ฟังความเห็นวงในที่อ้างว่าโปรแอบใช้มอเตอร์ในการแข่งตั้งแต่ปี 2010 กันไปแล้ว ก็มาดูอีกฝั่งนึงบ้างที่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้แอบใช้มอเตอร์ครับ
ความเห็นนี้เป็นของโรเมน เฟลลิว์ นักปั่นชาวฝรั่งเศสที่เคยอยู่กับทีม Vacansoleil (ปัจจุบันอยู่กับทีม BTP-Auber93) ที่ให้สัมภาษณ์กับเว็บ Cyclingpro.net ซึ่งเขาบอกว่าเป็นไปได้ยากมากที่โปรจะแอบใช้มอเตอร์โดยเฉพาะในสนามระดับโปรทัวร์เพราะมันต้องอาศัยความร่วมมือของคนจำนวนมาก
“ในแต่ละทีมจะมีช่างประจำทีม 3 คนเป็นอย่างน้อย ล้อทุกคู่ เฟรมทุกเฟรมต้องเช็คและล้างทุกวัน ผมเชื่อว่าการโกงด้วยมอเตอร์ติดจักรยานเป็นไปไม่ได้เลย ถ้ามีใครจะโกง ช่างทีมทุกคนต้องรู้เรื่อง และต้องมีการพูดคุยกันในทีม และเรื่องต้องหลุดมานานแล้ว”
แน่นอนว่าการปิดบังระดับทีมขนาดใหญ่ไม่ใช่ไม่เคยมี อย่างสมัยแลนซ์ อาร์มสตรองที่โด้ปกันเป็นทีมก็ช่วยกันปิดบังได้สำเร็จเป็นเวลาหลายปี แต่ฟิลลิว์เชื่อว่าการคอรัปชันระดับทีมในสมัยนี้แทบเป็นไปไม่ได้
“สื่อสมัยนี้มีพลังมาก แค่โพสต์ในทวิตเตอร์ครั้งเดียวก็เป็นประเด็นทั่วโลกได้แล้ว สมัยก่อนเราไม่มีสื่อแบบนี้ ความลับเก็บไม่ยากครับ”
“กล้องจับความร้อนที่ช่องทีวี French TV แสดงให้ดูมันเป็นตัวอย่างภาพความร้อนที่โดดเด่นขึ้นมาบริเวณห้องกระโหลก ความเห็นของผมคือเป็นไปได้ว่ากระโหลกมันไม่ได้ใส่จารบีมานานและมีแรงเสียดทานเยอะจนเกิดเป็นความร้อนจาก friction ธรรมดาๆ บริเวณดุมก็เช่นกัน เป็นจุดที่มีการเสียดสีระหว่างกลไกภายในเยอะอยู่แล้ว เช่นเดียวกันถ้าคุณใช้กล้องความร้อนจับที่ล้อเวลาลงเขาก็น่าจะเห็นขอบเบรคมีความร้อนสูง ไม่ใช่เพราะมีมอเตอร์ซ่อนอยู่ในขอบล้อ”
ที่ผ่านมามีเคสที่นักปั่นโดนจับว่าติดมอเตอร์แค่ครั้งเดียวคือในกรณีของ Femke Van den Drissche นักปั่นชาวเบลเยียมแชมป์โลก Cyclocross หญิงระดับเยาวชน และเธอไม่สู้คดี เลือกที่จะอำลาวงการไปอย่างเงียบๆ