*โพสต์นี้เป็นโฆษณาแนะนำสินค้าใหม่จาก Hah Hong ผู้นำเข้าเบาะ Selle Italia และไม่ใช่รีวิวตัดสินสินค้าครับ
Selle Italia เป็นผู้ผลิตเบาะจักรยานรายแรกๆ ของโลก คำว่า Selle Italia นี่แปลได้ตรงไปตรงมามากครับ แปลง่ายๆ ว่า “เบาะอิตาลี”
แบรนด์นี้อยู่มา 120 ปีแล้ว ก่อตั้งในปี 1897 เป็นผู้ผลิตเบาะสำหรับจักรยานทุกรูปแบบ แต่มาทำเบาะจักรยานแข่งขันอย่างจริงจัง ในช่วงปี 1970s ที่เริ่มหาเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาสินค้า Selle Italia ถึงกับเคยอ้างว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เบาะ Selle Italia เป็นเบาะที่นักปั่นอาชีพต้องการมากที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
ถึงตอนนี้ Selle Italia จะมีคู่แข่งมากมายแต่ก็ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาตลอด มีเบาะหลายรูปแบบให้เลือกใช้ วันนี้เราจะมาดูเบาะสองรุ่นใหม่จาก Selle Italia ที่เปิดตัวในงาน Eurobike ปี 2017 ที่ผ่านมานี้พร้อมทดลองใช้งานคร่าวๆ ครับ
1. SP-01 Superflow Series
Selle Italia SP-01 เปิดตัวในงาน Eurobike ปีที่แล้ว และเป็นเบาะที่น่าสนใจทีเดียว ดูจากรูปทรงจะเห็นว่าช่วงหลังของเบาะนั้นผ่าแยกเป็นสองชิ้นโดยไม่มีอะไรเชื่อม!
SP-01 ออกแบบให้เบาะฝั่งซ้ายและฝั่งขวาขยับในแนวตั้งได้เพื่อช่วยลดแรงสะเทือนจากพื้นถนน และช่วยให้สะโพกเราขยับตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติเวลาปั่นโดยไม่ทำให้ผู้ปั่นรู้สึกย้วย ยวบยาบ หรือเสียการทรงตัว
ซีรีย์ SP-01 Tekno Superflow แบ่งออกเป็น 3 รุ่นตามวัสดุที่ใช้และระดับราคา



การออกแบบ
เบาะในซีรีย์ SP-01 ทุกตัวใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในการออกแบบตัวโครงเบาะ จะแตกต่างกันก็ที่วัสดุทำรางเบาะแล้วแต่รุ่นและราคา
เบาะ SP-01 ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงทนทานกว่าวัสดุที่ใช้ทำเฟรมจักรยานเพื่อให้รองรับการใช้งานและน้ำหนักของผู้ปั่นได้ดีกว่า เรียงเส้นใยในทิศทางที่รับน้ำหนักท่านั่ง และเสริมเส้นใยพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแรงเข้าไว้ในชั้นคาร์บอนด้วย
รูปทรงเบาะนั้นรีและยาวพอสมควร แต่มีช่วงเว้าตรงกลางขนาดใหญ่ที่ Selle Italia เรียกว่า ‘Superflow’ ไล่จากหน้าเบาะขยายไปช่วงท้ายเบาะ Selle Italia อ้างว่าจุดเว้านี้จะช่วยลดแรงกดทับฝีเย็บและทำให้ได้ท่าปั่นที่สบายขึ้น
SP-01 มีความกว้างเบาะให้เลือกสองขนาดคือ ไซส์ S (130 x 288mm) และไซส์ L (142 x 288mm)
ลองปั่นครั้งแรก (นัท)
พอได้ลองใช้จริงๆ ทีแรกผมลองเซ็ตแบบมาตรฐาน เซ็ตให้อานระนาบกับพื้น โดยวัดระยะห่างเบาะจากเสต็มให้เท่าเดิม แต่ด้วยความยาวของเบาะ ทำให้มันดูยาวเลยไปด้านหลังเยอะกว่าเดิม
พอลองปั่นด้วยเซ็ตติ้งนี้ กลายเป็นว่า ผมรู้สึกว่าตัวจมไปด้านหลัง เพราะความยาวและที่สำคัญคือ เพราะทรงของเบาะที่ผ่าแยกหลัง ทำให้มันยวบลงไปด้านซ้ายขวาได้ง่ายมาก เมื่อมองจากด้านหลังที่เป็นเหมือนตัว U หันก้นชนกัน ตรงนี้ล่ะครับที่พับลงไปได้ง่าย ไม่แน่ใจว่าเพราะตัวที่ผมลองเป็นวัสดุพลาสติก หรือเพราะน้ำหนักตัวผมเยอะไป (หนัก 77 กิโลกรัม) แต่ก็รู้สึกว่ามันยวบลงไปด้านหลังแบบรู้สึกได้ แม้จะพอปั่นได้แต่ก็ไม่สบาย ออกแรงได้ไม่เต็มที่ น่าจะเป็นเพราะยังเซ็ตเบาะได้ไม่ถูกต้องเท่าไร
รอบที่สองเลยปรับองศาของอานให้เป็นมุมแทยง เพราะชดเชยการยุบตัว ซึ่งถ้าปั่นยาวๆ เกิน 50 กิโล ก็อาจจะรู้สึกเมื่อยหน่อย เพราะก้นเราบดกับตัวอานเยอะ น่าจะต้องหาจุดลงตัวเรื่ององศาให้ดี แต่เรื่องการออกแบบที่แบ่งตัวอานออกเป็นสองส่วนก็ดีตรงช่วยให้สบายตรงฝีเย็บมาก เพราะโล่งสนิท ไม่มีอะไรมากดตรงนี้เลย แต่ถ้าเจอถนนโคลนนี่ทำใจได้เลยครับ เปียกถึงร่องแน่นอน เพราะมันโล่งเหลือเกิน ส่วนที่มันแยกกันเวลาปั่นมันไม่ได้ยุบเท่าไรถ้านั่งได้ถูกต้องครับ เพราะงั้นที่เขาเคลมว่าไม่ทำให้เสียสมดุลท่านั่งก็น่าจะจริง
ข้อดีอีกจุดคือ วัสดุทำผิวหน้าเบาะ จัดว่าเรียบสวย และไม่ลื่น นั่งไปแล้วไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบ่อยๆ และอีกจุดที่ต้องชมเลยคือ เก็บงานได้ดีมาก เบาะแพงๆ หลายตัว ยกด้านใต้มายังเห็นขอบหนังลุ่ยๆ ออกมา แต่ตัวนี้ไม่มีเลย ใครเป็น OCD เห็นความเรียบร้อยแบบนี้แล้วคงยิ้มแน่นอน
ต้องออกตัวไว้ว่าปกติผมไม่ถนัดนั่งเบาะทรงนี้ (ทรงยาว/แหลม ที่คล้าย Fizik Arione หรือ Specialized Toupe เพราะงั้นนั่งยังไงหรือหมุนมุมไหนก็คงหาจุดสบายได้ยากครับ)
2. Novus Boost Series
อีกรุ่นนึงที่เราได้มาลองรอบนี้เป็นเบาะรุ่นใหม่ในซีรีย์ Novus ชื่อ Novus Boost Superflow
Novus จะมีช่วงท้ายเบาะที่กว้างและรีน้อยกว่า SP-01 และสั้นกว่า เป็นเบาะทรงคอมแพค คล้าย Specialized Power
เช่นเดียวกับ SP-01 เบาะ Novus มีให้เลือกสามระดับราคาและวัสดุ


