วันนี้สำนักข่าว Bikeradar รายงานว่าสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) กำลังพิจารณาอนุญาติให้ใช้ดิสก์เบรคได้ในการแข่งขันเสือหมอบ แต่ต้องรอวิเคราะห์ผลการทดสอบและข้อมูลจากทางผู้ผลิตให้มากกว่านี้เสียก่อน
ดิสก์เบรคกับเสือหมอบกำลังเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ SRAM เปิดตัวชุดขับ 11 สปีด SRAM Red 22 ที่มาพร้อมกับริมเบรคไฮดรอลิค และดิสก์เบรค Shimano และ Campagnolo เองก็แอบซุ่มพัฒนาดิสก์เบรคสำหรับเสือหมอบเช่นกันมีรูปหลุดออกมาให้เห็นกันบ่อยๆ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
Bikeradar สอบถาม Matthieu Mottet ซึ่งเป็นฝ่ายเทคนิคของ UCI เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเอาดิสก์เบรคมาใช้ในการแข่งจักรยานทางเรียบ – อุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ในการแข่งจักรยานทางเรียบไม่ว่าจะเป็นเฟรม บันได ชุดขับ ล้อ ต้องได้รับการอนุมัติจาก UCI ครับ ไม่งั้นใช้แข่งในรายการของ UCI ไม่ได้ ทางตัว UCI เองมีข้อกำหนดค่อนข้างจะจู้จี้จุกจิกพอสมควร มีข้อกำหนดในเรื่องเล็กๆ อย่างองศารถ เบาะ ไปจนถึงดีไซน์หลักของเฟรมจักรยาน แต่นั่นก็เพื่อช่วยลดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างและสร้างความปลอดภัยให้นักแข่ง ไม่ใช่ว่าอยากทดลองใช้อะไรก็ใช้ได้ครับ ในกรณีดิสก์เบรคก็เช่นกัน UCI ต้องขอวิเคราะห์ผลดีผลเสียของระบบดิสก์เบรค อุณหภูมิ ประสิทธิภาพ และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
“We’re thinking about disc brakes for future use, but for the moment we don’t have enough data about them,” he said, adding that the first stage would be analyses of the manufacturers’ performance figures. He said, however, that none of the road disc manufacturers had provided data yet.”
ข้อแรกที่ UCI กังวลคือประสิทธิภาพในการเบรค แน่นอนว่าดิสก์เบรคหยุดรถได้ดีกว่าริมเบรค (เบรคขอบล้อธรรมดาที่เราใช้กัน) แต่ถ้าคนที่ใช้ดิสก์และริมเบรคปั่นด้วยกันในกลุ่มใหญ่ๆ อย่าง peloton ร่วมร้อยคน อัตราการลดความเร็วย่อมไม่อาจทำให้เกี่ยวกันล้มในกลุ่มได้ง่ายๆ
อันตรายข้อสองคือความร้อนบนใบจานจากดิสก์เบรค โดยเฉพาะเวลาที่นักปั่นลงเขาหรือใช้เบรคบ่อยครั้ง ความร้อนสะสมในใบจานย่อมสูงมาก ถ้าเกิดล้มชนกันในกลุ่มแล้วไปโดนใบจานเข้า นอกจากจะเกิดแผลไหม้พุพองแล้วอาจจะทำให้เกิดแผลเหวอะหวะคล้ายโดนของมีคมตัด แค่คิดก็น่ากลัว…
แน่นอนว่าถ้า UCI อนุญาติให้ใช้ดิสก์ในการแข่งขันได้ ผู้ผลิตชุดขับและเบรคเสือหมอบอย่าง SRAM, Campagnolo, Shimano คงเปิดตัวดิสก์เบรคพร้อมๆ กันและพยายามผลักดันให้ดิสก์เบรคเข้าสู่ตลาดเสือหมอบ เหมือนที่เกิดขึ้นกับวงการเสือภูเขา สิ่งที่ดิสก์เบรคช่วยอาจจะไม่ใช่ “พลัง” ในการหยุดเพราะเบรคเสือหมอบธรรมดานั้นก็มีแรงหยุดมหาศาลอยู่แล้้วแทบจะทุกสถานการณ์ แต่เป็น “modulation” หรือการเลียเบรคเพื่อลดความเร็วบางส่วนอย่างรวดเร็ว ซึ่งดิสก์จะทำได้ดีกว่าเบรคขอบล้อธรรมดา ในระหว่างที่รอ UCI พิจารณาดิสก์เบรค ผู้ผลิตชุดขับก็อาจจะพยายามผลักดันไฮดรอลิคริมเบรคก่อน คล้ายๆ กับสินค้าชุดใหม่ของ SRAM ครับ ไฮดรอลิคริมเบรคหยุดรถได้ดีกว่าเบรค mechanical ธรรมดาอยู่แล้ว และก็ไม่ผิดกฏ UCI ด้วย
ความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าดิสก์เบรคไม่ค่อยจะจำเป็นกับคนใช้เสือหมอบโดยส่วนใหญ่ที่ปั่นบนทางเรียบ ยกเว้นคนที่ต้องขึ้นลงเขาชันๆ บ่อยๆ หรืออยู่ในพื้นที่ๆ ฝนตกหนัก หรือต้องปั่นเร่งๆ หยุดๆ ในเมือง (สำหรับคนที่ปั่นจักรยานไปทำงาน) ซึ่งดิสก์เบรคก็ช่วยให้หยุดรถได้มั่นใจและปลอดภัยกว่าริมเบรค พร้อมๆ กับแก้ปัญหาขอบล้อคาร์บอนละลายเวลาลงเขาแล้วกดเลียเบรคยาวๆ…แน่นอนว่าผู้ผลิตคงพยายามผลักดันให้มันผ่านเกณฑ์ UCI จะได้ขายสินค้าใหม่ โฆษณาว่ามันจำเป็นและดีกว่าริมเบรคนะ และสินค้าที่โปรเขาใช้แข่งก็เป็นการตลาดชั้นยอด ดีน่ะมันก็ดีอยู่ โดยเฉพาะในเสือภูเขาและไซโคลครอส ดิสก์เบรคถือว่าพลิกวงการกันเลย แต่กับเสือหมอบผมว่ามันอาจจะเกินความจำเป็นไปนิดนึง (แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธนะ) อย่างไรก็ดีการที่เรามีอุปกรณ์ให้เลือกใช้มากขึ้นย่อมเป็นเรื่องดีครับ ยังมีเรื่องให้ถกเถียงกันอีกมากมายสำหรับเรื่องดิสก์เบรคบนจักรยานเสือหมอบ ก็ต้องรอดูกันว่าอนาคตจะออกมายังไง
ผมว่ามันยังไม่จำเป็นเท่าไรครับ
ผมชอบนะ แต่ไม่อยากให้นักปั่นหลายคนโดนใบดิสปาดคอตายหงษ์ ตายห่าน กันตอน sprint หน้าเส้นไม่ก็บาดขาตัดเส้นเลือดใหญ่กลางเปโลตอน เสียวว
อันนี้น่ากลัว
ปั่นเสือหมอบ ไม่ค่อยได้เบรคกันอยู่แล้ว ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นะครับ ยกเว้นตอนมีอุบัติเหตุด้าน ใช้เบรคแบบริมเบรคก็ยังเบรคทัน ถ้ามันเกิดแบบกระชั้นชิด เบรคแบบไหนก็เอาไม่อยู่ครับ
ปั่นเสือหมอบ ไม่ค่อยได้เบรคกันอยู่แล้ว ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นะครับ
ยกเว้นตอนมีอุบัติเหตุด้านหน้า ใช้เบรคแบบริมเบรคก็ยังเบรคทัน
ถ้ามันเกิดแบบกระชั้นชิด เบรคแบบไหนก็เอาไม่อยู่ครับ
ผมปั่น Hybrid ลงเขายาวๆ เลียดิสเบรคตลอดเป็นระยะ บังเอิญยางหลังรั่ว จอดรถ ลงรถ ใช้ขาคร่อมเพื่อถอดล้อ น่องนาบดิสเบรคร้อนๆ พอดี พองทันทีครับ ปัจจุบันเห็นแผลเป็น สีขาวตัดกับผิวคล้ำแดดเหมือนประทับตราเป็นสัญลักษณ์รูปจานเบรคครึ่งเสี้ยวมาจนทุกวันนี้
เสียวๆๆๆๆ ล้มเเล้ว กลัวโดน.