โปรทัวร์ใน 5 นาที: 25 พฤษภาคม 2018
สัปดาห์นี้ DT หายตัวจากเว็บไปหลายวัน นั่นก็เพราะเราจัดทริปปั่นที่ญี่ปุ่นครับ โปรแกรมแน่นกว่าที่คิดนิดหน่อยเลยไม่มีเวลาได้อัปเดตเว็บเท่าไร เพราะงั้นวันนี้มาย้อนร้อย Giro สเตจที่ผ่านๆ มาพร้อมบทวิเคราะห์ และพรีวิวสเตจ 19 วันนี้นะครับ
All photos by RCS Sports
รีวิว Giro สเตจ 18: เยทส์พลาดไม่ได้อีกแล้ว, แชมป์สเตจครั้งที่ 5 ของ Quickstep
สเตจ 18 เมื่อคืนนี้เป็นศึกสองทาง จากฝั่งเบรคอเวย์ที่ชิงแชมป์สเตจและจากฝั่งตัวเต็งแชมป์รายการที่แย่งชิงเวลากัน แมกซ์ แชคแมนน์ (Quickstep Floors) นักปั่นเยอรมันวัย 24 ปีเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยการโจมตีกลุ่มเบรคอเวย์ระหว่างทางขึ้นเขาลูกสุดท้ายที่ยาว 15 กิโลเมตรและชันเฉลี่ย แชคแมนน์แซงหน้ารูเบน พลาซ่า อดีตแชมป์สเตจ Tour de France จากทีม Isarael Cycling Academy และทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของเบรอคเวย์สิบสองคนที่นำหนีเปโลตองได้ร่วมสิบห้านาทีตลอดทั้งวัน
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ Quickstep เป็นทีมที่มีผลงานเยอะที่สุดใน Giro ปีนี้ด้วยแชมป์ทั้งหมด 5 สเตจ และเป็นชัยชนะครั้งที่ 36 ของทีมในฤดูกาล 2018
เกมด้านหลังก็แบ่งเป็นทั้งฝั่งชิงผลงานเสื้อ Best Young Rider และเสื้อผู้นำเวลารวม ริชาร์ด คาราพาซ (Movistar) โจมตีมิกูเอล โลเปซ (Astana) ช่วง 4 กิโลเมตรสุดท้าย แต่โลเปซแซงคืนและนำเข้าเส้นชัยไปก่อนคาราพาซถึง 35 วินาที ส่วนฝั่ง GC เกมเริ่มจากทอม ดูโมลาน (Sunweb) ที่โจมตีหนักๆ ก่อน คริส ฟรูม (Sky) ออกไล่จับพร้อมกับโดเมนิโค พอซโซวิโว่ (Bahrain-Merida) ทำให้ดูโมลานต้องเคาน์เตอร์อีกครั้ง และเป็นจังหวะที่ไซมอน เยทส์ (Mitchelton-Scott) ไม่สามารถตามคู่แข่งทั้งสามคนได้ หลุดยาวและเสียเวลาไปถึง 28 วินาที ผลคือดูโมลานตามเยทส์แค่ 28 วินาทีเท่านั้นในอันดับเวลารวม
คำถามคือเกิดอะไรขึ้นกับเยทส์? ล้าจากสเตจ Time Trial? หรือออมแรงไว้สเตจ 19 วันนี้ที่จัดว่ายากเป็นอันดับต้นๆ ของรายการ? วันนี้เราคงรู้คำตอบครับ เยทส์กล่าวหลังแข่ง:
“วันนี้เกมเป็นแบบโจมตีกันหนักๆ ในระยะสั้นๆ ซึ่งไม่ใช่ความถนัดผมเลยครับ พอดูโมลานโจมตีครั้งแรกผมยังตามได้ แต่ครั้งที่สองผมไม่เหลือแรงจะปิดระยะห่าง ผมเหนื่อย แต่ก็โอเคกับผลนะ ผมใช้แรงไปเยอะมากในช่วงต้นของการแข่งขัน คือยังงี้ครับ สำหรับผมมันไม่มีทางเลือกอื่นน่ะ ถ้าผมไม่แข่งแบบรุก เก็บแชมป์สเตจ เก็บ time bonus ดูโมลานจะนำผมอยู่ ผมเก็บ time bonus ได้รวมๆ 50 วินาทีเลยนะ เยอะกว่าเวลานำที่ผมมีตอนนี้อีก ผมแค่แรงตกกิโลเมตรเดียว ผมยังนำอยู่ แล้วสเตจภูเขาอีกสองสเตจต่อจากนี้เหมาะกับผมกว่าเส้นทางวันนี้”
ส่วนดูโมลานก็เข้าใกล้เสื้อชมพูมากขึ้นอีก เขากล่าว:
“ในที่สุดผมก็ได้เวลากลับคืนมาบ้างแล้ว วันนี้สมบูรณ์แบบครับ เราเริ่มช้าๆ แล้วอัดเต็มตอนสุดท้าย ผมรอจนจังหวะที่เหมาะแล้วลองโจมตีดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เยทส์ตามครั้งแรก แล้วฟรูมกับพอซโซวิโว่ออกมาด้วย แล้วเยทส์ก็หลุดไป ซึ่งดีกับผม แต่จริงๆ ผมไม่คิดว่าเขาจะหลุดนะ ผมรู้ว่าสองวันต่อจากนี้จะไม่ใช่แบบนี้ครับ ก็ต้องดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น การแข่งขันยังไม่สิ้นสุด”
วิดีโอไฮไลท์
ผลการแข่งขัน
พอซโซวิโว่ + ฟรูม ชิงที่สาม?
