ต้องบอกว่าวิดีโอชุด Road Bike Party ของมาร์ติน แอชตั้นเป็นอะไรที่โดนใจทีม DT สุดๆ ครับ หลังจากที่ปล่อยวิดีโอการปั่นเสือหมอบผาดโผนจนประสบความสำเร็จกว่ายอดวิวกว่า 24 ล้านครั้ง มาแล้ว คราวนี้ทีมนักปั่นผาดโผนกลับมาอีกครั้งกับ Road Bike Party 3
อย่างที่รู้กันว่ามาร์ติน นั้นแสดงผาดโผนเองไม่ได้แล้วเพราะประสบอุบัติเหตจนหลังหักเป็นอัมพาต แต่เขาก็มีเพื่อนนักปั่นผาดโผนอีกหลายคนมาช่วยแสดง (ตอนนี้มาร์ตินเป็นโปรดิวเซอร์หลักคู่กับ GCN) คราวนี้ได้แซม พิลกริม (Sam Pilgrim) นักปั่นเสือภูเขาอาชีพ และแชมป์โลก Free Ride ปี 2013 มาเป็นนักแสดงนำ
สถานที่ถ่ายทำคราวนี้ก็ย้ายจากอังกฤษไปเมืองซานดิเอโก้ในสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาถ่ายทำถึง 10 วัน เปลี่ยนธีมมาเป็นการปั่นสไตล์ Dirt Jump ด้วยเสือหมอบ เพื่อทดสอบดูว่าจักรยานถนนมันจะรองรับความโหดของ การกระโดดท้าแรงดึงดูได้ขนาดไหน
“Cali was great, but the main change is moving away from the trials riding of the first two. That’s down to one reason,” says Ashton. “Dirt jumping is more extreme. We wanted to see just how much punishment the Ridley Noah could take… turns out it was a lot!”
Behind the Gears
ครั้งที่แล้วใน Road Bike Party 2 ทีมงานได้ Colnago เป็นสปอนเซอร์จักรยาน คราวนี้เป็นทีของ Ridley บ้างครับ ซึ่งจัด Ridley Noah ทำสีพิเศษให้ทีมงาน FSA เป็นผู้สนับสนุนขาจาน แฮนด์ สเต็ม และหลักอานคาร์บอน K-Force Light และได้ล้อจาก Vision เป็นรุ่น Metron 40 / 81 แบบยางงัด ชุดเกียร์ Shimano Dura-Ace 9000 ยาง Continental GP4000s ปิดท้ายด้วยเบาะ Prologo Nago Evo
สรุปรวมการถ่ายทำทั้งวิดีโอ 10 วัน จักรยานตกจากการกระโดดสองเมตรลงพื้นคอนกรีต กระโดด Backflip 4.5 เมตร และล้มอีกนับครั้งไม่ถ้วน สิ่งที่เสียหายมีแค่ยางที่รั่วไปสองครั้งเท่านั้น ใครว่าเสือหมอบไม่ทนสงสัยต้องคิดใหม่ละครับ
ต้องนับถือมาร์ตินที่ยังออกมากำกับสร้างสรรค์วิดีโอสร้างแรงบันดาลใจให้นักปั่นถึงแม้เขาจะเดินไม่ได้ก็ตาม ใครจะรู้ว่าใน Road Bike Party 2 ที่เขาประสบอุบัติเหตก่อนจะถ่ายทำเสร็จ เขาก็ไม่ถอดใจ ช่วยโปรดิวเซอร์กำกับและตัดต่อวิดีโอจนเสร็จ เป้าหมายของมาร์ตินเขาบอกไว้แค่ว่า “ถ้าดูวิดีโอ Road Bike Party จบแล้ว เราทำให้คนออกไปขี่จักรยานได้แค่หนึ่งคน เราก็ทำสำเร็จแล้ว”
ใครพลาดยังไม่ได้ดู Road Bike Party 1 และ 2 ดูได้ที่ลิงก์นี้ และ ลิงก์นี้ ครับ