7 กรกฏาคมนี้ Tour de France สนามแจ่งจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีก็จะเริ่มขึ้นแล้วครับ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็ผ่านช่วงเวลาเตรียมตัวคัดฟอร์มกันครบแล้วด้วย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายการใหญ่สามรายการที่พอจะบอกฟอร์มนักปั่นตัวเต็งได้บ้าง มาอัปเดตกันว่าฟอร์มคนไหนเป็นยังไงบ้าง และตัวเต็งแต่ละคนมอง TDF ปีนี้ยังไงบ้างครับ
พอร์ท, คินทานา, วาวเวอเด้โดดเด่นกว่าคนอื่น
นักปั่นตัวเต็งที่ทำผลงานในช่วงเดือนมิถุนยายนได้ดีมักเป็นตัวสะท้อนว่าฟอร์มการแข่งขันเริ่มพร้อมจะลงรายการใหญ่แล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาสนามที่จบไปมี Tour de Slovenia, Tour de Suisse และ La Route D’Occitania ซึ่งแชมป์จากทั้งสามรายการก็เป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาครับ
https://www.instagram.com/p/BkImrpUlrgF/
เริ่มจาก Tour de Suisse แชมป์ปีนี้ตกเป็นของริชีย์ พอร์ท (BMC) ที่เอาชนะยาค็อบ ฟูลก์แซง (Astana) (1:02 นาที) และไนโร คินทานา (Movistar) ( 1:12 นาที) ในขณะที่มิเคล แลนด้า (Movistar) ทำผลงานได้ไม่ดีนักจบรายการช้ากว่าแชมป์สองนาทีครึ่ง
ในสนามนี้พอร์ทโชว์ฟอร์มการไต่เขาที่ดีที่สุดในบรรดาตัวเต็ง คินทานาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยผลงานแชมป์หนึ่งสเตจ แต่เสียเวลาในสเตจ Time Trial ทั้งสองสเตจ ซึ่งยังคงเป็นจุดอ่อนของกัปตันทีมชาวโคลอมเบียคนนี้
ขณะเดียวกัน อเลฮาน โดรวาวเวอเด้ (Movistar) อีกหนึ่งตัวเต็งของทีมกลับไปได้แชมป์ในรายการ La Route D’Occitannie ในฝรั่งเศส พร้อมคว้าแชมป์สเตจที่ยาทกี่สุดที่จบบนยอดเขาด้วย
ใน Tour de Slovenia เป็นพริมอซ โรจ์กลิค (LottoNL-Jumbo) ที่คว้าแชมป์รายการจากทั้งฟอร์มการไต่เขาและการปั่น Time Trial เขาทำเวลาดีกว่าริกโอเบอร์โต้ อูราน (EF Drapac) ที่คว้าอันดับสอง 1:50 นาที
ถ้าใครจำไม่ได้ โรจ์กลิคนี่เป็นม้ามืดที่กำลังมาแรงครับ ปีที่แล้วเขาได้แชมป์สเตจเรซถึงสองรายการทั้งใน Tour of the Basque Country และ Tour de Romandie พร้อมแชมป์สเตจใน Tour de France เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่ปั่น Time Trial ได้ดีมากและไต่เขาก็ไม่เลว ปีที่แล้วเขาคว้าอันดับสองในการแข่งชิงแชมป์โลก Time Trial เป็นรองแค่ทอม ดูโมลานเท่านั้น
Tour de France ปีนี้จะเริ่มแข่งวันที่ 7 กรกฏาคมที่จะถึงนี้ ระหว่างนี้เราจะไม่มีแข่งรายการใหญ่ๆ เลยครับ จะมีคั่นก็แค่สนามชิงแชมป์ประเทศของแต่ละประเทศในยุโรปเท่านั้น
Movistar กับการส่งเอซสามคนลง Tour de France
จริงว่าแลนด้าอาจจะฟอร์มไม่ดีเท่าคินทานาและวาวเวอเด้ แต่ทีมก็ยังยืนยันแผนเดิมที่ไม่เหมือนทีมไหนๆ ด้วยการส่งกัปตันทีมลง Tour de France ถึงสามคน ในการแถลงข่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมมั่นใจว่าแผนนี้จะดีที่สุดสำหรับทีม
การส่งกัปตันทีมลงรายการใหญ่หลายคนไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่น้อยทีมที่จะส่งถึงสามคน (ส่วนหนึ่งก็เพราะมีหัวหน้าแค่คนหรือสองคนเท่านั้น) อย่างที่เราเห็นใน Giro d’Italia ปีนี้ที่ทีม Mitchelton-Scott ส่งคู่ไซมอน เยทส์และเอสเตบาน ชาเวซ และเก็บผลงานไปมากมายถึงจะแรงแผ่วเอาตอนสัปดาห์สุดท้ายก็ตาม
วาวเวอเด้ เอซที่อาวุโสที่สุดในทีมกล่าวว่าผู้นำที่แท้จริงจะปรากซในสนามแข่งเอง ให้การแข่งขันเป็นตัวตัดสินดีที่สุด “มีหัวหน้าสามคนแบบนี้ช่วยเพิ่มตัวเลือกการแข่งขันของเราครับ เราจะหาทางใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ให้ได้มากที่สุด…ทุกๆ ปีเราเห็น Sky คุมเกมนิ่งๆ จนชนะอยู่ทีมเดียว เพราะงั้นทำไมเราไม่ลองใช้แผนอื่นที่พวกเขาไม่เคยเจอกันบ้างหละ? ผมว่าทีมเราแกร่งพอจะจัดการ Sky ได้นะ”
ผู้จัดการทีม Movistar เสริม: “เราทำขั้นแรกสำเร็จแล้วที่เตรียมร่างกายเอซทั้งสามคนให้พร้อมลงแข่งที่สุด จากที่คุณเห็นในผลงานสัปดาห์นี้ เป้าหมายต่อไปคือเอาตัวรอดสัปดาห์แรกในตูร์ให้ได้”
คินทานาเสริม: “มันไม่ใช่แค่เราสามคน เรายังมีีเพื่อนร่วมทีมอีกห้าคนซึ่งผมเชื่อว่าทีมเราจะเป็นที่น่าเกรงขามในตูร์ปีนี้ครับ”
ที่มา: Velonews
นิบาลี: “จะชนะฟรูมได้คุณต้องไม่ธรรมดา”
วินเชนโซ นิบาลีอาจจะไม่ใช่คนที่เน้นสร้างผลงานก่อนลงแข่งรายการใหญ่เหมือนตัวเต็งคนอื่นๆ แต่ผลงานที่ผ่านมาของเขาก็ยืนยันความสามารถได้เป็นอย่างดี นิบาลีและฟรูมเป็นนักปั่นสองคนในเปโลตองตอนนี้ที่เคยได้แชมป์แกรนด์ทัวร์ครบทั้งสามรายการ เมื่อถูกถามว่าจะเอาชนะฟรูมในปีนี้ได้หรือเปล่า? เขาไม่มั่นใจ:
“ฟรูมจะชนะ Giro-Tour ได้มั้ย? ผมว่าก็เป็นไปได้นะ เขาจบ Giro แบบฟอร์มยังไม่ 100% แล้วน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วย จะชนะเขาได้คุณต้องไม่ธรรมดาครับ”
“อะไรที่ฟรูมมีเหนือกว่าเรา? ทีมไง Sky มีเงินมากพอที่จะจ้างนักปั่นเก่งๆ มาตรึงเกมทั้งสนาม”
ทีม Sky มีงบทำทีมในปี 2017 ประมาณ 42 ล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่ทีมของนิบาลี Bahrain-Merida มีแค่ 18 ล้านเหรียญเท่านั้น น้อยกว่ากันร่วมสองเท่าเลยทีเดียว ริชีย์ พอร์ทอดีตนักปั่นทีม Sky ก็เคยบอกว่า Sky มีงบมากพอจะส่งทีมเก่งๆ ลงสามทีมพร้อมกันในแกรนด์ทัวร์รายการเดียวกันทั้งสามรายการตลอดทั้งปี
“ไม่มีใครห้ามให้ฟรูมลงแข่งนะ กฏอนุญาตให้เขาลงแข่งได้ถึงจะยังมีคดีอยู่ ถ้าเป็นผม ผมก็คงลงแข่งเหมือนกัน แน่นอน ผมไม่ใช่เพื่อนสนิทเขาที่จะไปนั่งทานข้าวด้วยกันอะไรแบบนั้น แต่เราเคารพในความสามารถของกันและกัน หลังจบ Milan-San Remo ที่ผมได้แชมป์ผมแวะโมนาโคก่อนกลับอิตาลี แล้วผมบังเอิญเจอฟรูมพอดี เขากล่าวชื่นชมชัยชนะของผม ซึ่งผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก “
ที่มา: Velonews
Cool Stuff
Bastion Cycle Custom paint for Rapha
Tour de Suisse Final Stage Highlight