/ ราคา 5,180 บาท

/ ราคา 2,760 บาท
การออกแบบ
เบาะ Novus Boost จะสั้นกว่า Novus Endurance รุ่นเก่า 2 เซนติเมตร ตัวเบาะมีฟองน้ำสองชั้น และตัดเว้าช่องกลางแบบ ‘Superflow’ เพื่อลดแรงกดทับบริเวณฝีเย็บ ระนาบเบาะค่อนข้างสมูททำให้ผู้ใช้ขยับตัวเลื่อนนั่งในตำแหน่งต่างๆ ได้สะดวก ซึ่งจะต่างจากดีไซน์เบาะทรงนี้อย่าง Specialized Power ที่ออกแบบให้นั่งในท่าเดียว
ช่วงท้ายของเบาะมีหนังนูบัคหุ้มเพิ่มคอนทราสต์และดูสวยงามดีครับ
ลองปั่นครั้งแรก (คูน)
เท่าที่เราลองใช้งาน ก่อนหน้าลองเบาะตัวนี้ผมใช้เบาะ Specialized Romin Evo Pro รางคาร์บอน ขยับมาเป็นเบาะ Novus Boost Carbonio Superflow แทบจะไม่รู้สึกถึงความต่าง (เป็นเรื่องดีครับ) รูปทรงโดยพื้นฐานใกล้เคียงกัน ถึงเบาะ Novus จะสั้นกว่า Romin Evo แต่ขยับตัวไปมาบนเบาะได้ง่ายกว่า ดีสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบ่อยๆ
ปกติเวลาจะเค้นออกแรงเยอะๆ เราจะชอบนั่งหน้าเบาะกันเพื่อให้น้ำหนักตัวเรากดลงเหนือกระโหลกจักรยานได้แบบเน้นๆ แต่อาจจะเจ็บ sit bone และนั่งท่านี้นานไม่ได้ เบาะตัวนี้ด้วยที่มันมีบุฟองน้ำมาหนาตลอดทั้งช่วง ทำให้นั่งหน้าเบาะได้นานกว่าเดิม ลองใช้มาเกือบเดือนนึงก็ยังไม่พบปัญหาอะไร ใช้งานได้ดีในทุกเส้นทางและระยะเวลาที่ปั่นครับ
ถือว่าเป็นอัปเกรดจากตัว Romin Evo Pro ทั้งสองตัวใช้โครงสร้างโครงเบาะเป็นพลาสติก แต่ใช้รางคาร์บอนเหมือนกัน แต่ Novus Boost เบากว่าประมาณ 20 กรัม
โดยรวมแล้ว Selle Italia ทั้งสองรุ่นใหม่นี้ทำออกมาได้น่าสนใจดี และเป็นอีกทางเลือกของคนที่รู้ว่าตัวเองใช้เบาะทรงไหนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น เบาะเป็นอะไรที่เฉพาะตัวครับ ถึงคนนึงจะนั่งได้สบายก็ใช่ว่าเราจะใช้แล้วสบายเหมือนเขา ต้องเลือกเบาะที่มันเข้ากับสรีระของเราจริงๆ บางคนลองเป็นสิบรุ่นยังไม่เจอ บางคนลองรุ่นเดียวก็เจอที่ใช่แล้ว
* * *
ขอบคุณ Hah Hong ที่ส่งเบาะมาให้เราทดลอง ใครสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Hah Hong ครับ