สปาร์คาคัส ฟาเบียนกรีดตำนานควบม้าศึกกำชัยทัวร์ ออฟ แฟลนเด้อส์เป็นครั้งที่สอง เป็นอีกครั้งที่โลกแห่งวงการจักรยานอาชีพได้ร่วมกันเป็นสักขีพยาน ในการโจมตีหนีกลุ่มอย่างดุดัน ยากที่ขุนศึกแห่งโรมตนใดจะทำได้เสมอเหมือนดั่งเจ้าสปาร์ตาคัส
พิชิตศึก Tour of Flanders
สมรภูมิ Oude Kwaremont อยู่ค่อนมาทางตะวันตกของมณฑล Flander ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของระยะทางการแข่งขันจักรยานคลาสสิครายการยักษ์ Ronde Van Vlaanderen (Tour of Flanders) ที่เนิน Paterberg เป็นเสมือนลานประหาร ด้วยระยะทาง 400 เมตรบนถนนที่ปูด้วนหินก้อน ความชันเฉลี่ย 12.5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีช่วงลาดชันมากที่สุดคือ 20 เปอร์เซ็นต์ มันช่างเป็นยุทธรงค์ที่เหมาะแล้วที่ยอดขุนศึกจะสำแดงเพลงดาบ “มันเป็นการชิงชัยที่ทีมของเราทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม นักปั่นฝีมือฉกาจต่างต้องการสยบผมให้ได้ และทีมของเราตั้งมั่นอยู่กับชัยชนะ”
“Gregy Rast หนึ่งในขุนพลทีม Radioshack สายเลือดสวิสบอกกับผมว่านักปั่นทุกคนเหนื่อยแทบขาดใจ ผมจึงตัดสินใจที่จะทะยานหนีเจ้ากระทิงหนุ่มซากั้นที่เกาะติดผมทันที มันเป็นยุทธวิธีที่ทีมของเราวางแผนมานานนับเดืิอน มันเป็นการต่อสู้ด้วยความเสียสละของไพร่พล Radioshack ทุกนาย ผมต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อคว้าชัยชนะ ก็เพื่อให้กับทั้งครอบครัวและทีมที่ผมสังกัด ที่ให้การสนับสนุนและมอบกำลังใจให้กับผมอย่างเต็มที่ ผมผ่อนคลายลงมากหลังได้รับชัยชนะเป็นคำรบสองในถิ่น Flander ผมและทีมมองไปถึงวันอาทิตย์หน้า ที่อีกหนึ่งตำนานคลาสสิครอพิสูจน์พวกเราอยู่ แน่นอนมันคือ สมรภูมินรกทางตอนเหนือ ปารีส-รูเบร์”
คู่ชีวิต
เมื่อถามสเตฟานคู่ชีวิตของฟาเบียนว่าจะอยู่เป็นกำลังใจให้สามีที่นั่นไหม? “แน่นอน เขาเสียขวัญไปมากกับอุบัติเหตุจากการแข่งขันในปีที้ผ่านมา วันนี้เขากลับมาแล้ว ฉันจะอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นกำลังใจให้ฟาเบียน” สปาร์ตาคัสกรีดปลายดาบไปที่คู่ต่อสู้ตนเดียวที่คู่ควรและท้ารบ เมื่อถึงเนิน Paterberg ฟาเบียนใช้ความได้เปรียบของการระเบิดพลังวัตต์ที่มีระยะเวลาสร้างแรงขับได้ยาวนานมากกว่าสปริ้นเตอร์ซากั้น ฟาเบียนควบม้าศึก Trek ฮ้อตะบึงขึ้นเนินชันและขรุขระ กลาดิเอเตอร์ทิ้งห่างกระทิงหนุ่มสโลวัคแบบฝังตะปูตัวสุดท้ายปิดฝาโลง และระยะทางที่เหลือคือ ชิ้นงานที่ฟาเบียนนำพรสวรรค์แห่งความเป็นเลิศของการปั่นเดี่ยวจับเวลา ฟาเบียนควงข้อเหวี่ยงบันไดราวกับการกวัดแกว่งศัสตราฉวัดเฉวียนเพื่ออวดคมดาบ ด้วยศักดิ์ศรีแชมป์โลกจับเวลาประเภทบุคคลสี่สมัย คงไม่มีขุนศึกหน้าไหนกล้าพอแม้แต่จะคิดท้าทาย ปีเต้อร์ ซากั้น (ทีม Cannodale ) และ Jurgen Roelandts (Lotto-Belisol) ถูกทิ้งให้ตามหลังเข้าเส้นชัยหลังฟาเบียนร่วมนาทีกว่า
เสียสละเพื่อชัยชนะ
ผู้จัดการทีมRadioshack – Dirk Demol โฟกัสการวางแผนและจับตามาที่ฟาเบียนแบบแทบไม่ละสายตาตลอดการแข่งขัน “ฟาเบียนอยู่ในสภาพที่พร้อมมาก ตลอดการแข่งขันผมเห็นเขาได้ใช้สมรรถนะกับเส้นทางที่เขาถนัด ทำให้พลังของเขากลับมีมากขึ้น ซึ่งมันช่างสวนทางกับระยะทางที่เหลืออยู่ มีการวิพากย์ทีมของเราว่า Radioshack เป็นทีมที่ยังขาดความแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับสมรภูมิ Flander ตอนนี้ผมอยากหัวเราะ เพราะไพร่พลทั้งหมดของเรายอมตายเพื่อฟาเบียน ผมอยู่ข้างเจ้าสปาร์ตาคัสตั้งแต่ 10 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย และพูดกับเขาว่า นายกำลังจะชนะ Tour of Flender ครั้งที่ 100 แล้ว เขามีความมั่นใจและเชื่อมั่นสูงมาก และอาทิิตย์หน้าที่รูเบร์ทุกสายตาต้องจับมาที่ฟาเบียน”
Hayden Roulston อีกหนึ่งขุนศึกร่วมทีม Radioshack จากแดนกีวีให้ทัศนะ”การทำงานที่เสียสละร่วมกันเป็นทีม เป็นกุญแจดอกสำคัญสู่ชัยชนะ พลรบของเราทุกนายสละทุกสิ่งเพื่อส่งให้เรือธงของเราข้ามเส้นชัยเป็นคนแรก” “เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยม ฟาเบียนตอกย้ำความเป็นเอกอุแห่งจ้าวของการแข่งขันแบบคลาสสิค ก่อนการแข่งขันเขาอยู่ในความกดดันอย่างมหาศาล เมื่อคีมยักษ์บีบมาที่เขาคนเดียว ก็เพราะความยิ่งใหญ่ของตำนานที่ฟาเบียนสร้างเอาไว้ ช่วงต้นของการแข่งขัน ทีมของเราวางแผนที่จะต้องผนึกพลังและวางตำแหน่งพลรบให้อยู่ในแถวหน้าของเปโลตอน พวกเราจะต้องส่งฟาเบียนให้ถึงจุดเส้นทางที่เขาจะหนีกลุ่มให้ได้มากที่สุด และเราก็ทำสำเร็จ มันเป็นชัยชนะที่ล้ำเลิศสำหรับครอบครัว นักแข่ง ทีมและเจ้าหน้าที่ทีมทุกคนครับ” ผู้จัดการทีม Radioshack – Luca Guercilena กล่าว
ชัยชนะของเราในวันนี้ ทำให้มันเป็นวันดีที่สุดในชีวิตของผม ทีมเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากตลอด 160 กิโลเมตร ขุนศึกทุกนายต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรี เพื่อส่งให้ฟาเบียนเป็นดาบสุดท้ายที่จะปลิดขั้วชัยชนะ และเมื่อข้อศอกของสปาร์ตาคัสแตะไปที่คันบังคับเมื่อใด นั่นเปรียบเสมือนลูกธนูที่พุ่งตัวออกจากคันศร ใครล่ะที่หาญกล้าพอที่จะคว้ามันทัน