รีวิว 2019 Milan-Sanremo: Quickstep แพ้ไม่เป็น

ไม่บ่อยที่การคาดเดาผู้ชนะจะเป็นไปตามที่เราคิด แต่ใน Milan Sanremo 2019 สนามคลาสสิคระดับ Monument รายการแรกของปีจบตามที่ทุกคนคาดไว้ จูเลียน อลาฟิลลิป (Deceuninck-Quickstep) เป็นแชมป์ราย สปรินต์ชนะโอลิเวอร์ เนเซ็น (AG2R) และมิฮาล เควียทคอฟสกี้ (Team Sky) เก็บชัยชนะลำดับที่ 18 ให้กับทีม

 

เกิดอะไรขึ้นใน Milan-Sanremo 2019

Milan-Sanremo อาจจะเป็นรายการที่เส้นทางยาวที่สุดในปีการแข่งขัน แต่ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ผู้เข้าแข่งขันเก็บแรงไว้ลุยกันตอนสุดท้าย ที่เนิน Cipressa ที่อยู่ห่างเส้นชัยไป 20 กิโลเมตร เราไม่เห็นทีมไหนออกโจมตี ไม่มีการเร่งเพซ​เพื่อสลัดคู่แข่ง สปรินเตอร์บางคนที่คาดว่าฟอร์มดี อย่างดีแลน โกรนเวเก็น (Jumbo-Visma) และเนเซอร์ บูฮานี (Cofidis) หลุดลงไปอยู่ท้ายกลุ่มและเกือบจะโดนกลุ่มทิ้งอยู่หลายครั้ง ชัดว่าถ้ามีเบรกอเวย์เร่งก็ไม่น่ารอด

ถึงยอดเนิน Cipressa นิคโคโล โบนิฟาซิโอ (Direct Energie) พยายามเบรกอเวย์ออกไปในจังหวะลงเขา (ดูวิดีโอข้างบน) เป็น move ที่เหมือนจะอันตราย แต่เอาจริงๆ ก็ไม่มีผลอะไรกับเกม เพราะเขาต้องโซโล่คนเดียวอีกกว่าสิบกิโลเมตรเพื่อไปถึงเนินสุดท้าย ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงจะทำเวลาห่างได้ 20 วินาที แต่ก็ถูกรวบจับก่อนถึงเนิน Poggio – เนินชันอุปสรรคสุดท้ายของสนาม Sanremo

เนินนี้จะเป็นตัวบอกว่าเกมจะจบแบบไหน ถ้าเบรกอเวย์หนีไปได้ สปรินเตอร์ก็จะหมดโอกาสชนะ แทนที่จะรอดูจังหวะทีมอื่น Quickstep ส่งชเน็ค สตีบาร์และฟิลลิป จิลแบร์ขึ้นเร่งความเร็วกลุ่ม จนสปรินเตอร์หลายๆ คนรวมถึงเอเลีย วิวิอานี เอซของทีมเริ่มหล่นลงไปท้ายเปโลตอง

ใกล้ถึงยอดเนิน อัลเบอร์โต้ เบตติออล (EF Education First) กระชากหนีหัวลากทีม Quickstep แต่ทิ้งไปได้ไม่นาน อลาฟิลลิปก็เร่งขึ้นไล่และแซงหนีออกไป ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) และมิฮาล เควียทคอฟสกี้ (Sky) ออกไล่อลาฟิลลิป จนดูแทบจะเหมือนเกมในปี 2017 ที่ทั้งสามคนหนีออกไปด้วยกัน

© BORA – hansgrohe / Bettiniphoto

แต่ไม่มีใครหนีรอด ด้านหลัง ทอม ดูโมลาน (Sunweb) และอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) ขึ้นตามสามตัวเต็งอย่างใกล้ชิด จังหวะลงจากเนิน Poggio มีตัวเต็งหลุดมาด้วยกันทั้งหมด 11 คน ซึ่งมีทั้งเวาท์ แวน อาร์ท (Jumbo-Visma), แมเทโอ เทรนติน (Mitchelton-Scott), วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) ความเร็วขึ้นเนินวันนี้สูงเกินที่สปรินเตอร์ตัวเต็งจะไล่ทัน เกมวันนี้จะไม่จบด้วยการสปรินต์

