Rapha Festive 500 | Day 1

ถ้าคุณสามารถเลือกของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองได้สักหนึ่งอย่าง คุณจะเลือกอะไรครับ?

เพื่อนๆ นักปั่นอาจจะทราบแล้วว่าช่วงวันที่ 24-31 ธันวาคม Rapha แบรนด์เสื้อผ้าจักรยาน และ Strava ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์สำหรับนักปั่นเขาตั้งโจทย์ท้าทาย ชวนให้ผู้ใช้ Strava รอบโลกออกมาปั่นจักรยานกันให้ได้ระยะทาง 500 กิโลเมตรในระยะเวลา 8 วัน Challenge นี้จัดมาแล้ว 2 ครั้ง และปีนี้จะเป็นปีที่ 3 แล้ว คนที่แชร์เรื่องราวการปั่นจนครบ 500 กิโลเมตรได้แจ่มที่สุด Rapha จะให้รางวัลเป็นทริปปั่นขึ้นเขาในยุโรป 100 ลูกภายในเวลา 10 วันฟรีๆ

ผมคิดว่าถึงจะไม่ได้รางวัลใหญ่ แต่ลองท้าทายตัวเองสักตั้งดูจะเป็นไรไป ลองปั่นให้ครบ 500 กิโลเมตรและลองเล่าเรื่องราวบันทึกการปั่นทั้ง 8 วัน ทุกๆ วันด้วยภาพและตัวหนังสือลงเว็บไซต์ Ducking Tiger นี่แหละ เฉลี่ยแล้วผมต้องปั่นวันละประมาณ 62.5 กิโลเมตร หรือราวๆ สองชั่วโมงต่อวัน สำหรับคนมีงานประจำนั้น จะแบ่งเวลา 2-3 ชั่วโมงทุกวันเพื่อออกปั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะมีธุระส่วนตัว ครอบครัวและอีกหลายๆ อย่างที่อยู่เหนือการควบคุม

แต่ถ้าไม่ลอง ก็คงไม่รู้

ด้วยเวลาที่จำกัดในแต่ละอาทิตย์ผมไม่มีโอกาสได้ออกปั่นสักเท่าไร ตกอาทิตย์ละ 3-4 วัน วันละราว 30-40 กิโลเมตรเท่านั้น การปั่นต่อกัน 8 วันก็ต้องเตรียมตัวนิดนึง แต่สิ่งที่คิดไว้ก็คือมันน่าจะเป็นฐานการฝึกที่ดี และน่าจะช่วยลดไขมันส่วนเกินด้วย (พยายามกำจัดมันมาหลายปีแล้ว~)

วันแรกผมตั้งใจจะทำให้ได้ 100 กิโลเมตร นัดกับโปรท้องถิ่นน้องกอล์ฟจากสโมสรราชนาวี Life and Living Bikenet ซึ่งฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดมหาสารคามมาหลายปี รู้เส้นทางเป็นอย่างดี ปรกติกอล์ฟจะซ้อมคนเดียวเกือบทุกวัน วันละหลายๆ ชั่วโมงอยู่แล้ว ระยะทางที่กอล์ฟซ้อมธรรมดาก็เกิน challenge อยู่แล้ว แต่สำหรับมือใหม่อย่างผมงานนี้ถือว่ายากทีเดียว!

ช่วงนี้ที่อีสานอุณหภูมิประมาณ 13-20 องศาในช่วงเช้า ซึ่งก็ไม่แย่จนเกินไป ปัญหาหลักๆ คือลมเสียมากกว่าเพราะฤดูหนาวในอีสานลมค่อนข้างแรงถึงแรงมาก

วันนี้เราออกจากตัวเมืองมหาสารคามออกไปทางบ้านบ่อใหญ่ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ปั่นยาวไปถึงอำเภอบรบือและไปจบที่กิ่งอำเภอกุดรัง เส้นทางราว 50 กิโลเมตร ไปกลับก็ครบ 100 กิโลพอดีๆ ขาไปนั้นไม่ยากอะไรเพราะเราได้ลมช่วยส่งตลอดทาง ช่วง 40 กิโลเมตรแรกเป็นทางตรง มีเนินซึมๆ บ้าง แต่พอถึงกุดรังเราจะเจอเนินสลับกันนับสิบลูก ความชันจะอยู่ที่ราวๆ 4-7% เราปั่นลักษณะ endurance ไม่ทำความเร็วมาก อาศัยอึดเพื่อไม่ให้ขาล้าเกินไปจะได้มีแรงปั่นในวันหลังด้วย

ขากลับก็เจอลมต้านแบบเฉียงๆ ตามคาด ความเร็วลมน่าจะเกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บวกกับเนินสลับหลายลูกผมก็ตามเพื่อนไม่ทันตามคาด เป็นแบบที่เราดูใน Tour de France นั่นหละครับ ลมข้างนั้นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักปั่น ไปตามจี้คนข้างหน้าหวังให้เขาบังลมก็ช่วยได้ไม่เยอะ เพราะแรงต้านลมมาจากทางด้านข้าง ต้องปั่นเยื้องๆ กันถึงจะช่วยได้ โคตรทรมานแต่ก็ทน แต่สุดท้ายก็พาตัวเองกลับมาบ้านได้ใสภาพที่ไม่สะบักสะบอมจนเกินไป

การปั่นจักรยานทางไกลแบบนี้ในมุมมองของคนรอบข้างที่ไม่ได้ปั่นกับเรา เขาอาจจะคิดว่าเราบ้า ทั้งอันตราย ทั้งไกล ทั้งตากแดดดำ เหนื่อยอีกต่างหาก มันดีตรงไหน?

สำหรับผมแล้วคำตอบคือ เราได้ชนะใจตัวเองครับ

แล้วเจอกันพรุ่งนี้ :)

In just a few more days, we will leave 2013 behind.
DuckingTiger.com has been covering all things cycling for one whole year. From the Tour down Under, through the Spring Classics, climbing over three Grand Tours and closing the season with World Championships. Along the way, we also explored the landscape of Thai Cycling scene. We got to know great people, many become friends.

It’s been a great journey, one that I could not have imagined, but if there is one thing I lack, it’s the act of riding bike itself. We are our own worst enemy when it comes to time management.

Rapha Festive 500 could not have come at a better moment. There is no better time to top up your base training.

Compared to our European cyclist friends, we Thais have it easy as the Winter is not usually as cold. The temperature hovers around 13-20 degree Celsius in the North Eastern part, where we reside. Plus, we don’t celebrate Christmas so that leaves a bit of commitment off our back :).

I decided to ask for help from a local pro friend, whose weekly distance tends too exceed 700 kilometres! At least, now he has a training partner in his daily 4 hours of solitude, or more accurately, a dead weight to tow around for 8 days.

The geography of North Eastern Thailand is quite simple. It’s a plateau with short rolling hills all over the place. In Winter, this means strong crosswind. We have a tailwind behind on our way out of town, and we have to deal with it during our way back. Combine this chilly morning crosswind with hills was quite a challenge. In the end, We covered 100k on our first outing. Good start.

Our non-cyclist friends often wonder why we ride? It’s cold, it’s windy, it’s dangerous. Cycling, in a way is self-inflicting pain.

But that’s exactly why.

[/vc_column_text] [/vc_column] [/vc_row]