ศึกชิงที่ 1 และ 2 อาจจะยังสูสีสำหรับดูโมลานและเยทส์ แต่ศึกชิงที่สามก็ก็ยังบอกยากเช่นกัน เมื่อฟรูมและพอซโซวิโว่อยู่ห่างกันแค่ 39 วินาที อีกสองสเตจที่เหลือทั้งคู่ก็น่าจะต้องแย่งชิงเวลากันอีกหลายครั้ง
พอซโซวิโว่กล่าวหลังแข่ง “ผมโฟกัสที่ดูโมลานกับฟรูม ทั้งคู่โจมตีตามที่ผมคาดเพราะทางขึ้นเขาวันนี้มันเหมาะกับสไตล์ของทั้งคู่ แล้วมันก็ทำให้เสื้อชมพูเจ็บหนัก เป้าผมคือติดโพเดี้ยม และจะคว้าแชมป์รายการให้ได้ถ้ามีโอกาส”
ส่วนฟรูมที่ลงแข่งเพื่อแชมป์รายการคงไม่พอใจกับแค่แชมป์สเตจหรือโพเดี้ยม ด้วยเวลาที่ตามเยทส์อยู่ถึง 3:22 นาทีนั้นไม่ง่ายที่เขาจะได้แชมป์รายการแน่นอน ยกเว้นว่าจะเกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้นกับเยทส์และดูโมลาน และเจ้าตัวเองก็ยังไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ
“ผมไม่รู้เลยว่าเยทส์ไปต่อไม่ไหว จังหวะที่ผมเร่งหนีผมถึงเห็นว่ามีแต่พอซโซวิโว่และดูโมลานที่ตามมาได้ การแข่งขันยังไม่จบ ยังเหลืออีกสองวันยากๆ ยังมีเป้าให้คว้าอีกหลายอย่างครับ”
ต้องโจมตีกี่วัตต์ถึงจะทิ้งห่างผู้นำรายการได้?
Velon โชว์ข้อมูลการโจมตีของทอม ดูโมลานเมื่อคืนนี้ที่ทำให้เยทส์ตกที่นั่งลำบาก ต้องโจมตีกันกี่วัตต์ยาวๆ ถึงจะทำให้นักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดในรายการหลุดกลุ่ม? ดูโมลานโจมตีที่ 470 วัตต์เป็นเวลา 3:23 นาทีในระยะ 1.8 กิโลเมตรสุดท้าย และขึ้นไปถึง 650 วัตต์ 45 วินาทีในช่วง 370 เมตรหน้าเส้นชัย peak power อยู่ที่ 900 วัตต์เลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลุกสปรินต์
สเตจ 17: วิวิอานี x4
ย้อนไปสเตจก่อนหน้าที่จบด้วยการสปรินต์กลุ่ม แต่ก็เป็นวันที่ยากสำหรับสปรินเตอร์เหมือนกัน เมื่อเบรคอเวย์หลายชุดพยายามทิ้งห่างและฝนตกหนัก แต่สุดท้ายทีมสปรินเตอร์ก็รวบเก็บได้หมด วิวิอานีสปรินต์ออกตามแดนนี แวน พ็อพเพล (LottoNL-Jumbo) และแซงได้อย่างไม่ลำบากนัก เก็บแชมป์สเตจครั้งที่ 4 ในรายการนี้ เทียบเท่ากับเฟอร์นันโด กาวิเรีย เพื่อนร่วมทีมในปี 2017
“เรารู้ครับว่าสเตจนี้จะยากที่จะคุมเกม เบรคอเวย์แข็งแรงมาก แต่ทีม Bora ก็คุมจนอยู่ เราก็หาทางเล่นกับ Bora อยู่เหมือนกันเพราะเบนเน็ตฟอร์มดีและอาจจะขึ้นมาแย่งเสื้อคะแนนรวมผมได้ง่ายๆ ตอนจบที่เรารวบเบรคได้ผมบอกให้ทีมขึ้นลีดเอาท์ ผมเห็นว่าพ็อพเพลออกตัวเร็วไป เขาเลยเหมือนลีดเอาท์คนสุดท้ายของผม ซึ่งจบสมบูรณ์แบบพอดี”
สปรินเตอร์ชาวอิตาเลียนคนสุดท้ายที่ชนะเท่ากับหรือมากกว่า 4 สเตจใน Giro คืออเลซานโดร เพทัคคีในปี 2005
Giro สเตจ 16: เดนนิสเร็วที่สุด, เยทส์ยังนำดูโมลาน
สเตจ 16 อาจจะเป็นวันที่คนเฝ้ารอที่สุดใน Giro ปีนี้เลยก็ได้ กับการแข่ง Time Trial ระยะทาง 34.2 กิโลเมตร มีข้อสังเกตที่น่าสนใจหลายอย่าง
- โรฮาน เดนนิส (BMC) คว้าแชมป์สเตจ เอาชนะโทนี มาร์ติน (Katusha-Alpecin) 14 วินาที และชนะดูโมลาน (Sunweb) อันดับสามที่ +22 วินาที
- ดูโมลานเร็วกว่าเยทส์ 1:15 นาที ซึ่งก็ต้องบอกว่าเยทส์ปั่นได้ดีกว่าที่เราคิด และไม่เสียเยอะระดับ 2 นาที++ จากที่เราเคยคำนวนแบบ head-to-head ในแมทช์ที่ทั้งคู่เคยเจอกันเมื่อก่อน
- ฟาบิโอ้ อารู (UAE) ดูจะเร็วเป็นพิเศษและเกินความคาดหมาย ที่ตอนแรกคว้าอันดับสี่ของสเตจแต่พบว่าดูดรถยนต์ ทำให้โดนปรับ +20 วินาที
- ทิบอต์ พินอท์ (FDJ) พังอย่างสิ้นเชิง ช้ากว่าแชมป์สเตจถึง 3:19 นาที ดูไม่มั่นใจกับการปั่น TT เลย และหลุดโผ GC แบบกู่ไม่กลับ
สเตจ 19 คือวันที่ควรหยุดทุกอย่างเพื่อชมตั้งแต่ต้นจนจบ
สเตจ 19 คืนนี้จะเป็นวันที่ยากที่สุดใน Giro d’Italia ปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ลองดูเส้นทาง
ระยะทาง 184 กิโลเมตร ระยะปีนเขา (elevation) ร่วม 3,500 เมตรผ่านภูเขาสูงชัน 4 ลูก ผ่านเขาที่ถนนเป็นทางกรวดและสูงที่สุดใน Giro ปีนี้ จบด้วยเส้นชัยบนยอดเขาที่ชันสูงสุด 14%
- Colle del Lys เขาลูกแรกยาว 14km
- Colle delles Finestre ลูกที่สองยาว 18km และเป็นจุดสูงสุดของ Giro ปีนี้ที่ 2,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชันเฉลี่ย 9.2% และเป็นทางกรวดครึ่งนึง มีโค้งพับ 45 โค้ง
- Colle Sestriere ลูกที่สามยาว 16 กิโลเมตร ชันเฉลี่ย 9%
- Monte Jafferau คือเส้นชัยของวันนี้ เป็นสกีรีสอร์ทในเมือง Bardonecchia ยาว 7.2km ชันเฉลี่ยหนักถึง 10.5%
สเตจวันนี้น่าจะคัดผู้ชนะที่แท้จริงของรายการนี้ครับ
ทีม Sky ส่งอีแกน เบอร์นาลลง Tour de France
ความเคลื่อนไหวนี้น่าสนใจครับ หลังจากที่คว้าแชมป์รายการ Tour of California สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีข่าวลือออกมาว่าอีแกน เบอร์นาลอาจจะได้ลง Tour de France ให้กับทีม Sky ในเดือนกรกฏาคมที่จะถึงนี้
ถึงจะเป็นฤดูกาลแรกของการเป็นนักปั่นอาชีพ แต่เบอร์นาลคว้าแชมป์ในระดับที่เราไม่ได้เห็นในรอบสิบปี ไม่ว่าจะเป็นอันดับหกใน Tour Down Under, แชมป์ TT โคลอมเบีย, แชมป์รายการ Oro y Paz (ชนะอูรานและคินทานา), เกือบจะชนะ Volta Catalunya (แต่ล้มในสเตจสุดท้าย), อันดับสองใน Tour de Romandie, และแชมป์ Tour of California พร้อมกวาดแชมป์สเตจที่จบบนเขาทั้งสองสเตจในรายการ
เว็บไซต์ Marca รายงานว่า Sky อาจจะส่งเบอร์นาลลง Tour de France เพื่อช่วยเหลือคริส ฟรูมในสเตจภูเขา (หรืออาจจะเป็นแผนสำรองในกรณีที่ฟรูมต้องรับโทษคดีใช้ยาแก้ภูมิแพ้เกินเกณฑ์?) ผิดจากกำหนดเดิมที่เบอร์นาลจะได้ลงแกรนด์ทัวร์สนามแรกใน Vuelta a Espana ช่วงปลายปี
ผู้จัดการส่วนตัวของเบอร์นาลให้สัมภาษณ์ Marca ว่า:
“ถ้าเบอร์นาลลง Vuelta เขาจะมีแรงกดดันมากกว่าใน Tour de France นะ เพราะเขาอาจจะต้องลงในฐานะผู้นำทีม แต่ในตูร์เขาสามารถอยู่ใต้เงาของฟรูมและเรียนรู้เกมการแข่งขันได้โดยไม่มีความคาดหวังว่าจะต้องทำผลงาน”
ฟิล ไกมอน vs เฟเบียน แคนเชอลารา
ถ้าวงการมวย / MMA จะมีแมทช์หยุดโลกอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวธเธอร์ ปะทะ คอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ วงการจักรยานก็อาจจะมีอะไรใกล้เคียงกันเร็วๆ นี้ครับ เมื่อฟิล ไกมอน อดีตนักปั่นอาชีพจากทีม Cannondale-Drapac นัดดวลกับเฟเบียน แคนเชอลารา อดีตแชมป์โลก Time Trial 4 สมัยและแชมป์สนามคลาสสิคระดับ monument 7 ครั้ง
— Phil Gaimon (@philgaimon) May 17, 2018
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากที่ไกมอนเขียนโจมตีแคนเชอลาราในหนังสือของเขาว่า แคนเชอลารานั้นอาจจะใช้มอเตอร์ซ่อนในจักรยานในการคว้าแชมป์สนามคลาสสิคหลายๆ รายการ ซึ่งแน่นอนว่าแคนเชอลาราปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นก็มีการปะทะคารมผ่านสื่อจนเป็นดราม่าใหญ่โตตลอดปี 2018
จนถึงวันหนึ่งแคนเชอลาราท้าแข่งไกมอนให้มาเจอกันแบบตัวต่อตัวในรายการปั่น gran fondo (คล้ายๆ สนามใจเกินร้อย) ในซีรีย์ Chasing Cancellara ที่เขาเป็นคนจัดเอง ไกมอนตกลงรับคำท้าและทั้งคู่จะดวลกันในสนาม Chasing Cancellara รายการแรกวันทีี่ 1 กรกฏาคมนี้ ที่เป็นการแข่งขึ้นเขา Col du Pillion ในสวิสเซอร์แลนด์ ความยาว 6.9 กิโลเมตรและความชันเฉลี่ย 5.2% ทั้งคู่จะบริจาคเงินรางวัลจากแมทช์นี้เพื่อการกุศล
ไกมอนเองอาจจะไม่ใช่นักปั่นชื่อดังอะไร แต่ก็เป็นหนึ่งในนักไต่เขาที่ฝีเท้าดีทีเดียว เคยคว้าแชมป์สนาม Vuelta a San Juan และหลายๆ สนามในสหรัฐอเมริกา แต่ตัดสินใจอำลาวงการตอนอายุ 30 ปี
ส่วนใครจะชนะรายการนี้คงบอกได้ยาก แต่น่าจะเหมาะกับไกมอนมากกว่าแคนเชอลารา หลังจากรีไทร์แล้ว ไกมอนออกมาทำช่อง Youtube ของตัวเอง ในรายการที่ชื่อ ‘Worst Retirement Ever’ ที่เขาตระเวนล่า KOM Strava บนภูเขาสูงชันทั่วสหรัฐอเมริกา