ถึงตีนเนิน กลุ่มเบรกยังดูมีความลังเลไม่ช่วยงานกันเท่าไร แต่ก็ชัดเจนว่าถึงเส้นชัยก่อนเปโลตองแน่นอน แมทเทโอ เทรนตินเปิดเกมกระชากหนีเป็นคนแรกที่สองกิโลเมตรสุดท้าย

แต่เป็นแวน อาร์ทที่ช่วยลากกลุ่มเบรกมาจนทันเทรนติน การโจมตีของเทรนตินเป็น attack ครั้งสุดท้ายของวันเพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงเบรกอเวย์ก่อนถึงเส้นชัยไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร ลองดูกิโลวิดีโอเมตรสุดท้ายข้างล่างนี้

เป็นเกมสปรินต์ที่แปลกนิดนึง แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ของ Milan Sanremo ครับ เพราะไม่มีทีมไหนที่มีผู้ช่วยลีดเอาท์ ต่างคนต่างต้องรอจังหวะสปรินต์ คนที่ออกตัวคนแรกมักเสียเปรียบ ซากานนำทุกคนเข้า 500 เมตรสุดท้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ดีเท่าไร

มาเทจ์ โมโฮริค (Bahrain-Merida) เสี่ยงออกตัวเป็นคนแรก แซงสวนซากานขึ้นไป อลาฟิลลิปไล่ประกบ โอลิเวอร์ เนเซ็น (AG2R) ตามล้ออลาฟิลลิป  เควียทคอฟสกี้เร่งตามขึ้นมา แต่ไม่มีใครเร่งแซงอลาฟิลลิปได้ในที่สุด

© Tim De Waele / Getty Images

ซากานเองเสียตำแหน่งตอนเริ่มสปรินต์ เขาต้องอ้อมแซงวาวเวอเด้ออกมาทางขวา ซึ่งก็ทำให้เสียโมเมนตั้มไปเยอะ ต้องจบรายการด้วยอันดับสี่

 

