ผู้จัดงานแข่ง WorldTour จะลดสมาชิกทีมจาก 9 เหลือ 8 // UCI บอกปรึกษาพี่ก่อนมั้ย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้จัดงานแข่ง WorldTour 3 รายใหญ่ซึ่งรวมกันแล้วเป็นเจ้าของงานแข่งเกินครึ่งปฏิทิน (19/37) คือ ASO (Tour de France, Vuelta a Espana, และอื่น ๆ อีกเกือบ 20 อีเวนต์), RCS Sport (Giro d’Italia, Milan-San Remo, etc.), และ Flanders Classic (Ronde van Vlaanderen, Gent-Wevelgem, etc.) ออกมาแถลงข่าวร่วมกันว่า จะปรับลดจำนวนสมาชิกทีมในแกรนด์ทัวร์ทั้งสามรายการลงจาก 9 คนเหลือ 8 คน และจาก 8 คนเหลือ 7 คนสำหรับอีเวนต์อื่น ๆ ในฤดูกาล 2017 โดยอ้างประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น 2 ประการ คือ

  • ความปลอดภัยที่มากขึ้น เนื่องจากความหนาแน่นของเปโลตองลดลง
  • การผูกขาดเกมการแข่งขันโดยทีมใดทีมหนึ่งจะทำได้ยากขึ้น อย่างเช่นที่ ‘Sky Train’ ทำมาหลายฤดูกาล

เป็นนโยบายที่ฟังดูดี เนื่องจากในฤดูกาลที่ผ่านมา อังตวน ดูมัวที (Wanty-Groupe Gobert) ก็เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุชนกับจักรยานยนต์ในการแข่ง Gent-Wevelgem และ สตีก โบรกซ์ (Lotto-Soudal) ก็กลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ทุกวันนี้เพราะอุบัติเหตุกับจักรยานยนต์เช่นกัน ที่สำคัญทุกคนก็คงรู้ดีว่าตูร์เดอฟรองซ์หลัง ๆ มานี้ Team Sky ทำหมันเปโลตองด้วยขบวนลากขึ้นเขาความเร็วสูง จนไม่มีใครออกโจมตีกลุ่มได้ จบสเตจแบบเนือย ๆ ทุกที

อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประชุมสามัญของสมาพันธ์ผู้จัดงานแข่งจักรยานนานาชาติ (AIOCC) แต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่มีสภาจักรยานอาชีพ (PCC) หรือสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) เข้าร่วมประชุมด้วย ทำให้ UCI ออกมาประกาศสวนทันที

“จากการแถลงข่าวเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับขนาดของทีมในการแข่งขัน สมาพันธ์ฯขอชี้แจงว่าแม้การลดขนาดทีมจะเป็นความต้องการของผู้ถือผลประโยชน์บางราย แต่การเปลี่ยนแปลงขนาดทีมในการแข่งขันระดับอาชีพต้องถูกรับรองโดยสภาจักรยานอาชีพ (PCC) ซึ่งมีผู้จัดงานแข่งจักรยานอยู่ทุกรายก่อนเสมอ สำหรับรายละเอียดเรื่องจำนวนสมาชิกต่อทีมนั้นเป็นวาระการประชุมของสภาจักรยานอาชีพเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และข้อสรุปคือการลดจำนวนนี้จะยังต้องหารือในรายละเอียดกันอีกในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป และยังไม่นำมาใช้ในฤดูกาล 2017 นี้”

สรุปคือ UCI แถลงข่าวโต้ว่าผู้จัดแข่งจะประชุมกันเองไม่กี่รายแล้วลดจำนวนกันบุ่มบ่ามแบบนี้ไม่ได้ และในฤดูกาลหน้าก็จะยังไม่ให้ลดด้วย ต้องประชุมกันให้เรียบร้อยทุกฝ่ายก่อนนั่นเอง

tdu2

ผู้จัดการทีมไม่พอใจ

การประกาศปุบปับชนิดบอกวันนี้ จะเอาพรุ่งนี้ ย่อมทำให้คนไม่พอใจเป็นธรรมดา และผู้จัดการทีมต่าง ๆ ก็ออกมาวิพากย์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด

โจนาธาน วาเทอร์ (Cannondale-Drapac): “ขอบคุณ ASO มากเลยที่กรุณามาบอกเอา 2 เดือนก่อนเริ่มฤดูกาล ผมไม่ได้ไม่เห็นด้วยเรื่องทีมที่เล็กลงนะ แต่มาบอกตอนที่วางแผนไปหมดแล้ว สมาชิกทีมปิดยอดแล้วนี่ ไม่เกรงใจกันเลย”

จิม โอโควิกซ์ (BMC Racing Team): “ผมไม่ต่อต้านเรื่องนี้ แต่บอกตอนนี้มันช้าเกินไป เราวางแผนสมาชิก ว่าจะส่งใครไปรายการไหนบ้าง แล้วก็วางแผนการซ้อมไปแล้วด้วย เราพร้อมจะแข่งในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า แล้วมาเจอแบบนี้เนี่ยนะ อีกอย่างการแข่งแกรนด์ทัวร์เราต้องใช้คนครบทั้ง 9 ด้วยครับ ถ้าเริ่มด้วย 8 แล้วคนนึงเกิดบาดเจ็บในสัปดาห์แรกก็เหลือ 7 แล้ว และเรื่องแบบนี้มันก็เกิดทุกปีครับ กว่าจะถึงปารีสก็มีถอนตัว 1-2 คนทุกปี ดังนั้นทีมที่มีเป้าหมายมีมากกว่า 1 อย่าง เช่น GC และสปรินต์ แทบจะทำแบบนั้นไม่ได้เลย”

แพทริก เลเฟแวร์ (Quick Step Floors): “ไม่เห็นด้วย อยู่ ๆ ก็ประกาศออกมาไม่ปรึกษาใครแบบนี้ อีกอย่างถ้าทำจริงเราก็ไม่ต้องมีสมาชิกถึง 30 คนต่อทีมแล้วสิครับ เอาออก 5 คนก็ส่งไปแข่งได้ครบทั้งฤดูกาลแล้ว ทีนี้ปีหน้าก็มีนักแข่งตกงานรวม 100 คน บวกผู้ดูแลนักปั่นเหล่านั้นอีก 25 คน ถ้าพวกเขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ให้ดูจากทางแข่งก่อนเลย แข่งกันบนนถนนจะดีกว่าทางแทร็กสำหรับรถม้าไหม แล้วโค้งหักศอกก่อนเส้นชัย 50 เมตรนี่มันปลอดภัยไหม

 

ลดจำนวนนักปั่นแล้วมีผลกับทีมยังไง?

การที่ผู้จัดแข่งรายใหญ่รวมตัวกันประกาศนโยบายลดจำนวนนักปั่นในทีมมีผลกระทบต่อทีมโดยตรงแน่นอนครับ โปรทีมระดับดิวิชัน 1 (UCI World Tour) ต้องวางแผนล่วงหน้าว่าฤดูกาลหน้าจะต้องลงสนามอะไรบ้าง บางรายการนั้นทับซ้อนกันกับรายการอื่น ต้องแบ่งทีมไปลง บางครั้งอาจจะสามทีมพร้อมๆ กันในสามประเทศทั่วโลก เช่นนั้นแล้วการว่าจ้างลูกทีมก็ต้องเผื่อจำนวนให้ครบลงทุกสนามด้วย

แน่นอนเมื่อ ASO อยากจะลดจำนวนนักปั่นที่เข้าแข่งในสนามได้ก็หมายความว่าทีมไม่จำเป็นต้องใช้นักปั่นมากเท่าเดิม นักปั่นบางคนที่จ้างมามีราคาค่าตัวแพง จริงว่านักปั่นระดับดาวของทีมได้ล็อคตำแหน่งให้ลงสนามใหญ่อยู่แล้ว แต่ปัญหาจะไปตกที่โดเมสติกของทีม ที่อาจจะเป็นโปรหน้าใหม่ หรือโปรรุ่นเก๋าที่อยากจะโชว์ผลงานกับทีม ก็อาจจะตกไปเป็นผู้เล่นตัวสำรอง อดลงสนามจริง

ที่สำคัญ ASO ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และมาแจ้งเองช่วงท้ายฤดูกาล ที่แต่ละทีมล็อคตัวนักปั่นเซ็นสัญญากันหมดแล้ว จริงอย่างที่บอส Etixx-Quickstep บอกที่ว่าไม่รู้จะจ้างนักปั่นมาให้เต็มทีมทำไม เพราะบางทีค่าสัญญานักปั่นที่เกินมา 4-5 คนนั้นรวมๆ กันก็หลายล้านยูโรแล้ว

 

ทีมใหญ่ยังคุมเกมได้แบบผูกขาดหรือเปล่า?

นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ผู้จัดแข่งเชื่อว่าการลดจำนวนนักปั่นจะช่วยลดอิทธิพลของทีมใหญ่ที่ผูกขาดการแข่งในสนามต่างได้ดีขึ้น (นึกถึง Etixx-Quickstep ในสนามคลาสสิคและสเตจสปรินต์ หรือทีม Sky/ Movistar ในแกรนด์ทัวร์)

เหลือ 8 แล้วไง? มี 7 คนผมก็ชนะมาแล้ว 555 (ฟรูมไม่ได้กล่าวไว้)
เหลือ 8 แล้วไง? มี 7 คนผมก็ชนะมาแล้ว 555 (ฟรูมไม่ได้กล่าวไว้)

แต่ DT เชื่อว่าการลดจำนวนนักปั่นคงไม่ได้มีผลต่อเกมการแข่งขนาดนั้นครับ

ทีม Sky พาคริส ฟรูมคว้าแชมป์ตูร์โดยมีนักปั่นในทีมแค่ 7 คน (จากทั้งหมด 9 คน) ในปี 2013 เอาจริงๆ แล้วจากแชมป์ตูร์ทั้งหมดสามสมัยของฟรูมนั้น มีแค่ปีล่าสุดที่ทีม Sky ปั่นจบครบ 9 คน

อย่างไรก็ดี การลดจำนวนนักปั่นหมายความว่า หากเพื่อนร่วมทีมบาดเจ็บ หรือต้องถอนตัวระหว่างการแข่ง ก็น่าจะทำให้คุมเกมการแข่งขึ้นได้ยากจริง ทั้งในสเตจภูเขา และสเตจทางราบ โดยเฉพาะเมื่อเกมแกรนด์ทัวร์เริ่มมีตัวเต็งหน้าใหม่ฝีเท้าดีมากขึ้น

ถ้าทีมคุมเกมได้ยากขึ้น ก็น่าจะทำให้เกมการแข่งขันสนุกขึ้นและคาดเดาได้ยากด้วย ยกตัวอย่าง Tour of Britain ปีนี้ที่มีนักปั่นแค่ 6 คนต่อทีม แม้แต่ทีมใหญ่ก็ยังคุมเกมได้ลำบาก เปิดโอกาสให้ทีมเล็กและนักปั่นม้ามืดได้มีโอกาสทำผลงานมากขึ้นนั่นเองครับ

 

สรุป

โดยรวมแล้ว จริงๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีนะในความเห็นของ DT เรื่องลดอุบัติเหตุอาจจะช่วยได้นิดหน่อย (แต่เอาจริงๆ เวลาชุลมุนแย่งตำแหน่งหน้าขบวนกันก็ยังคงไม่ต่างจากเดิมมาก) แต่ที่จะเห็นผลชัดสุดคือเรื่องพลวัตรในสนามแข่ง ทีมต้องเลือกนักปั่นลงสนามรอบคอบกว่าเดิม และอาจจะหวังพึ่งตัวช่วยมากเหมือนเดิมไม่ได้

น่าเสียดายที่ผู้จัดออกกฏมาช้าเกินไป การเปลี่ยนแปลงอย่างนี้น่าจะบอกล่วงหน้าสักหนึ่งปี คนที่ซวยที่สุดก็คือโปรทีมที่ไม่มีเวลาเตรีวมตัวนั่นเองครับ

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *