ผมเคยแพลนไว้ว่าจะเล่าประวัติของซามูเอล แซนเชส (BMC Racing) หลังเขารีไทร์สิ้นฤดูกาลนี้ เพราะเป็นนักปั่นคนแรกๆ ที่ผมรู้จักและชื่นชอบสไตล์การแข่งของเขาระดับหนึ่ง แต่คงไม่ได้เขียนในเชิงที่ดีเท่าไรแล้ว เพราะวันนี้ UCI ประกาศว่าตรวจเจอสารต้องห้ามในกระแสเลือดของซานเชสในการสุ่มตรวจนอกการแข่งขันเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง
สารที่เจอคือ GHRP-2 หรือสารกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) เป็นสารตัวเดียวกับที่เจอในสองคู่แสบจาก Bardiani – สเตฟาโน พิรัซซี่และนิโคล่า รุฟโฟนี่ ที่โดนจับก่อน Giro d’Italia ปีนี้ และคู่นั้นถึงจะขอผลตรวจ B Sample รอบสองผลก็ออกมาเหมือนเดิมว่าเจอสารนี้จริง ไม่ได้ตรวจผิดแต่อย่างใด
แน่นอนว่า BMC สั่งพักการแข่งซานเชซทันที หลังจากที่มีรายชื่ออยู่ในชุดทีมของ BMC ที่จะลง Vuelta a Espana ปีนี้ และทีมจะรอจนกว่าจะรู้ผล B Sample ถึงจะจัดการกับซานเชซ
ซานเชซเป็นนักปั่นคนที่หกแล้วที่ถูกตรวจพบสาร GHRP-2 ในรอบสองปีนี้ ทุกเคสที่เคยตรวจเจอก็เป็นการโด้ปจริง ผิดจริง โดนไล่ออกจากทีมตกงานกันทุกคน
เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะซานเชซเองเป็นนักปั่นรุ่นเก๋าที่ผ่านการแข่งขันมาหลายยุค เริ่มเทิร์นโปรตั้งแต่ปี 2000 พูดง่ายๆ คือแข่งในฐานะมืออาชีพมา 17 ปีเต็ม เป็นแชมป์สเตจในแกรนด์ทัวร์ทั้ง TDf และ Vuelta (คว้าไป 5 สเตจ!!) และผลงานที่ดีที่สุดคือการเป็นแชมป์โอลิมปิกจักรยานถนนในปี 2008 และได้อันดับสองใน Tour de France ปี 2010
ซานเชสรับหน้าที่หลากหลายและเป็นคนที่แข่งได้สนุกเร้าใจมากคนหนึ่งครับ เขามีทักษะการลงเขาระดับตัวพ่อ ในแบบที่เราชื่นชมปีเตอร์ ซากานในยุคนี้ พื้นเพเขาเป็นนักปั่นจากแคว้นบาสก์ในสเปน เขามีสไตล์การแข่งแบบชาวบาสก์ นั่นคือเป็นนักไต่เขาที่โจมตีต่อเนื่อง และไม่รอให้คู่แข่งลงมือก่อน พอเริ่มอายุมาก เขาผันตัวมาเป็นผู้ช่วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยให้สมาชิกทีม BMC หลายคนได้คว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง
แต่การโด้ป (ที่ถูกจับได้) เพียงครั้งเดียวมันก็ทำให้ประวัติอันงดงามน่าชื่นชมนั้นพังครืนลงมาหมด นักปั่นอาจจะพูดว่า “ผมโด้ปแค่ช่วงปี xxx ก่อนหน้านี้ไม่มี๊ ไม่มีหรอก ไม่เคยแตะสารต้องห้าม”….ถามจริงว่าเชื่อได้แค่ไหน? จะรู้ได้ไงว่าผลงานแชมป์โอลิมปิกไม่ใช่เพราะอัดยา? กลายเป็นว่าเราไม่สามารถเชื่อใจหรือสนิทใจกับผลงานในอดีตของเขาได้อีกต่อไป
เราเห็นนักปั่นที่อยู่ในช่วง “ขาลง” เริ่มหาทีมไม่ได้ เริ่มไม่มีเรี่ยวแรงจะทำเกม ไม่มีใครต่อสัญญาให้ ขวนขวายที่จะสร้างผลงาน อย่างน้อยติด top 10 หรือเป็นผู้ช่วยที่ทำให้เอซทีมได้แชมป์ ซึ่งทางออกเดียวที่พวกเขาพอจะรู้ก็คงไม่พ้นการโด้ป เพราะอย่างซานเชซที่แข่งมาตลอดในช่วงที่โด้ปเดือดช่วงต้นปี 2000s เขาก็คงรู้นอกรู้ในอยู่แล้วว่าเพื่อนๆ เอาตัวรอดกันยังไง
ซึ่งวิธีการเอาตัวรอดเหล่านั้นมันไม่เวิร์กในสมัยนี้… growth hormone เป็นหนึ่งในสารที่ตรวจเจอง่ายที่สุดครับ
ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเราคงจะไม่ต้องมาเล่าเรื่องของฟรูมหรือซากาน หรือคาเวนดิชในแบบเดียวกันนี้
บางทีผมก็ไม่รู้ว่าที่เราดูการแข่งขันทุกวันนี้จะมองมันเป็นแรงบันดาลใจได้มั้ย หรือมั่นใจได้แค่ไหน หลังๆ มาพบว่าการไม่ใส่ใจมันมากนัก มองเป็นเรื่องบันเทิง บางทีก็ดูสนุกกว่า ซึ่งมันฟังดูแย่ชิบเป๋งที่ต้องคิดแบบนี้
ต้นข่าว: Cyclingnews.com
