ทำไม Etixx-Quickstep จ้างเฟอร์นันโด กาวิเรีย?

[dropcap letter=”ข่”]าวดังประจำวงการเมื่อคืนนี้คือทีม Etixx-Quickstep เซ็นสัญญาว่าจ้างสปรินเตอร์น้องใหม่ชาวโคลอมเบียวัย 20 ปี เฟอร์นันโด กาวิเรีย (และรอดริโก คอนเทรราส์) เป็นเวลาสองปีเต็ม ซึ่งทั้งคู่จะเริ่มแข่งในเสื้อฟ้า-ขาว ของ Quickstep ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป

The Colombian Ace

ถ้าใครจำได้ กาวิเรีย คือนักปั่นที่เอาชนะมาร์ค คาเวนดิชได้สองครั้งซ้อนในสนาม Tour de San Luis

Tour de San Luis 2015 -  stage - 1
ครั้งนี้
Tour de San Luis Gaviria Cavendish  (1 of 1)
และครั้งนี้

ล่าสุดกาวิเรียพิสูจน์ความสามารถด้วยการคว้าแชมป์โลกสนามลู่ประเภท Mens’ Omnium ในงาน UCI World Track Championships ในขณะที่คอนเทรราส์โชว์ฟอร์มการไต่เขาจนได้อันดับ 5 ใน Tour de San Luis พร้อมคว้าเสื้อนักปั่นเยาวชนยอดเยี่ยม (Best Young Rider) ซึ่งผลงานของทั้งคู่ถือว่าเข้าตากรรมการผู้จัดการทีม Quickstep – แพทริค เลอฟีเวียร์ และจริงๆ แล้วเลอฟีเวียร์ติดตามทั้งคู่มาก่อนที่จะเห็นแววในสนาม Tour de San Luis ปีนี้เสียอีก

“ปีที่แล้วมีคนแนะนำผมว่าให้ลองดูกาวิเรียและคอนเทรราส์ ทั้งสองคนมีแววจะเป็นนักปั่นที่ดีในอนาคต ไม่ต่างจาก ปีเตอร์ซากาน และมิฮาล เควียทคอฟสกีที่โชว์ฟอร์มตั้งแต่อายุยังน้อยๆ”​

“ผมทำพลาด เพราะไม่รีบเซ็นสัญญาตั้งแต่เนิ่นๆ พอทั้งคู่แข่ง San Luis เสร็จ หลายทีมรีบวิ่งเข้าหา ค่าจ้างก็แพงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า” 

ล่าสุดทั้งกาวิเรียและคอนเทรราส์เข้ามาคุยกับเลอฟีเวียร์พร้อมเช็คความสามารถในห้องแล็บของทีม ซึ่งทีมก็พอใจจนตัดสินใจว่าจ้างทั้งคู่ทันที เลอฟีเวียร์หวังปั้นกาวิเรียให้เป็นดาวรุ่งสปรินเตอร์คนใหม่ ในขณะที่คอนเทรราส์จะเป็นนักปั่น GC ของทีม

กาวิเรียเองก็ดูจะพอใจกับการได้เป็นสมาชิกหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก (Quickstep มียอดชัยชนะเยอะกว่าทุกๆ ทีมกว่าสามปีแล้ว) กาวิเรียบอกว่า:

“ทีม Quickstep เป็นทีมในฝันของผม ผมตามทีมนี้มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ผมปลื้มมาร์ค คาเวนดิช ยิ่งใน Tour de San Luis ผมพยายามตามเขาตลอด พยายามสังเกตและเรียนรู้สไตล์การแข่งของเขา Quickstep เป็นเซียนการสปรินต์และผมรู้ว่าทีมนี้จะช่วยให้ผมพัฒนาการสปรินต์ได้ดีขึ้น”​

แล้วคาเวนดิชจะทำยังไง?

จุดสนใจของดีลครั้งนี้คงจะอยู่ที่กาวิเรียมากกว่าคอนเทรราส์ เพราะเขาจะมาอยู่ร่วมทีมกับเอซสปรินเตอร์ มาร์ค คาเวนดิช ซึ่งจะหมดสัญญากับทีมสิ้นปี 2015 นี้

อย่างไรก็ดีเลอฟีเวียร์มีแผนที่จะจ้างคาเวนดิชต่อ ซึ่งดูจากที่ทีมลงทุนกวาดซื้อลีดเอาท์มือฉมังมาหลายคนเพื่อซัพพอร์ทคาเวนดิชแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่จ้างเขาต่อ ถึงคาเวนดิชจะแพ้กาวิเรียสองครั้ง แต่ปัจจุบันฤดูกาลนี้ เขาเป็นนักปั่นที่มียอดชัยชนะเยอะที่สุด (7 ชัยชนะ จาก 11 ชัยชนะของทีม Quickstep)

คาเวนดิชเองก็บอกว่ารักทีมนี้เหมือนครอบครัว เหมือนสมัยที่เขาอยู่กับ HTC-Highroad

แต่ผมว่าดีลนี้เป็นดีลที่ฉลาดมากสำหรับเลอฟีเวียร์ เพราะถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

  1. Quickstep ได้สปรินเตอร์ดาวรุ่งที่ฮ็อตที่สุดในตลาดตอนนี้มาร่วมทีม ยังสามารถพัฒนาได้อีกไกล
  2. เป็นแรงกระตุ้นให้คาเวนดิชขยันทำงานกว่าเดิม โดยเฉพาะในปีนี้ที่เขาจะหมดสัญญากับทีม และต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในสนาม Tour de France ที่พ่ายให้กับคู่แข่งตัวฉกาจอย่างมาร์เซล คิทเทล (Giant-Alpecin) แบบหมดท่าในตูร์ปีที่แล้ว

เลอฟีเวียร์บอกว่า จะมีสปรินเตอร์สองคนก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่ต้องกังวลว่าจะแย่งงานกันหรือเป็นประเด็นสร้างความขัดแย้งในทีม

“ในหนึ่งฤดูกาล ทีมเราแข่ง 270 วัน คาเวนดิชแข่ง 90 วัน ตอนนี้ทีมเรามีสปรินเตอร์จริงๆ แค่คนเดียว มันมีพื้นที่มากพอให้สปรินเตอร์อีกหนึ่งคน”

ที่ผ่านมา Quickstep มีสปรินเตอร์ถึงสี่คน (แอนดรูว์ เฟนน์, เกิร์ท สตีกแมน, จิอานนี เมียร์สแมน, และคาเวนดิช) แต่มีแค่เมียร์สแมนและคาเวนดิชที่มีผลงานต่อเนื่องและเป็นสองคนที่ยังอยู่กับทีม Quickstep ชุดปัจจุบัน Giant-Alpecin เป็นตัวอย่างที่ดีของทีมที่มีสปรินเตอร์หลายคน ไม่ว่าจะเป็นคิทเทล เดเกนโคลบ์ และลูคา เมซเกซ​ ที่กระจายกันลงหลายสนามและทำผลงานได้ต่อเนื่อง

เลอฟีเวียร์หวังให้กาวิเรียเติบโตในทีมและขึ้นมาแทนคาเวนดิชเมื่อเขารีไทร์ในที่สุด แต่อาจจะไม่ใช่เร็วๆ นี้อย่างที่หลายๆ สื่อประโคมข่าว เพราะคาเวนดิชยังเพิ่งจะอายุ 30 ปีและยังมีผลงานต่อเนื่อง รวมถึงการสปรินต์ที่ดีนั้นเป็นประสบการณ์ที่ต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางตำแหน่ง การทำงานร่วมกันระหว่างทีม ความมั่นใจของทีมที่มีให้เอซ​ (ถ้าทีมไม่มั่นใจกับเอซ ก็ยากที่จะยอมทุ่มเทลากบังลมให้แบบถวายหัว) ดูอย่างมาร์เซล คิทเทล ก่อนที่เขาจะเป็นสปรินเตอร์เบอร์หนึ่งเขาใช้เวลาสร้างฟอร์มเก็บประสบการณ์หลายปี เช่นเดียวกับทีม Giant ที่ฝึกซ้อมการลีดเอาท์อยู่หลายฤดูกาลกว่าจะมาเป็นขบวนหัวลากที่เก่งพอจะเทียบเท่า HTC และ Quickstep

คาเวนดิชเองก็ดูจะชอบน้องใหม่คนนี้ไม่น้อยครับ

ทายาทอูราน?

สำหรับคอนเทรราส์ คนนี้เป็นนักไต่เขาตัวยงและ Time Trial ได้ไม่เลว ได้แชมป์ TT ในสนาม Pan American 2014 ทีมหวังให้เขาเป็นนักปั่นสเตจเรซที่สามารถท้าชิงระดับแกรนด์ทัวร์ได้ในอนาคต คอนเทรราส์มีริกโอเบอร์โต อูรานเป็นไอดอล แถมยังเป็นนักปั่นชาติเดียวกันอีกด้วย

สิ่งที่แน่นอนที่สุดตอนนี้คือทีม Quickstep ได้นักปั่นที่มีแววรุ่งที่สุดในวงการไปเรียบร้อยแล้ว แต่นั่นหละครับ มีแววก็คือมีแวว ไม่ได้หมายความว่าจะรุ่งหรือชนะได้ทันที เพราะเรารู้ว่าโลกของโปรทีมดิวิชัน 1 นั้นมันยากกว่าระดับคอนทิเนนทัลหลายขุม มี “ดาวดัง” เยาวชนหลายคนที่เหมือนจะฟอร์มดี มีลุ้นเป็นแชมป์ตูร์หรือแชมป์คลาสสิค (จำเอ็ดวาลด์ บอสซัน ฮาเก็นได้มั้ย?) แต่สุดท้ายก็แผ่วลงไป ไม่สามารถต่อยอด “แวว” ของเขาได้

นักปั่นจะรุ่งหรือจะรอดไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเขาเพียงคนเดียว แต่ขึ้นอยู่กับทีมต้นสังกัดด้วยว่ามีโปรแกรมการพัฒนาต่อยอดนักปั่นของตัวเองอย่างไร และเลือกสนามไหนให้เขาลงแข่ง อย่างปีที่แล้วหลายคนสงสัยว่าทำไม Movistar ไม่จับ คินทานาลงตูร์ ทั้งๆ ที่ปี 2013 เขาได้อันดับสอง แต่ผู้จัดการทีมยืนยันว่า คินทานายังเด็กและไม่อยากให้ต้องรับแรงกดดันที่ต้องแบกความหวังของทีมทั้งทีมในสนามแข่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งก็ได้ผลดีเพราะปี 2014 เขาลงแข่ง Giro ก่อนแล้วได้แชมป์รายการเลย ขณะเดียวกัน เอ็ดวาลด์ โบสซัน ฮาเก็น สมัยที่อยู่กับ Sky มีโอกาสเป็นหัวหน้าทีมน้อยและต้องคอยแข่งเป็นโดเมสติกให้ดาวดังอย่างวิกกินส์และฟรูม จนหมดโอกาสพัฒนาต่อยอดความสามารถ และต้องย้ายไปอยู่กับทีมใหม่ (MTN) ที่ให้อิสระเขามากกว่าครับ

♦♦♦

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *