อีกหนึ่งการแข่งขันที่กำลังเข้มข้นในสัปดาห์นี้คงไม่พ้น Eneco Tour สเตจเรซรายการดังในเนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นสนามแข่งระดับ World Tour เสียด้วย รายการนี้แข่งกันตั้งแต่ 11-17 สิงหาคม มาดูผลการแข่งขันและวิดีโอไฮไลท์ย้อนรอยสเตจ 1-4 กันครับ
ตัวเต็งรายการ: Terpstra, Stybar, Vanmarke, Mollema, Griepel, Gilbert, Van Averamet, Cancellara, Narvadauskas, G. Thomas, Boassan Hagen, Bouhani, Modolo
สเตจ 1: Guardini เปิดสนาม
ชัยชนะสเตจแรกตกเป็นของสปรินเตอร์ขาแรงจาก Astana, แอนเดรีย กอร์ดีนี รักษาฟอร์มร้อนแรงหลังจากที่ได้แชมป์มาสองสเตจในรายการ Tour of Denmark เมื่อสัปดาห์ก่อน กอร์ดีนีขึ้นแซงทอม ดูโมลิน (Giant) และ โยฮาน ยีน (Europcar) ที่หน้าเส้นชัย
Eneco Tour นั้นขึ้นชื่อเรื่องกระแสลมกรรโชกตามสไตล์ดัทช์และฝนฟ้าที่ไม่ค่อยจะเป็นใจสักเท่าไร หลายๆ ทีมพยายามจะใช้กระแสลมข้างระเบิดให้กลุ่ม peloton ขาดตอนแต่ก็ไม่สำเร็จ เป็น Giant และ Lotto ที่พยายามคุมเกมในช่วงสุดท้ายเพื่อส่งดูโมลินและไกรเพิลเข้าเส้นชัน ดูโมลินเปิดสปรินต์แต่ก็โดนกอร์ดีนีรวบแซงในที่สุด
สเตจ 2: Stybar โชว์ฟอร์มแชมป์เก่า
สเตจ 2 ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่อากาศไม่เป็นใจ ฝนตกตลอดทั้งการแข่งขัน ทีม OPQS กดดันคู่แข่งทำความเร็วฉีกกลุ่ม peloton ได้สำเร็จในช่วงสุดท้าย ส่งสไตบาร์เข้ากลุ่มหน้าซึ่งมีคู่แข่งคนสำคัญอย่างเซป ฟานมาร์กและลาร์ส บอม (Belkin) ร่วมวงอยู่ด้วย ที่ 1.5 กิโลเมตรสุดท้าย ฟานมาร์กเปิดเกมก่อน ตามด้วยมานูเอล ควินซิอาโต (BMC) สไตบาร์ขึ้นประกบล้อคู่แข่งจาก Belkin และขึ้นแซงที่หน้าเส้นชัย เก็บแชมป์สเตจไปครอง
ชัยชนะของสไตบาร์นับเป็นชัยชนะครั้งที่ 50 สำหรับทีม OPQS ในฤดูกาลนี้ ส่วนแอนเดร กอร์ดีนีแชมป์สเตจ 1 ไม่สามารถขึ้นตามกลุ่มหน้าได้ทัน ตามเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 14
สเตจ 3: Cancellara พ่าย Doumolin
ทอม ดูโมลิน แชมป์ Time Trial เนเธอร์แลนด์เฉือนเอาชนะเฟเบียน แคนเชอลาราได้สำเร็จ นำห่างแคนเชอลาราที่ทำเวลาช้ากว่าเพียง 2 นาทีเท่านั้น ในสเตจ 3 ซึ่งเป็นการแข่งขันจับเวลาบุคคลระยะทาง 9.6 กิโลเมตร ดูโมลินปั่นจบด้วยเวลา 10:55:32 นาที ความเร็วเฉลี่ย 52 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งเขาขึ้นมาอยู่ดันดับ 2 ในหมวดผู้นำเวลารวม
ชัยชนะครั้งนี้ของดูโมลินเป็นผลงานครั้งแรกในสนามระดับ WroldTour หลังจากที่พ่ายสเตจ TT ให้โทนี มาร์ตินมาต่อเนื่องหลายสนาม
สเตจ 4: Bouhani เร็วที่สุด
สเตจ 4 อาจจะไม่ใช่สเตจที่นักปั่นหลายๆ คนชื่นชอบสักเท่าไร เพราะมีอุบัติเหตล้มบาดเจ็บกันหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะที่กิโลเมตรสุดท้ายเมื่อแอนเดร กอร์ดีนี (Astana) ชนกับแยนเซ แวน เรนซ์เบิร์ก (Giant) จนนักปั่นที่ตามมาด้านหลังด้วยความเร็วสูงล้มตามกันหลายคน คนที่โชคร้ายที่สุดเป็นสไตบาร์แชมป์เก่าที่ล้มหน้ากระแทกพื้นจนฟันหักและปากแตกมีรอยแผลบาดลึกจนต้องถอนตัวจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย
ที่หน้าเส้นชัย เนเซอร์ บูฮานี (FDJ) สปรินต์เอาชนะลูคา เมซเกค (Giant) และจิอาโคโม นิซโซโล (Trek) เก็บผลงานให้ทีมได้เป็นครั้งแรกในสนามนี้
