่างเยทส์ แมส และโลเปซได้ (วาวเวอเด้อายุมากกว่าเยทส์ที่ได้แชมป์รายการ 12 ปี!) แต่เขายังเก็บคะแนนสะสมได้มากพอจนได้แชมป์ประเภท Point Classification หรือผู้นำคะแนนรวม ที่ 131 คะแนน เอาชนะอันดับสอง ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ที่ได้ 119 คะแนน
วาวเวอเด้ขึ้นนำประเภทคะแนนรวมตั้งแต่สเตจ 7 และเป็นแชมป์คะแนนรวมใน Vuelta ครั้งที่สี่ของเขาแล้ว นอกจากนี้ชัยชนะของวาวเวอเด้ในประเภทคะแนนรวมยังเป็นปีทีสี่ติดต่อกันที่นักไต่เขาได้แชมป์ประเภทนี้ (ตรงข้ามกับที่ปกติเสื้อคะแนนรวมมักจะชนะโดยสปรินเตอร์) ถึงปีเตอร์ ซากานจะได้ที่สองในสเตจถึงสี่ครั้งติดต่อกันก็ยังไม่มากพอให้ชนะรางวัลนี้
4. ราชาเบรคอเวย์ โทมัส เดอเกนท์ชนะรางวัลเจ้าภูเขา
ถึงจะไม่ได้แชมป์สเตจในรายการนี้ แต่โทมัส เดอเกนท์ (Lotto-Soudal) นักปั่นที่เล่นเกมเบรคอเวย์ได้น่าลุ้นที่สุดคนหนึ่งในเปโลตองก็ชนะรางวัลเจ้าภูเขา เก็บคะแนนสะสมรวมได้เยอะที่สุดที่ 95 คะแนน เฉือนเอาชนะบอเก้ โมเล็มม่า (Trek-Segafredo) ที่ได้ 83 คะแนนและไล่แย่งคะแนนกันจนถึงสเตจภูเขาสุดท้าย ส่วนโมเล็มม่าเองได้รางวัล Overall Combatibity Award
5. แกรนด์ทัวร์สุดท้ายของอิกอร์ แอนตอน
วันสุดท้ายของ Vuelta ปีนี้เป็นวันสุดท้ายในการแข่งขันจักรยานอาชีพของผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งด้วย อิกอร์ แอนตอนนักปั่นชาวสเปนวัย 35 ปีจากทีม Dimension Data ที่ตัดสินใจอำลาวงการในสนามแข่งบ้านเกิด
แอนตอนเป็นนักไต่เขาฝีเท้าดีคนหนึ่งที่เคยคว้าแชมป์สเตจใน Vuelta ถึง 4 ครั้งและใน Giro d’Italia อีกหนึ่งครั้ง เขาเคยโด่งดังในยุคที่อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์รุ่งเรื่อง เริ่มแข่งให้กับทีม Euksatel-Euksadi ถึง 8 ปีเต็มก่อนจะย้ายมาอยู่กับ Movistar ในปี 2014-2015 และ Dimension Data ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาในฐานะโดเมสติกในแกรนด์ทัวร์และสเตจเรซที่ภูเขาเยอะหลายรายการ
วิดีโอไฮไลท์
ผลการแข่งขัน