Race Note

  • เป็นอีกปีที่สปรินเตอร์เสียท่าให้ Puncher ครับ ปีนี้เป็นเบตติออลและอลาฟิลลิปที่เดินเกมค่อนข้างหนักบน Poggio หนักพอที่จะทิ้งห่างสปรินเตอร์ได้หลายสิบวินาที จุดประสงค์ของการโจมตีอาจจะไม่ใช่เพราะหวังว่าจะหนีรอดไปคนเดียว แต่อาจจะเป็นการคัดตัวเช็คฟอร์มคู่แข่ง ซึ่งก็ได้ผล เพราะลากเอาตัวเต็งมาด้วยกันเกือบสิบคน เป็นกลุ่มที่มากพอจะทำงานด้วยกันเพื่อหนีเปโลตองจนถึงเส้นชัย
  • เกมเดินตามสคริปต์เป๊ะๆ Quickstep เร่งบนเนิน เปิดแท่นยิงให้อลาฟิลลิป หนีรอด และปิดเกมได้ มีเทรนตินที่พยายามพังแผน QS ด้วยการเร่งหนีที่สองกิโลเมตรสุดท้าย (ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะเทรนตินน่าจะสปรินต์ดีกว่าอลาฟิลลิป แต่นั่นหละครับ ถ้าเราต้องไปแข่งเอง เราจะเดิมพันอะไรดี ระหว่างกะหนีให้รอดคนเดียว กับเสี่ยงชนะแค่ 1 ใน 10 เวลาต้องสปรินต์หน้าเส้น)
  • ถึงอลาฟิลลิปจะปิดเกมได้ แต่เอาจริงๆ แล้วเราเดาไม่ออกจน 100 เมตรสุดท้ายว่าใครจะชนะ เพราะอลาฟิลลิป เองก็ไม่ได้มีผู้ช่วย เขาอาจจะมีภาษีดีหน่อยที่ปีนี้ฟอร์มดีกว่าคนอื่นๆ และสปรินต์ได้ดีพอสมควร
  • ชัยชนะครั้งนี้ทำให้อลาฟิลลิปเป็นนักปั่นที่มียอดชัยชนะเยอะที่สุดในเปโลตองฤดูกาลนี้ ที่ 7 ชัยชนะ เขามีชัยชนะในทุกสนามที่ลงแข่งตั้งแต่เริ่มฤดูกาล
  • Milan Sanremo เป็นผลงานที่ใหญ่ที่สุดของอลาฟิลลิป ตอนนี้เขาเก็บแชมป์สนามคลาสสิค (เท่าที่เขามีโอกาสชนะได้เกือบจะครบแล้ว) ไม่ว่าจะเป็น Sanrem, Classica San Sebastian, Fleche Wallonne, Strade Bianche ยังเหลืออีกแค่รายการเดียว นั่นคือ Liege-Bastogne-Liege ซึ่งถือว่าเป็น crown jewel สำหรับนักปั่นสไตล์ Puncheur อย่างเขา ดูฟอร์มแบบนี้แล้วปีนี้ก็น่าจะมีโอกาสชนะสูงครับ
  • เควียทคอฟสกี้ทำได้ดีมาก ถึงจะไม่ชนะเป็นสมัยที่สอง เรารู้ว่าเขาฟอร์มดีจากที่ได้ที่สามใน Paris-Nice แต่ไม่คิดเหมือนกันว่าจะดีขนาดขึ้นโพเดี้ยมได้ ทั้งๆ ที่ Sky เองก็ไม่ได้มีบทบาทมากนัก แต่เขาอ่านและตามเกมได้ดีจนนาทีสุดท้าย
  • เนเซ็นก็เล่นได้เกินบทเช่นกัน คิดว่าเป็นอีกคนที่น่าจับตามองในสนามคลาสสิคปีนี้

ผลการแข่งขัน

วิดีโอไฮไลท์

 

สัมภาษณ์หลังแข่ง

จูเลียน อลาฟิลลิป 

“ผมไม่รู้จะรู้สึกยังไงตอนนี้ กับสิ่งที่เราทำได้ มันมีแรงกดดันตั้งแต่ก่อนลงแข่งครับ แต่ผมรู้ว่าถ้าทีมเราทำเกมดีมันมีโอกาสชนะอยู่ แล้วเราก็เดินเกมได้สมบูรณ์แบบจริงๆ ทิม (เดอ เคลิร์ก) ช่วยคุมเบรกอเวย์ให้เราทั้งวัน บน Poggio สตีบาร์กับจิลแบร์เร่งเกมหนักๆ ให้ผม ผมรอให้ใกล้ถึงยอดเนินที่สุดก่อนจะโจมตี  จังหวะลงเขาผมออมแรง ผมอยากชนะ ผมรู้ว่าเทรนตินเป็นตัวอันตราย ตอนเขาหนีผมเลยรีบตาม ใกล้ถึงเส้นชัยพอโมโฮริคออกสปรินต์ผมตัดสินใจว่า ต้องสปรินต์แล้วตอนนี้แหละ ไม่งั้นก็แพ้แน่นอน ไม่อยากจะเชื่อครับ ที่เราชนะ”

“ถึงผมจะชนะ แต่คุณต้องไม่ลืมคุณภาพนักปั่นทีมเรานะครับ ที่ทุกคนช่วยผม สตีบาร์ เขาเป็นแชมป์ Omloop ปีนี้ เขาเคยชนะ Strade Bianche…จิลแบร์ชนะรายการคลาสสิคมานับไม่ถ้วน เขายอมเสียโอกาสเพื่อช่วยผม การที่พวกเขามั่นใจในตัวผม ทำให้ผมมั่นใจในความสามารถตัวเอง”​

 

ปีเตอร์ ซากาน

“วันนี้ก็เฉียดอีกแล้วครับ แต่ไม่ใช่ที่หนึ่ง”

“ผมรู้สึกโอเคนะ ฟอร์มค่อนข้างดี ดีกว่าที่คิด”

“Quickstep เล่นดีจริงๆ แล้วอลาฟิลลิปก็แข็งแกร่งมาก เราประกบเขาตลอด บน Poggio ผมกับวาวเวอเด้ กับเควียทคอฟสกี้ช่วยกันเบรกเกม Quickstep แต่พวกเขาคุมเราได้หมด”​

“ผมเสียตำแหน่งนิดหน่อยตอนสปรินต์ แล้วมันเป็นการสปรินต์จากความเร็วที่ต่ำมาก ผมต้องแซงวาวเวอเด้ แต่อลาฟิลลิปกับเนเซ็นอยู่อีกฝั่งนึงของถนน มันเร็วไม่พอครับ อลาฟิลลิปนำไปสองช่วงรถแล้ว ยากเกินที่จะตามทัน”

 

มิฮาล เควียทคอฟสกี้ 

“เวลาชัยชนะอยู่ตรงหน้าแต่คุณคว้ามันมาไม่ได้ คุณอาจจะคิดถามตัวเองว่า เราทำอะไรพลาดไป เราทำอะไรให้ดีกว่านี้อีกได้มั้ย สิ่งที่คุณไม่เห็นจากทีวีคือแทบไม่มีใครเหลือแรงจะทำอะไรแล้วตั้งแต่ช่วงตีนเนิน Poggio”

“แล้วถ้าคุณเห็นอลาฟิลลิปปั่นได้ดีขนาดนั้น มันก็ทำให้ผมพอใจแล้วว่าได้อันดับโพเดี้ยมนี่ก็ดีมากๆ แล้วสำหรับปีนี้ เขาแข็.แกร่งจริงๆ เขายิงบนเนินได้ แล้วยังเหลือแรงสปรินต์ ผมยินดีกับชัยชนะของเขาครับ”

“ผมพยายามตามขบวน Quickstep บนเนิน ตอนอลาฟิลลิปยิง ผมว่าผมตัดสินใจพลาดที่ไม่ตามทันที ผมรอให้ทอม ดูโมลานปิดให้ ยังดีที่ซากานขึ้นมาช่วย…พอลงเนินมาแล้วผมว่าไม่มีใครคิดจะหนีนะ ทุกคนอยากรอสปรินต์ ผมคิดถึงแต่ว่าทำยังไงถึงจะชนะ แต่จูเลียนเร็วจริงๆ ผมก็ต้องยอมรับ”

 

เอเลีย วิวิอานี

“เรารู้ว่ากลุ่มผู้ชนะจะมาจากบนเนิน Poggio จากแถวหน้ากลุ่ม เพราะคนที่อยู่หน้ากลุ่มได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องเร่งมากเวลาพ้นโค้งครับ พวกเขาคือคนที่จะเซฟแรงได้มากที่สุด และมันคือความผิดพลาดของผมที่ไม่ขึ้นไปอยู่แถวหน้า”

“ทุกคนจับตามองทีมเราวันนี้ ผมว่าจูเลียนน่าจะได้ความมั่นใจจากสเตจที่เขาสปรินต์ชนะใน Tirreno นะ มันดูดีมากๆ เลยที่เส้นชัย”

“ตอนที่ทีมตัดสินใจว่าจะให้อลาฟิลลิปยิงบนเนิน ผมบอกว่า ไปเลย ไม่ต้องรอ มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องครับ เขาออมแรงไว้ได้ทั้งวัน เขาปั่นฉลาด เขาเหลือแรงสปรินต์เยอะที่สุดในบรรดา Top 10”

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *